นานๆ จะมีข่าวดีๆ เกี่ยวกับพรรคการเมืองในประเทศไทย
ทำดี ต้องชม ต้องสนับสนุน
ทำเลว ต้องตำหนิ คัดค้าน
แต่เรื่องนี้ ถือว่าทำดี ต้องชื่นชมและสนับสนุนอย่างจริงใจ
1. พรรคประชาธิปัตย์ ดำเนินการให้สมาชิกพรรคทุกคน มีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรค โดยจะให้สมาชิกพรรคได้ลงคะแนนเสียง แล้วใครได้คะแนนสูงสุด ก็จะเสนอชื่อคนนั้นให้ผู้บริหารพรรคดำเนินการตามกฎหมายเพื่อแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการต่อไป
เมื่อวานนี้ เปิดสมัครบุคคลชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปรากฏว่า ได้มีการจับหมายเลขประจำตัวผู้สมัครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้หมายเลข 1
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ได้หมายเลข 2
และนายอลงกรณ์ พลบุตร ได้หมายเลข 3
ต้นเดือน พ.ย. จะให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ลงคะแนนเลือกต่อไป
2. เดิม พรรคประชาธิปัตย์มีสมาชิกพรรคจำนวน 2,895,747 คน
แต่หลัง คสช.ให้สมาชิกเดิมต้องยืนยันสมาชิกภาพใหม่ก็ปรากฏว่า ทุกพรรคมีสมาชิกน้อยลงอย่างชัดเจน
ปัจจุบัน พรรคประชาธิปัตย์ มีสมาชิกจำนวน 97,755 คน
ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ เช่น
พรรคเพื่อไทย ปัจจุบันมีสมาชิก 9,705 คน จากยอดเดิม 134,748 คน
พรรคภูมิใจไทย 934 คน จากยอดเดิม 153,071 คน
พรรคชาติพัฒนา 5,583 คน จากยอดเดิม 19,563 คน
พรรคชาติไทยพัฒนา 2,886 คน จากยอดเดิม 26,022 คน เป็นต้น
3. ขอเชียร์ให้พรรคการเมืองทุกพรรค ดำเนินการให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมในการเลือกตัวหัวหน้าพรรค
อย่างน้อยก็ควรทำแบบพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่คู่แข่งขันกันอย่างพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่พรรคพลังประชารัฐ
เพื่อให้สมาชิกพรรคของตนได้มีส่วนร่วม ตามเจตนารมณ์ของการเป็นพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย มิใช่เป็นบริษัทจำกัดส่วนตัวของนายทุนพรรค หรือของครอบครัวหัวหน้าผู้ก่อตั้งพรรค
อย่าลืมว่า ตามกฎหมาย สมาชิกพรรคจะต้องจ่ายเงินค่าสมาชิกบำรุงพรรค ต้องมีความเป็นเจ้าของพรรค มีส่วนร่วมในการบริหารพรรค เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองควรดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
4. ขณะนี้ มีพรรคประชาธิปัตย์ที่ประกาศและดำเนินการชัดเจน เป็นรูปธรรมที่สุด
ใครอยากมีส่วนร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่เห็นความสำคัญของสมาชิก ก็สามารถไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้ เขาเปิดหลายช่องทาง ทั้งสมัครสมาชิกด้วยตนเองได้ที่ที่ทำการพรรค สมัครสมาชิกผ่านแอพพลิเคชั่น D-Connect เป็นต้น
ข้อดีสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ คือ กระบวนการนี้ จะทำให้ประชาธิปัตย์ได้นำเสนอแนวทางอุดมการณ์ของพรรคต่อสาธารณชนวงกว้าง เพราะวงการเมืองย่อมสนใจติดตาม ไม่เฉพาะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น คนที่ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือเคยเป็นสมาชิกพรรคอื่น ย่อมเห็นเจตนาดีของพรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงความเคารพในประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง แตกต่างจากพรรคการเมืองที่ไม่เคยเห็นหัวสมาชิกพรรค
ย่อมจะเกิดภาพเปรียบเทียบชัดเจน
พรรคประชาธิปัตย์ย่อมตุนคะแนนในเชิงการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงไปแล้วก้าวหนึ่ง
เพียงแต่ต้องระวัง ไม่ทำให้เสียของ ไม่ปล่อยให้มีการสาดโคลนกันเองจนเละตุ้มเปะ แต่ควรทำให้การแข่งขันครั้งนี้ออกมาในทางสร้างสรรค์ ผู้แข่งขันอาจจะหยิบเอาผลงานของตนเองออกมาบอกกล่าว เช่น นายอภิสิทธิ์เคยมีผลงานอะไร นพ.วรงค์เคยมีผลงานอะไร นายอลงกรณ์เคยมีผลงานอะไร ซึ่งผลดีก็คือผลงานเหล่านั้น ล้วนแต่เป็นผลงานจริงของพรรคประชาธิปัตย์นั่นเอง เท่ากับว่าพรรคได้หาเสียงก่อนใครเพื่อน
5. เปรียบเทียบกับอีกด้านหนึ่ง ปรากฏข่าวไม่เว้นแต่ละวัน คือ การเดินเกมการเมืองแบบเดิมๆ ประเภทที่จะให้ใครเป็นหัวหน้าพรรคก็แล้วแต่นายทุนเจ้าพรรค
ถึงขนาดว่า อาจจะมีหลายพรรค ตั้งหลายชื่อ ใช้คำคล้ายๆ กัน ให้รู้กันไปเลยว่าอยู่เครือเดียวกัน
แต่ตั้งขึ้นมา “เพื่อเก็บคะแนน” หวังผลในทางการเมืองเพื่อให้ตัวเองได้อำนาจรัฐอย่างเดียว
ไม่สนใจการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรคอะไรเลย
จะให้ใครเป็นหัวหน้าพรรค ก็ขึ้นอยู่กับคนในตระกูลเดิม ตระกูลเดียว
ถามว่า ตั้งพรรค “เพื่ออะไร?” ก็เพื่ออำนาจของคนตระกูลเดิม
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี