l ประวัติศาสตร์ประชาธิปไตย : ต้องมีการสรุปประเมินผล ให้รู้ถูกผิด เพื่อหาทางใหม่ที่เปลี่ยนแปลงได้จริง
เจี๊ยบ & โจ๊ก ลูกรัก
1. ลูกจำได้ไหม พ่อเคยบอกให้ลูก ต้องหมั่นสรุปบทเรียน เพื่อเดินก้าวไปข้างหน้าได้อย่างถูกต้อง มั่นคง
เริ่มจาก ต้องรู้และเข้าใจว่า “การสรุปบทเรียนของการทำงานและชีวิตที่ผ่านไป มีคุณค่าและความหมายยิ่ง”
1) การสรุปบทเรียนของชีวิตคนคนหนึ่ง ควรต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะทุกเหตุการณ์ใหม่ มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นเสมอ
คนเรา ทำผิดพลาดครั้งแรก ครั้งที่สอง สาม ยังไม่เป็นไร เพราะทุกการย่างก้าวไปข้างหน้า มีเหตุการณ์ใหม่ๆที่เราไม่เคยรู้เคยเห็นแทรก หรือของเก่าที่เราเกิดความประมาท เป็นเหตุแห่งการ หกล้ม เดินพลาด ไปไม่ตรงทาง
คนที่ผิดพลาด ล้มเหลว ในชีวิต การเรียน การงาน การใช้ชีวิตคู่ เพราะไม่สรุปบทเรียน ทำซ้ำผิดเดิมฯ
2) แต่ เป็นแปลก แต่จริง และเป็นเรื่องสุดเศร้า ที่เรื่องใหญ่ของประเทศ แทบไม่มีการสรุปบทเรียน
โดยเหตุการณ์ประชาธิปไตยที่สำคัญๆของประเทศไทย ไม่ว่า 14 ตุลา 2516, 6 ตุลา 2519, 17 พฤษภา 2535
เหตุการณ์ธงเขียว เดือนตุลา 2540 ที่มาส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน 2540 และการที่คุณทักษิณได้เป็นนายกรัฐมนตรีเสียงข้างมาก ในปี 2544, เหตุการณ์ พธม. 2549-2551 เลยไปถึง เหตุการณ์กลุ่มเสื้อแดงนปช.เพื่อไทย ล้มการประชุมอาเซียน + 6 ปี 2552, การชุมนุมปิดเมือง(กรุงเทพฯ) ใช้กำลังมวลชน และกองกำลังติดอาวุธ ยิงใส่ทหาร ตาย บาดเจ็บหลายร้อย การปิดบริเวณราชประสงค์ การยิง เอ็ม 79 ใส่ประชาชนและอาคารสถานที่ราชการ การบุกเข้าไปในโรงพยาบาลจุฬาฯ ที่สมเด็จพระสังฆราชประชวรรักษาตัวอยู่ฯ การเผาบ้านเผาเมือง ในปี 2553 การชุมนุมของเสธ.อ้ายสนามม้า ปี 2554 และการชุมนุมของมวลมหาประชาชนเรือนล้าน ของกปปส.2556-2557 รวมถึง การรัฐประหารของกองทัพ ในปี 2557 เพื่อยุติความขัดแย้งที่มีแนวโน้มพัฒนาไปสู่ความรุนแรง และการเป็นรัฐบาลต่อมาของ คสช. 2557-ปัจจุบัน
ประชาชน นักการเมือง นักเลือกตั้ง นักวิชาการ กลุ่มทุนใหญ่น้อย สื่อ กองทัพ ข้าราชการประจำ รัฐวิสาหกิจฯจึงเดินซ้ำรอยในทางเดินเก่าที่ผิด หาทางออกจากถ้ำประเทศไทยไม่ได้
2.นี่คือ สาเหตุใหญ่ของการติดกับดัก “วงจรอุบาทว์” มีรัฐธรรมนูญ เลือกตั้ง โกงกินใช้อำนาจมิชอบ
ประชาชนออกมาชุมนุมใหญ่ แต่แก้ปัญหาไม่จบ ทหารออกมาทำรัฐประหาร และร่างรัฐธรรมนูญ
3.เราลองมาพิจารณา เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ ประชาธิปไตยไทย ดูกันบางประเด็น เป็นตัวอย่าง
(1) เหตุการณ์ 14 ตุลา-1973 Thai popular uprising วิกิพีเดีย https://th.wikipedia.org/wiki/
- หัวค่ำ 14 ตุลา 16 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยประกาศว่า “จอมพลถนอมขอลาออกจากตำแหน่งและมีพระบรมราชโองการ แต่งตั้งนายสัญญา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เหตุการณ์ยังไม่สงบ
- มีข่าวเล็กๆ “พลโทจำเป็น จารุเสถียร เข้าเฝ้าฯ แล้วออกไปพบกับ น้องชาย จอมพลประภาสฯ”
- จนกระทั่งในเวลาหัวค่ำของวันที่ 15 ตุลาคม ได้มีประกาศว่า จอมพลถนอม ประภาส ณรงค์ กิตติขจร เดินทางออกนอกประเทศแล้ว ทางราชการออกประกาศของผู้อำนวยการรักษาความปลอดภัยของประเทศ
พลเอกกฤษณ์ สีวะรา (ผบ.ทบ.) ให้ประชาชนนักศึกษากลับเข้าบ้าน 20.00 น. เหตุการณ์จึงค่อยสงบลง
จึงพอสรุปได้คร่าวๆ ว่า “การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์นี้ บทบาทหลัก รอง เสริม อยู่ที่ใคร”
- บทบาทหลักสำคัญ อยู่ที่การลุกขึ้นของนักศึกษาประชาชนหลายแสนคนที่ไม่เอารัฐบาลถนอมฯ
- บทบาทของ พลเอกกฤษณ์ สีวะรา ที่เป็น ผบ.ทบ. และพลโทวิฑูรย์ ยะสวัสดิ์ ผู้คุมกำลังเสือพราน
- พระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่เฝ้าติดตามด้วยความเป็นห่วงประชาชนของพระองค์
(2) เหตุการณ์ 6 ตุลา-วิกิพีเดีย https://th.wikipedia.org/wiki/เหตุการณ์_6_ตุลา
ความเกี่ยวข้องกับรัฐประหาร 2519
- ป๋วย อึ๊งภากรณ์ “ความรุนแรงและรัฐประหาร 6 ตุลา 2519” ตั้งข้อสังเกตว่า มี 2 ฝ่ายต้องการรัฐประหาร
โดยฝ่ายหนึ่งชิงรัฐประหารในเย็นวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ตัดหน้าอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งชัยอนันต์ สมุทวณิช กับเดวิด มอร์เรล อธิบายว่า “พรรคชาติไทย พรรคประชาธิปัตย์ฝ่ายขวาและนายทหารที่ใกล้ชิดกับจอมพลประภาส-ถนอม วางแผนก่อเรื่องเพื่อเป็นข้ออ้างรัฐประหาร” โดยการนำสองจอมพลดังกล่าวกลับประเทศ
“คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน” คณะรัฐประหารในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 เป็นอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่เห็นด้วยกับกลุ่มแรก ซึ่ง ฤดี เริงชัย เสนอว่า เหตุการณ์นี้อาจน่าสยดสยองขึ้นหากไม่มีรัฐประหารดังกล่าว
- สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ เขียนว่า ตัวการปราบปรามนักศึกษา น่าจะเป็นกลุ่มซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นกลุ่มพลเอกฉลาดและพลโทวิฑูรย์ และเตรียมก่อการรัฐประหารในเวลาดึก
- ในขณะนั้น ความขัดแย้งทางการเมืองได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายซ้ายที่มีแนวคิดทางสังคมนิยม กับฝ่ายขวาคือผู้สูญเสียอำนาจไป มีขบวนการขวาพิฆาตซ้าย……
มีการชุมนุมการบ่อยครั้ง : อาจารย์ป๋วย กลายเป็นหนังหน้าไฟ ถูกบีบอยู่ตรงกลางระหว่างสองฝ่าย
ฝ่ายขวาก็กล่าวหาว่า อาจารย์ป๋วยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักศึกษา เป็นคอมมิวนิสต์ที่คิดจะทำลายชาติศาสน์กษัตริย์ขณะที่ฝ่ายซ้าย ก็โจมตีว่าอาจารย์ป๋วยเป็นเผด็จการ ขัดขวางการทำงานของขบวนการนักศึกษา
หลายครั้งอาจารย์ป๋วยก็ทะเลาะกับนักศึกษา ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในธรรมศาสตร์ ทำกิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะ ในช่วงการชุมนมของนักศึกษาประชาชน ช่วงเกิดเหตุ 6 ตุลาเพราะเห็นว่า นำไปสู่อันตราย...
(3) ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเป็นสส.ซึ่งดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 4 ปี คนแรก และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง ด้วยคะแนนเสียงสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในการเลือกตั้งปี 2548
รัฐบาลทักษิณ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ฉ้อราษฎร์บังหลวง เผด็จการรัฐสภา มีผลประโยชน์ทับซ้อน และควบคุมสื่อตัวทักษิณ เลี่ยงภาษี หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตลอดจนขายทรัพย์สินของบริษัทไทยให้นักลงทุนต่างชาติ องค์การนิรโทษกรรมสากลวิจารณ์ว่า มีประวัติเชิงสิทธิมนุษยชนไม่สู้ดี ปกปิดทรัพย์สินระหว่างดำรงตำแหน่ง
l ข้อสรุป คือ ไม่มีการสรุปบทเรียน ของทุกวงการไทย รัฐบาล นักการเมือง นักวิชาการ สื่อ ภาคประชาชนฯ
1.นักการเมือง คงเป็นนักเลือกตั้ง ที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม ซื้อเสียง ซื้อสส. ซื้อพรรค ใช้อำนาจโกงมโหฬาร ระบบการเมือง เศรษฐกิจฯ ไม่มีการปฏิรูป ทำให้การเลือกตั้ง เป็นเวทีของผู้ได้เปรียบ และใช้ความเหลื่อมล้ำของสังคม ใช้สื่อที่เป็นกลไกของกลุ่มทุนใหญ่ นำไปสู่การเป็น สส. และคัดค้านการปฏิรูป การแก้รธน.
2.ผู้ที่อ้างเป็นภาคประชาชน ประเมินบทบาทของตนเกินจริง มีการเคลื่อนไหวทั้งถูกและผิด และซ้ายจัดฯ
3.ประชาชน ไม่มีการพัฒนาคุณภาพ ให้เป็นพลเมือง(Active Citizen) ที่คิดและตัดสินได้ด้วยตนเอง
4.นักเลือกตั้งพรรคการเมืองเก่า ใช้วาทกรรมเท็จ เลือกตั้ง คือ หนทางไปสู่ประชาธิปไตย (ซึ่งไม่เป็นจริง)
5.นักวิชาการ ไม่เคยร่วมกันสรุปบทเรียนที่เป็นจริง แต่กลับใช้เหตุการณ์ต่างๆ สนองอคติความเชื่อตนฯ
l ผู้นำ-ประชาชน ต้องสรุปหาทางออก ส่งเสริมทางเลือกที่ดีกว่า เพื่อก้าวไปอีกก้าว ก่อนการปฏิรูปใหญ่ตามมา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี