เมื่อไม่ช้าไม่นานมานี้ก็มีคนสำคัญในรัฐบาลประกาศชักชวน เชิญชวนให้เกษตรกรช่วยกันปลูกมะพร้าว บอกว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่จะมีราคาดีและมีอนาคตที่ดี มีเท่าไหร่ก็จะไม่พอขาย ชาวบ้านทั้งหลายก็เชื่อถือ พากันปลูกมะพร้าวกันเป็นอันมาก
พวกที่กำลังคิดจะโค่นสวนยางหรือสวนปาล์มเพราะราคาตกต่ำเตี้ยติดดินเพื่อเตรียมปลูกเป็นสวนมะพร้าวก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ทันได้ทำเพราะหาพันธุ์มะพร้าวไม่ได้ เนื่องจากไม่เคยมีการเตรียมการมาก่อนเลย
เหตุที่พันธุ์มะพร้าวลดน้อยถอยลงเป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากความโง่เขลาเบาปัญญาของผู้คนในรัฐบาลในอดีต หรือไม่ก็เป็นพวกขายชาติที่รณรงค์ให้คนไทยเลิกกินน้ำมันมะพร้าว บอกว่าจะทำให้เป็นโรคหลอดเลือดตีบตัน ต้องหันไปกินน้ำมันถั่ว จึงทำให้มะพร้าวไม่เป็นที่นิยมในเมืองไทย
จำนวนมะพร้าวจึงลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะในเมื่อผู้คนไม่กินกะทิ ไม่กินน้ำมันมะพร้าว ไม่บริโภคน้ำมันมะพร้าวกันทั้งประเทศแล้ว มะพร้าวก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปที่เหลือไว้บ้างก็สำหรับชาวบ้านใช้สอยทำเป็นขนมพื้นบ้าน หรือน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งทำกันแบบซังกะตาย
มาวันนี้ความจริงได้ปรากฏต่อโลกแล้วว่า การไปหลงกินน้ำมันถั่วหรือน้ำมันอิ่มตัวคือสาเหตุของโรคมะเร็ง และยังเป็นเหตุของโรคหลอดเลือดตีบ แตก ตัน ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงของมวลมนุษย์ จึงมีการรณรงค์ให้เลิกกินน้ำมันถั่ว แล้วประกาศความจริงต่อโลกว่าน้ำมันหมูและน้ำมันมะพร้าวคือน้ำมันที่ดีที่สุดในการบริโภคของมนุษย์
เมื่อเป็นเช่นนี้ควรที่มะพร้าวจะมีราคาสูงขึ้นและคงจะปลูกกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น แต่จะเป็นเพราะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรก็ไม่รู้ที่ประดังถั่งโถมเข้าสู่ประเทศไทยและคนไทยไม่เว้นแต่ละวัน ไม่เว้นแต่ละเดือน
จนเกิดเหตุอาเพศเป็นอุบาทว์พระยมให้ได้เห็นทั่วกันทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งเป็นสัญญาณร้ายที่กำลังเกิดขึ้นแต่ก็หามีใครมีสติปัญญาวิชาคุณที่จะแก้ไขเพิกถอนอาเพศนั้นได้ อีกไม่ช้าไม่นานความอุบาทว์จัญไรอันเป็นผลจากอุบาทว์พระยมดังที่ปรากฎในคัมภีร์อภิไทโพธิอุบาทว์ก็คงจะปรากฏให้เห็นเป็นแน่แท้ ก็สุดแท้แต่บุญกรรมของแต่ละคนที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้กับบ้านเมืองที่ย่อมจะประสบชะตากรรมเช่นนั้น
กลับมาที่เรื่องมะพร้าว ขณะนี้ราคาตกต่ำเตี้ยติดดินตามราคายางพาราและราคาปาล์ม คือมะพร้าวเหลือราคาลูกละบาทกว่าๆ เท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงต้นทุนว่าจะขายได้กำไรหรือเท่าทุน เอากันแค่ค่าลิงขึ้นไปเก็บมะพร้าวก็ไม่คุ้มอยู่แล้ว
ราคายางพารา ราคาปาล์มที่ตกต่ำเตี้ยติดดิน ทำให้คนภาคใต้เดือดร้อนทุกข์เข็ญเป็นอันมาก แต่ก็ไม่มีใครนำพาดำเนินการแก้ไขใดๆ ปล่อยให้ประชาชนชาวภาคใต้และภาคตะวันออกรวมทั้งภาคอีสานหลายพื้นที่ที่ปลูกยางขาดทุนป่นปี้ย่อยยับ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มล้มละลายเดือดร้อนทุกข์เข็ญทุกหย่อมหญ้า
แล้วปัญหาก็ลามมาถึงมะพร้าวที่ราคาตกต่ำเตี้ยติดดินเพิ่มขึ้นอีก แต่จะด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่รู้ ได้มีผู้คนเข้าไปเพื่อจะหาหนทางแก้ไขในการทำให้เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวขายมะพร้าวได้ราคาดีขึ้น ซึ่งอาจจะสำนึกในบาปบุญคุณโทษหรือละอายใจที่ไปชักชวนให้ชาวบ้านปลูกมะพร้าวก็เป็นได้
แต่ในพลันที่ประชุมปรึกษาหามาตรการแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวเสร็จและแถลงต่อสาธารณะ เสียงก่นด่าอย่างหยาบคายตามประสาชาวใต้ก็กึกก้องกระหึ่มไปทั้งสองฝั่งทะเล
เพราะมาตรการในการแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวก็คืออาศัยกฎหมายความมั่นคงกำหนดให้มะพร้าวเป็นสินค้าควบคุมแบบเดียวกับยุทโธปกรณ์หลายชนิด
ดังนั้นมะพร้าวจึงต้องห้ามมิให้มีการขนย้าย มาตรแม้นเกษตรกรหรือผู้ใดก็ตามจะขนย้ายมะพร้าวก็ต้องขออนุญาตก่อน
จะพิเคราะห์ไปทางไหนก็นึกไม่ออกบอกไม่ถูกว่ามาตรการแบบนี้จะทำให้มะพร้าวขายได้ราคาดีได้อย่างไร เพราะไม่ว่าจะคิดไปทิศไหนๆ ก็เห็นผลอย่างเดียวกันว่านี่คือการเพิ่มเติมความทุกข์ร้อนและความยากลำบากให้กับราษฎร ราวกับว่าจะกลั่นแกล้งกระทืบให้จมธรณีไปก็ไม่ปาน
ลองนึกดูเถิดว่าสำหรับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้นั้น หากจะขนมะพร้าวไปขายตลาดหรือจะไปส่งให้กับผู้ซื้อ ซึ่งแต่เดิมมาสามารถขนไปขายเวลาใดที่ไหนก็ได้ตามอำเภอใจ ก็ยังขายได้ราคาแค่ลูกละบาทกว่า ซึ่งแทบจะไม่พอค่าขึ้นเก็บมะพร้าวอยู่แล้ว ไหนจะต้องมาขออนุญาตซึ่งต้องเดินทางเข้าบ้านเข้าเมืองเพื่อไปขอพบเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่แล้วยื่นคำขออนุญาต ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและต้องใช้เวลาในการเดินทางไป-กลับ
ตลอดจนต้องรอการพิจารณาอนุญาตอีก ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใด หรือมีเงื่อนไขอย่างไรในการพิจารณาอนุญาต และสภาพใดก็ตามในบ้านเมืองของเรานี้หากต้องไปขออนุญาตแล้ว ซึ่งจะได้รับความสะดวกรวดเร็วเห็นจะไม่มี มีแต่จะต้องเสียเวลา จะต้องยุ่งยากลำบากหรือไม่ก็ต้องเสียค่าน้ำร้อนน้ำชาหรือค่าเก๋าเจี๊ยะตามธรรมเนียม
ทั้งหมดนี้มีแต่จะเป็นการเพิ่มความยากลำบาก เพิ่มความเสียหายให้กับพี่น้องเกษตรกร ซึ่งไม่เห็นจะเกี่ยวข้องอันใดกับการทำให้มะพร้าวมีราคาสูงขึ้นเลย
หรือว่าจะมีใครคิดพิสดารว่าวิธีการแบบนี้เมื่อใช้บังคับแล้วก็จะไม่มีการขนย้ายมะพร้าวออกจากสวน ทุกพื้นที่ก็จะไม่มีมะพร้าวกิน เมื่อไม่มีมะพร้าวในท้องตลาดก็อาจทำให้มะพร้าวมีราคาสูงขึ้น ซึ่งถ้าหากใครคิดแบบนี้ก็ต้องชี้หน้าด่าว่าไอ้บ้าเอ้ย มึงเกิดมาเพื่อทำร้ายคนไทยโดยแท้ จงเฉดหัวออกไปเสียเถิด
เป็นอันว่าถึงวันนี้ก็ยังไม่มีหนทางใดที่จะแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวที่ตกต่ำเตี้ยติดดิน ดังนั้น เพื่อประโยชน์และความสุขของพี่น้องเกษตรกรหรือเพื่อที่จะไม่ต้องเดือดร้อนมากเกินไป จึงขอเสนอให้แก้ไขปัญหานี้ดังต่อไปนี้
ประการแรก ให้แปรรูปมะพร้าวเป็นน้ำมันมะพร้าว เพราะนับแต่บัดนี้ไปน้ำมันมะพร้าวจะขาดตลาด จะมีราคาสูงขึ้น เพราะเป็นที่ต้องการของประชาชน ซึ่งจะต้องใช้น้ำมันมะพร้าวแทนน้ำมันถั่ว
ประการที่สอง พยายามผลิตเป็นน้ำตาลมะพร้าวแล้วขายเป็นน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งจากนี้ไปจะมีราคาดีกว่าน้ำตาลทรายขาว ที่ถูกแปรสภาพกลายเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายไปแล้ว
ประการที่สาม แปรรูปมะพร้าวเป็นอาหารและของหวานอย่างอื่น โดยเฉพาะอาหารและของหวานประเภทที่สามารถถนอมอาหารให้เป็นสินค้าพื้นบ้านหรือท้องถิ่นได้
ประการที่สี่ ปล่อยให้ลูกมะพร้าวแก่ตัวแล้วเพาะเป็นพันธุ์มะพร้าว ซึ่งจากนี้ไปจะขายได้ราคาดี เพราะทั่วประเทศจะปลูกมะพร้าวกันมากขึ้น เพื่อใช้ทดแทนน้ำมันถั่วที่กำลังกลายเป็นสารพิษที่คนไทยปฏิเสธกันทั่วประเทศ
ประการที่ห้า จดจำและบันทึกแนะลูกสอนหลานบอกกล่าวเพื่อนบ้านทั้งหลายทุกคนที่รู้จักว่าในการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงนี้ให้พิเคราะห์เลือกคนดีมีฝีมือเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร อย่าเลือกพวกอุบาทว์จัญไรที่ไร้น้ำยาเข้ามาอีกเป็นอันขาด
ความเดือดร้อนของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศจะต้องถูกจดจำบันทึกไว้ และป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก ใครทำกรรมไว้กับประเทศชาติและประชาชนย่อมมากพอต่อความเข็ดหลาบแล้ว อย่าเปิดโอกาสให้คนเหล่านั้นเข้ามาก่อกรรมทำเข็ญให้กับประชาชาติไทยอีกต่อไปเลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี