เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายชินโสะ อาเบะ กำลังวิตกกังวลกับปัญหาคนยากจนและคนจรจัดเร่ร่อนรวมไปถึงคนในวัยชราของญี่ปุ่นที่กำลังมีปัญหามากขึ้น ประเทศญี่ปุ่นมีประชากร 126.67 ล้านคน และมีคนชราที่อายุเกิน 65 ปี อยู่ร้อยละ 28 หรือประมาณ 35.46 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นบุรุษเพศ 17.4 ล้านคน และสตรีเพศหรือผู้หญิง 18 ล้านคน
ซึ่งสตรีญี่ปุ่นในวัยชรา 18 ล้านคน นั้นมี 6 ล้านคน ที่จัดว่ามีฐานะยากจนได้รับบำนาญจากภาครัฐน้อยทำให้ไม่พอในการใช้จ่ายจึงทำให้สตรีญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยคือประมาณ 3 แสนคน ได้ใช้พฤติกรรมขอไปอาศัยอยู่ในเรือนจำดีกว่าด้วยการยอมกระทำผิดก่อคดีอาชญากรรมทำผิดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อขอเข้าไปอยู่ในเรือนจำที่คุมขังเฉพาะสตรีเนื่องจากมีสตรีในวัยชราเป็นจำนวนมากสามีถึงแก่กรรมไปแล้วทำให้เธอต้องอยู่บ้านหลังเล็กๆ เพียงคนเดียว
ในขณะที่ลูกหลานนั้นไม่มาหาเธออาจจะเรียกว่ามีการทอดทิ้งให้แม่อยู่เพียงลำพังเท่านั้น เรื่องเช่นนี้ในประเทศไทยของเราเองก็มีปัญหาเพราะประชากร 66 ล้านคน ของเรานั้นมีจำนวนคนชราอยู่ถึง 10.3 ล้านคนแล้วปัจจุบันในชนบทของไทยแทบทุกๆ ภาคจะพบว่ามีคนชราทั้งเพศชายและเพศหญิงอยู่ด้วยกันตามลำพังไม่มีบุตรหลานดูแล
ถ้าหากครอบครัวคนชราเหล่านั้นมีฐานะร่ำรวยมีเรือกสวนไร่นาหรือว่ามีบำนาญพอสมควรก็ไม่เดือดร้อนพอประทังชีวิตให้รอดไปได้แต่ถ้าหากยากจนก็จะพบว่าในตัวเมืองใหญ่ๆ อย่างในกรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, นครราชสีมา,ขอนแก่น ฯลฯ มีคนเร่ร่อนจรจัด หรือคนพิการออกมานอนในที่สาธารณะเพิ่มมากขึ้น
ถึงแม้เราจะมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ปัจจุบันมีพลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการ มี ดร.ปรเมธี วิมลศิริเป็นปลัดกระทรวง และมีกรมกิจการผู้สูงอายุซึ่งได้รับงบประมาณเพียงปีละ 420 ล้านบาท คงไม่สามารถดูแลคนในวัยชราทั้งชายและหญิงประมาณ 10 ล้านคน ให้อยู่อย่างดีได้ถ้าหากจัดเอาคนในวัยชราที่มีฐานะดีและมีลูกหลานดูแลประมาณ 5 ล้านคน ออกไปก็จะเหลือคนชราอีก 5 ล้านคน ที่ช่วยตัวเองไม่ได้
สำหรับสื่อมวลชนของเรานั้นมีหลายๆ สำนักได้เผยแพร่ปัญหาคนชราที่เร่ร่อนจรจัดมาโดยตลอดเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับสถานการณ์บ้านเมืองที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 มีหลายพรรคการเมืองได้หยิบยกเอาปัญหาคนเร่ร่อนจรจัดมาพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาในขณะที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แก้ปัญหาด้วยการตั้งกองทุนขึ้นมาดูแลผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจน
แต่วงเงินที่ตั้งขึ้นนั้นมีจำนวนเงินไม่กี่ร้อยล้านบาทมันไม่น่าจะพอแก้ไขคนที่ยากจนเร่ร่อนจรจัดได้เลยเพราะมีคนที่ต้องดูแลหลายล้านคนแต่ละคนต้องใช้เงินต่อเดือนคนละหลายพันบาทซึ่งปัญหาเรื่องนี้พรรคการเมืองที่กำลังรณรงค์หาเสียงอยู่ในขณะนี้จะมีวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างไรจะทำให้ปัญหาคนเร่ร่อนจรจัดที่มีอยู่ในขณะนี้เป็นจำนวนหลายหมื่นคนดำรงชีพอยู่ได้โดยไม่เป็นภาระต่อสังคม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี