ชื่อเรื่องวันนี้เป็นชื่อเรื่องที่จะนำมาพูดในวันนี้ เพราะเป็นความจริงในเหตุผลว่า คนเป็นผู้นำในการบริหารบ้านเมืองจะเป็นตัวชี้วัดให้เห็นถึงเรื่องที่ว่า บ้านเมืองที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคนเป็นผู้นำในการบริหารนั้นจะเป็นอย่างไร คือดีหรือไม่ดี
ถ้าบ้านเมืองมีผู้นำแบบขี้เมาสวดมนต์ ก็อย่าหวังเลยว่าบ้านเมืองจะไปด้วยดี ตรงทิศตรงทางตรงเป้าหมาย เพราะมนต์ที่สวดนั้นจะสะเปะสะปะไปตามฤทธิ์เมาของขี้เมาสวดมนต์คนนั้น เปรียบเสมือนผู้นำซึ่งบริหารบ้านเมืองไปตามฤทธิ์เมาแห่งอำนาจที่มีอยู่
สี่ปีผ่านไปและกำลังเข้าปีที่ห้าของการได้อำนาจมาบริหารบ้านเมืองจากการทำรัฐประหารนั้น บ้านเมืองเป็นอย่างไร ประชาชนในบ้านเมืองได้รับผลดีขึ้น หรือยังไม่ดีเลยนั้น ทุกคนเห็นอยู่แก่ใจ เสียงบ่นเสียงว่าและเสียงด่าได้ยินกันมากขึ้นตามลำดับ
โดยเฉพาะเสียงบ่นเสียงว่าดังต่อไปนี้
1.การแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจใช้วิธี “โปรยทาน”
เมื่อเงินฝืดก็แก้ด้วยการทุ่มเงินมาหนึ่งก้อน ซึ่งจะไหลกลับไปยังที่มา หรือแหล่งเงินทุน หรือธนาคารที่รัฐกู้มา เป็นการแก้ไขเพื่อช่วยคนรวยมากกว่าคนจน
2. ศาสตร์พระราชาไม่เคยได้ทำตามเลย
วิธีแก้ไขที่ทีมเศรษฐกิจได้นำมาใช้ทุกครั้งคือ “ประชานิยม” ไม่ใช่ความพอเพียง หรือความพอดีแบบทางสายกลาง แต่เป็นสายสุดโต่ง แจกด้วยเงินรัฐ เพื่อให้คนชอบ
3.ยังไม่มีการปฏิรูปใดๆเกิดขึ้น
จากวันที่ทำรัฐประหารมาจนถึงวันนี้ ประเทศไทยก็ยังเหมือนเดิม ตั้งแต่หวยแพงจนถึงการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะระบบราชการที่ไม่มีการยกเครื่องใหม่ ข้าราชการก็ต้องเป็นขี้ข้าของพวกคนมีอำนาจ หรือนักการเมืองเลวๆที่มีอำนาจอยู่ต่อไป
4.การถ่วงดุลอำนาจที่ประชาชนมีส่วนร่วมยังไม่มี
รัฐธรรมนูญฉบับนี้เทอำนาจให้ฝ่ายบริหาร และยังคงมีอำนาจต่อไปในวันข้างหน้าตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งเท่ากับว่าประเทศไทยยังไม่พ้นการเมืองอุบาทว์
หยิบยกมาให้ฟังอีกครั้งหนึ่งในวันนี้เพราะเห็นว่ามีเนื้อหาที่สมจริงกับความเป็นไปของบ้านเมืองขณะนี้ ที่รัฐประหารมีอำนาจเกือบห้าปียังไม่มีอะไรดีขึ้นกับผู้คนในบ้านเมืองที่ยังยากจนข้นแค้น โดยเฉพาะผู้คนในระดับล่างที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศขณะนี้
ขอให้ผู้มีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองสนใจบ้าง เหลียวหลังไปดูว่าการทำงานของตนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เพื่อหาทางแก้ไขและจัดการให้ถูกต้อง
บางเรื่องที่ยังไม่ควรทำในขณะนี้เพราะไม่มีเงิน ก็ควรต้องหยุดไว้ก่อนอย่าเพิ่งทำ เช่น ซื้อเรือดำน้ำ สร้างรถไฟความเร็วสูง เอาที่เอาทางบางพื้นที่ไปให้พวกต่างชาติโดยหวังให้เขามาลงทุน ยกประโยชน์หลายอย่างให้เขาโดยไม่นึกถึงวันข้างหน้า
บางคนที่รับผิดชอบทางเศรษฐกิจออกมาพูดจาในลักษณะที่ว่าต้องสร้างยอดบนให้ใหญ่โตก่อน โดยไม่คำนึงถึงส่วนล่างที่เป็นฐานหลักในการรองรับยอดบน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ก็มีแต่พังทลายเพราะฐานล่างที่รองรับไม่แข็งแรงพอ
อย่างที่ “คุณธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” เคยพูดเตือนไว้ว่า
“...การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล คสช. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ไม่ คือ “ไม่กระจาย” และ “ไม่พอเพียง” กับ “1 มุ่ง” คือ มุ่งหาประโยชน์ทางการเมือง และผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลยังคงกระจุกตัวอยู่ที่ระดับบน ...”
นี่คือความเห็นของผู้รู้และผู้ชำนาญในการบริหารทางเศรษฐกิจในบ้านเรา ที่ผู้มีอำนาจหน้าที่บริหารบ้านเมืองอยู่ในขณะนี้ต้องรับฟังบ้าง
อย่าใช้แต่วาทกรรมพูดอย่างนั้นอย่างนี้ให้เชื่อถือ เพราะในภาพรวมของสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ที่อยู่ในอำนาจของคนถือปืน ยังไม่มีอะไรดีขึ้นจริงๆ
ความวิกฤติต่างๆยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
เหมือนไฟที่ยังคงไหม้บ้านยังไม่ดับ และบางแห่งก็ลุกโชนขึ้นมาอีก เฉพาะอย่างยิ่งในความวิกฤติทางเศรษฐกิจ ผู้คนยากจนลงไปกว่าเดิม นำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธาเชื่อถือในตัวผู้นำและคณะผู้บริหารบ้านเมืองในขณะนี้
จะพูดจาอะไรในการอวดตัว อวดสรรพคุณอย่างนั้นอย่างนี้ในภาวการณ์อย่างนี้ ต้องระมัดระวังให้ดี และมีความเหมาะสมตามข้อเท็จจริง และต้องระลึกตลอดเวลาว่า “กลองที่จะดังนั้น ต้องมีคนตี แต่กลองอัปรีย์มันดังเอง”
ผู้นำหรือผู้บริหารงานบ้านเมืองที่ดีนั้น ต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีของประชาชน ในยามที่ประชาชนเหนื่อยยากและทุกข์ยาก ก็ต้องรู้จักทำงานแก้ไขปัญหาให้กับพวกเขาด้วยการไม่ฟุ่มเฟือยเงินทองที่มาจากภาษีของชาวบ้าน จะกินจะใช้จ่ายอะไรจากเงินหลวงก็ต้องรู้จักบันยะบันยัง เอาใจใส่ดูแลกำกับลูกน้องในบังคับบัญชาให้ถือตาม ปฏิบัติตามด้วย
เพราะถ้าผู้นำไม่ดี บ้านเมืองก็ยากจะดีตาม อย่างชื่อเรื่องวันนี้นั่นเอง
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี