ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่จะมาถึงนี้ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 30 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 18-25 ปี ที่จะมีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกเกือบ 10 ล้านคน ซึ่งอาจนับได้ว่ามีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด
ผลโพลล์ของนักศึกษา 19 สถาบันระบุว่า 74% สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นตกใจ เพราะพรรคอนาคตใหม่กำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้ง และแกนนำทั้งหลายก็เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ไม่เคยลงสนามการเมืองเลือกตั้งมาก่อนเลย
ส่วนอีก 2 ใน 3 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นประกอบด้วยผู้สูงวัย อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีจำนวนถึง 1 ใน 3 และผู้คนในวัยทำงานอีก 1 ใน 3 แต่สัดส่วน 2 ใน 3 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มนี้จะมีลักษณะกระจายตัว คือ อาจเลือกพรรคการเมืองทุกพรรคตามแต่ความชอบใจของตน ดังนั้นสัดส่วน 2 ใน 3 นี้จึงกระจัดกระจาย
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสัดส่วน 2 ใน 3 ดังกล่าวนี้ มีจำนวนรวมกันเกือบ 20 ล้านคน แต่จำนวนเกือบ 10 ล้านคนกำลังมีปัญหาใหญ่หลวง ที่กระทบกระเทือนต่อชีวิตสุขภาพอนามัยและความเป็นอยู่ของชีวิตและสังคมของตนอย่างรุนแรง แต่ปรากฏว่าปัญหาของคนเกือบ 10 ล้านคนนี้กลับไม่มีผู้ใดนำพาเอาใจใส่แก้ไขปัญหาให้เลย
คนกลุ่มใหญ่เกือบ 10 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 3 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ประกอบด้วย
กลุ่มแรก คือเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสารพิษยาฆ่าหญ้า ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของเกษตรกรและประชาชน เป็นความเดือดร้อนที่ประจักษ์ชัดเจนและความจริงก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า สารดังกล่าวเป็นพิษร้ายแรง ผู้ผลิตก็เลิกผลิตไปแล้ว และถูกศาลพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล ซึ่งประเทศไทยก็รู้ว่าเป็นพิษร้ายแรง จนผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องออกหน้าต่อต้านอย่างรุนแรง เพื่อให้เลิกใช้ทันที
แต่ผู้มีอำนาจในเรื่องอนุญาตให้ใช้สารพิษกลับอนุญาตให้ใช้ต่อไป โดยไม่นำพาต่อความเดือดร้อนและอันตรายร้ายแรงที่บังเกิดขึ้น
ประชาชนจึงหมดหวังที่จะพึ่งพาผู้ใด และต่างดิ้นรนหาวิธีการต่อสู้ กระทั่งรณรงค์กันว่าอย่าไปเลือกพรรคการเมืองใดๆ ที่ไม่มีนโยบายหรือท่าทีที่จะให้เลิกใช้ยาพิษดังกล่าว
กลุ่มที่สอง คือกลุ่มผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงอีกหลายโรค รวมทั้งญาติและครอบครัวซึ่งหมดหนทางรักษาโดยวิธีการรักษาแบบแผนปัจจุบัน และต้องการแสวงหาทางเลือกเพื่อเอาชีวิตรอด โดยมีหลักฐานปรากฏเป็นที่ยอมรับในหลายประเทศทั่วโลกแล้วว่า สารสกัดจากกัญชาสามารถรักษาโรคร้ายดังกล่าวได้หลายโรค แม้ในวาระสุดท้ายของชีวิตก็สามารถบรรเทาความเจ็บปวดและทำให้คนไข้ตายตาหลับ ไม่ต้องทุกข์ทรมาน ที่สำคัญคือไม่ล้างผลาญเงินทองของคนอยู่ข้างหลังเหมือนดังที่เป็นอยู่
ประชาชนผู้ทุกข์เข็ญเหล่านี้มีจำนวนหลายล้านคนได้เรียกร้องขอความเมตตาปรานี แต่กลับไม่มีใครนำพา มิหนำซ้ำยังออกท่าที่จะถ่วงเวลาให้คนเจ็บตายต่อหน้าต่อตาโดยไม่ไยดี และยังมีท่าทีที่ถ้าหากทนกระแสไม่ไหวก็จะให้มีการผูกขาดแบบเดียวกับบุหรี่และสุรา ซึ่งไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
ประชาชนหมดที่พึ่งแล้ว จึงทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพึ่งพระบารมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและอยู่ระหว่างการพิจารณา
กลุ่มที่สาม ได้แก่ กลุ่มข้าราชการประมาณ 3 ล้านคน ที่เป็นหนี้สินมากมายมหาศาล และหลายกระทรวงมีหนี้สินสูงชนิดที่ล้นพ้นตัว จนไม่สามารถชำระหนี้ได้ และก่อให้เกิดสภาพกู้หนี้ใหม่ ล้างหนี้เก่า แต่เพิ่มยอดหนี้มากขึ้นเป็นลำดับ จนยอดหนี้รวมทั้งหมดมากกว่า GDP ของประเทศไปแล้ว ทั้งเป็นต้นเหตุของความไร้ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เป็นต้นเหตุของการฆ่าตัวตายของข้าราชการ และเป็นต้นเหตุของการคอร์รัปชั่นในวงราชการด้วย
ทั้งสามกลุ่มนี้ล้วนเดือดร้อนแสนสาหัส แต่กลับไม่มีการนำพาที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้หมดสิ้น อย่างมากก็แก้ผ้าเอาหน้ารอดขอไปที ซึ่งทำให้ประชาชนผิดหวังและตกอยู่ในสภาพมีชีวิตอยู่แบบซังกะตาย ไม่รู้จะผินหน้าไปหาใคร
จนหนทางเข้าแล้วก็มีการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ซึ่งการเกิดกรณีเช่นนี้ควรที่ผู้มีอำนาจหน้าที่จะได้สำเหนียกในความรับผิดชอบและรู้สึกละอายแก่ใจบ้าง ว่าได้สร้างความเดือดร้อนต่อพระเจ้าแผ่นดินทั้งที่ตัวเองมีหน้าที่ต้องทำนุบำรุงราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุข
มีอำนาจหน้าที่แต่ไม่ทำหน้าที่ ปล่อยให้ราษฎรเดือดร้อนทุกข์เข็ญเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งถึงวันนี้ประชาชนต่างทำความเข้าใจร่วมกันแล้วว่า สภาพความเดือดร้อนทุกข์เข็ญที่เป็นไปในบ้านเมืองนั้นจำเป็นที่จะต้องได้มาซึ่งคนดีมีฝีมือ ที่เอื้ออาทรต่อความทุกข์ร้อนของราษฎร
ดังนั้นพรรคใดก็ตาม นักการเมืองคนไหนก็ตามที่ใจไม้ไส้ระกำ ไม่เห็นความเดือดร้อนของราษฎร หรือเห็นแล้วก็ทำเป็นเพิกเฉย หรือไม่มีสติปัญญาที่จะแก้ไขปัญหา ก็เป็นการเสียเวลาที่จะเลือกหาเข้ามาดูแลบ้านเมืองและราษฎรต่อไป
เหตุนี้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหลายจึงต้องปักใจให้มั่น พยายามสรรหาพรรคการเมืองและนักการเมืองที่นำพาต่อทุกข์สุขและความเดือดร้อนของราษฎร อย่าได้หลงคำหลอกลิ้นลมลวงของใครไหนเป็นอันขาด!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี