“กินเจ” ในประเทศไทย ได้กลายเป็น “แฟชั่น” มาหลายปีแล้ว โดย “กินเจ” น่าจะ “ฮอตสุดฮิต” มากกว่า “มังสวิรัติ” เพราะไม่เพียงแต่คนไทยเชื้อสายจีนเท่านั้นที่ชอบกินเจ แม้แต่คนไทยเชื้อสายชาติอื่นๆ ก็พลอยรับประทานเจไม่กินชอไปด้วย
“ทั้งนี้เพราะคนไทยทุกเชื้อสาย ส่วนใหญ่มีนิสัยและอารมณ์แบบ ไฟไหม้ฟาง อะไรที่เป็นแฟชั่นเล่นกันสุดมันชั่วครั้งชั่วคราวคนไทยชอบ อะไรที่จะต้องทำกันอย่างยาวนานซ้ำๆ ซากๆ คนไทยเบื่อ”
จึงไม่น่าแปลกใจ “มังสวิรัติ” ที่ต้องปฏิบัติการ“กินผักไม่กินเนื้อ” อย่างยาวนานนับเป็นปีๆ และอาจยาวนานตลอดชีวิตนั้น จึงมีคนไทยจำนวนค่อนข้างน้อย“ที่อุทิศชีวิตเป็นชาวมังสวิรัติ”
ส่วน “กินเจ” นั้น เป็นเทศกาลเกิดขึ้นปีละครั้งด้วยระยะเวลาสั้นๆ โดยหลังจากมี “เทศกาลไหว้พระจันทร์ ผ่าน 15 วัน” ก็จะมีรายการ “เทศกาลกินเจตามมา เพียง 9-10 วัน”เท่านั้น จึงทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ “เบื่อง่ายหน่ายเร็ว”ยอมอดทน “กินเจไม่กินชอ” ได้ปีละครั้งจนกลายเป็น “แฟชั่น” อยู่ในขณะนี้
“ตำนานกินเจ” นั้น เกิดขึ้นในแผ่นดินจีนกว่า 1,000 ปีแล้ว โดยมีที่มาหลายตำนานด้วยกัน
บ้างก็ว่ามาจากตำนานเจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ บ้างก็ว่ามาจากตำนาน “นักรบแห่งหมู่บ้านหงี่หั่วท้วง ที่ทำพิธีนุ่งขาวห่มขาวและกินเจก่อนออกรบต่อต้านการรุกรานของกองทัพแมนจู” แต่สุดท้ายก็ถูกแมนจูฆ่าตายทั้งหมู่บ้าน อีหรอบเดียวกับ “ชาวบ้านบางระจัน” ก่อนออกรบต่อต้านกองทัพพม่า ก็มีการ “ทำพิธีตัดไม้ข่มนาม” แต่สุดท้ายก็ถูกพม่าฆ่าหมดทั้งหมู่บ้านเช่นกัน
บ้างก็ว่ามาจาก “ลัทธิกราบไหว้ 9 เทพเจ้าของชาวจีน”ซึ่งเป็นเทพมีอิทธิฤทธิ์ต่อ “ธาตุทั้ง 5” ได้แก่ “ดิน น้ำ ลม ไฟและทอง” ของชาวจีนทั่วโลก
“กินเจ” ในความหมายที่เป็น “คำสแลง” ในปัจจุบัน หมายถึง “ตำรวจหมดโอกาสรีดไถชาวบ้านและหมดโอกาสกินส่วยจากธุรกิจสีเทา” รวมถึง “นักเลือกตั้งที่ต้องไปปลีกวิเวกถือศีลกินเจอยู่ในถ้ำ” หลังจากเรือแป๊ะเข้ามายึดอำนาจรัฐ
ในอีกไม่ช้า “เรือแป๊ะ” กำลังจะพ้นจากอำนาจรัฐ “นักการเมืองทั้งหลายก็จะหลุดเจและกินชอได้อย่างสนุกสนาน” ทุกคนจะใช้ “ชิวหาอัศจรรย์” ไล่ล่าขุมทรัพย์โซโลมอนอย่างสุดเจ็บ
ส่วน “ตำรวจทั้งหลาย” เมื่อ “ออกเจกินชอ” แล้วจะรีดไถชาวบ้านและกินส่วยจากธุรกิจสีเทาหรือไม่? อันนี้ไม่ขอฟันธงจ้า
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี