ภายหลังการคลายล็อกพรรคการเมืองสามารถจัดทำกิจกรรมได้ภายในพรรค เพื่อความพร้อมในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 ประจวบเหมาะกับท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศว่า “มีความสนใจงานการเมือง”
มีรายงานว่า ล่าสุดกลุ่มไซเบอร์ที่สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับคณะ คสช.และทหารได้มีความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียกันอย่างคึกคัก มีการนำประเด็นความสนใจในงานการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปโจมตีบางเพจเฟซบุ๊คมีการจัดให้โหวตโดยตั้งหัวข้อทำนองว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ลงเล่นการเมืองจะเลือกหรือไม่เลือกมีข้อน่าสังเกตว่าทันทีที่มีการเปิดให้โหวต
จะมีผู้ใช้เฟซบุ๊คเข้าไปโหวตกันอย่างรวดเร็วทุกครั้งและส่วนใหญ่จำนวนมากจะโหวตไม่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ทั้งนั้นเป็นกลุ่มเดิมๆ ซ้ำกัน ผู้ที่เคยร่วมทีมนักรบไซเบอร์ที่สนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลคสช. ให้ข้อมูลว่า เขามีการทุ่มทุนมีทีม monitor 24 ชม. พอเปิดโหวตก็จะมีทีมที่กระจายข้อมูลออกไปให้เครือข่ายเข้าไปโหวต แล้วมีการใช้ robot เข้าไปช่วยโหวตด้วย ถึงมีจำนวนมากในเวลาน้อย เพราะมี software ที่สามารถทำให้เบอร์เดียวเข้าไป like ไปโหวตได้เป็นพันๆ ครั้ง
อดีตนักรบไซเบอร์คนหนึ่งได้บอกว่าเทคนิคดังกล่าว มีการใช้กันแพร่หลาย ไม่ใช่แค่ในทางการเมือง การขายของผ่านเพจเฟซบุ๊คก็ใช้เทคนิคคล้ายกัน การเพิ่มจำนวนไลน์ หรือการกระหน่ำโหวตมันมีผลในแง่จิตวิทยาอย่างการเปิดโหวต เลือกไม่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งก็ใช้เทคนิคนี้แล้วกระจายผลโหวตออกไปในเครือข่ายที่มีจำนวนมากตามโซเชียลมีเดียซึ่งมีผลทางจิตวิทยา แม้อาจจะไม่ทำให้คนจำนวน 100 คน คล้อยตามผลโหวตทั้ง 100 คน
เขาขอแค่ให้คล้อยตามสัก 10 คนพอ แล้วคิดดูคนไทยใช้โซเชียลเล่นเฟซบุ๊คกันกี่ล้านคน คล้อยตาม10% ก็มีผลทางการเมืองแล้วอดีตนักรบไซเบอร์รายนี้กล่าว นอกจากนี้ในไลน์กลุ่มยังมีการกระจายข่าวโจมตีพลเอกประยุทธ์และภริยาหลายๆ ครั้ง ซ้ำๆ สร้างกระแสเกลียดชังทหารก็ทำกันแบบเป็นล่ำเป็นสันเอาเรื่องโกหกมาโจมตีซึ่งไม่ได้โจมตีบิ๊กตู่คนเดียวเท่านั้นแต่ยังเอานายทหารคนอื่นๆ มาโจมตีเอาเรื่องโกหกมาใส่ร้ายอีกหลายคนเป็นการฉุดกำลังใจของผู้นำรัฐบาลให้อารมณ์เสีย
อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐได้ก่อตั้งเป็นรูปเป็นร่างมี 4 รัฐมนตรีในครม.ลุงตู่ ได้แก่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ไปทำหน้าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นรองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นเลขาธิการพรรค, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูลรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นโฆษกพรรค
ส่วนกลุ่มสามมิตรนั้นได้รับการยืนยันว่าทั้งหมดหรือส่วนใหญ่จะมาอยู่ในพรรคพลังประชารัฐเพื่อเกาะกลุ่มกันเข้าสภาให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในพรรคเดียวกันแต่กระจายไปอยู่ในหลายๆพรรค รอผลการเลือกตั้งอย่างเดียวเท่านั้น ในขณะที่นายทุนพรรคนั้นไม่มีการเผยหน้าออกมาให้เป็นจุดอ่อนว่าใครมั่ง ที่รู้ๆ ก็คือมหาเศรษฐีพันล้านเหรียญส่วนใหญ่เทใจไปช่วยลุงตู่นั่นเอง
ทางด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่าเช้าวันที่ 5 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ไปตรวจราชการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยในเวลา 07.30 น. นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังสวนลุมพินี เพื่อสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6และร่วมกิจกรรมการออกกำลังกายกับประชาชนภายในบริเวณสวนลุมพินี
จากนั้นเวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรีจะออกเดินทางโดยรถไฟฟ้ามหานคร จากสถานีรถไฟฟ้าสีลม ไปยังสถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง เพื่อตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง และการเดินทางโดยรถไฟรางคู่ของประชาชน โดยพล.อ.ประยุทธ์ จะร่วมกิจกรรมระบายสี MRT happy blue line ของนักเรียนโรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม และกิจกรรม give book get black with MRTรับบริจาคหนังสือจากผู้โดยสาร เพื่อนำไปพัฒนาห้องสมุดต่างๆ โดยผู้โดยสารที่ร่วมบริจาคหนังสือจะได้รับต้นไม้เป็นของที่ระลึกด้วย
การออกไปพบปะประชาชนของพล.อ.ประยุทธ์ ครั้งนี้เป็นการสร้างฐานคะแนนนิยมและเป็นการรับฟังปัญหาร้อยแปดในนครหลวงของประเทศและเป็นฐานคะแนนนิยมใหญ่ของรัฐบาลที่มีแต้มต่อมากกว่าพื้นที่ที่เป็นฐานเสียงของฝ่ายตรงข้ามกับคณะรัฐบาล พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีประชากรมาอยู่มากกว่า 10 ล้านคน หากได้แต้มต่อตรงนี้มากก็จะเป็นประโยชน์แก่รัฐบาลนั่นเอง
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี