ภาษิตสากลบทหนึ่งบอกว่า “อำนาจชวนให้โกงกิน ถ้าอำนาจล้นแผ่นดิน ก็จะโกงกินกันจนสิ้นชาติ” ยกภาษิตนี้มากล่าวนำก็เพื่อบอกไปยังผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะอำนาจที่ได้มานั้นเป็นอำนาจที่ยึดมาใช้ตามใจชอบ จะได้สำนึกว่าการใช้อำนาจแบบนี้ชี้ชวนให้กระทำการทุจริตคดโกงได้ง่าย นำไปสู่ความสิ้นชาติในที่สุด
บ้านเมืองของเราในขณะนี้ ความทุจริตคดโกง ระบาดไปทั่วอย่างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่เกิดจากคนมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองแทบทุกระดับ ยิ่งในระดับสูงด้วยแล้ว ยิ่งปรากฏให้เห็นมากขึ้นในเรื่องความฉ้อฉล คดโกง จากการใช้อำนาจอย่างลืมตัว เพื่อหาประโยชน์ส่วนตนและญาติพี่น้องพรรคพวก
มีการปราบปรามพวกทุจริตให้เห็นเหมือนกันในบางเรื่องบางราว แต่ก็เป็นการปราบปรามคนอื่นที่ไม่ใช่พวกพ้อง หรือญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงของตน เช่นในขณะนี้
อยากจะบอกว่า การทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะในหน่วยงานของรัฐมีความสำคัญและเป็นปัญหาใหญ่ของสังคม ทั้งในเชิงปริมาณที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในขณะนี้ เป็นปัญหาที่บั่นทอนการพัฒนาประเทศ และเป็นอุปสรรคในการสร้างความเจริญให้แก่สังคมและความผาสุกแก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและมีวิธีการและลักษณะที่ซับซ้อนมากขึ้น
การจัดซื้อจัดจ้าง การสมยอมระหว่างผู้มีอำนาจหน้าที่กับผู้รับจ้าง หรือช่วยเหลือพวกนายทุนที่ให้ประโยชน์ตน การรับสินบน รับเงินใต้โต๊ะ รับเงินทอน ตลอดจนเงินซื้อขายตำแหน่ง ระบาดเกิดขึ้นมากมายอย่างที่ได้ยินได้ฟังกันในขณะนี้
พฤติกรรมต่างๆเหล่านี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนในบ้านเมืองเสื่อมความศรัทธา เชื่อถือ ต่อผู้มีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนอาจพูดได้ว่า เมื่อไรจะไปเสียที
ความรุนแรงที่มาจากความทุจริตดังกล่าว รับรู้กันไปทั่วโลกในขณะนี้ และถูกจัดอันดับประเทศที่มีการทุจริตสูงสุด อยู่ในอันดับต้นๆของประเทศต่างๆทั่วโลก
ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนของประชาชนต้องช่วยกัน การที่จะมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดานั้น ขอให้ระวังว่าจะสิ้นชาติในที่สุดด้วย เพราะปัญหาของความทุจริตคดโกง
ดังกล่าว ไม่ต่างกับโรคร้ายที่กัดกร่อนและบ่อนทำลายประเทศชาติอยู่ตลอดเวลา
โดยเฉพาะความทุจริตในวงราชการไทยขณะนี้ มีที่มาจากสาเหตุสำคัญๆ ดังต่อไปนี้
1. ระบบอุปถัมภ์
ระบบอุปถัมภ์เกิดจาก 1) ระบบอาวุโส และ 2) ระบบบุญคุณ ซึ่งมีความจุนเจือ ช่วยเหลือกัน มีความสัมพันธ์แบบผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะมาจากนักการเมืองที่เข้ามาตามระบบที่กำหนดไว้ หรือมาจากการแต่งตั้ง ที่เข้ามาทำงานและมีความสัมพันธ์กับข้าราชการประจำ ทำให้เกิดความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันในลักษณะที่จะส่งผลต่อการเอื้อให้เกิดการทุจริตในวงราชการ อันนำไปสู่การใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง เพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ที่มิชอบด้วยกฎหมาย ให้แก่ตนเอง หรือพรรคพวก
นอกจากนี้ ระบบอุปถัมภ์ประกอบไปด้วย 3 ฝ่ายคือ 1) นักการเมือง 2) ข้าราชการ 3) นักธุรกิจ ที่ทำให้สามารถทำทุจริตได้ง่าย โดยทั้ง 3 ฝ่ายมาจับมือกันร่วมทุจริตคดโกง หรือที่เรียกว่า “ฮั้ว”กัน
เครือข่ายดังกล่าวนี้โยงใยกันอย่างแน่นหนา การปราบปรามต้องกระทำอย่างจริงจัง จึงจะได้ผล โดยเฉพาะการควบคุมบุคลากรที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้มีอำนาจหน้าที่ที่ได้อำนาจมาจากการยึดอำนาจ
ค่านิยมของคนไทยที่นิยมยกย่องคนมีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต หรือนิยมยกย่องคนรวย ทำให้เกิดผลกระทบตามมาเสมอในเรื่องของ 1) ความโลภ คือ การโกงกินกันทุกรูปแบบ 2) ความมีโทสะ จากการมีคนไปเตือนสติ และ 3) ความมีโมทะ คือ มัวเมาในอำนาจ ยึดติดในตำแหน่งหน้าที่ พยายามสร้างวาทกรรมคำพูดอย่างโน้นอย่างนี้ให้คนเชื่อ
ค่านิยมหลายภาคส่วนของสังคมขณะนี้ที่ยึดด้านวัตถุมากขึ้น อวดความมีสถานะทางสังคม โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนได้มานั้นจะได้มาด้วยวิธีการใด เป็นค่านิยมที่ฝ่ายที่มีอำนาจทางการเมืองต้องการคนอย่างนี้มาใช้เพื่อหาผลประโยชน์ให้ตน
นอกจากนี้สาเหตุที่เกิดจากความหละหลวมของระบบราชการบางแห่ง โดยเฉพาะในเรื่องของการควบคุมความประพฤติที่ทุจริต ในวงการราชการที่ไม่ใส่ใจหรือเอาใจใส่ในเรื่องดังกล่าว ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการทุจริตในวงราชการได้เช่นเดียวกัน
อีกอย่างหนึ่งของการทุจริตเกิดขึ้นในวงราชการไทยขณะนี้ สาเหตุอีกอย่างหนึ่งมาจากความจำเป็นในการอยู่รอดของตนและครอบครัวที่ยากจน เนื่องจากเงินเดือนน้อยไม่พอใช้ นำมาซึ่งการขาดสติในการประพฤติปฏิบัติงานในหน้าที่
การจัดซื้อจัดจ้างในวงราชการไทยที่กระทำกันอย่างไม่โปร่งใสก็เช่นเดียวกัน ทำให้เกิดการทุจริต ไม่โปร่งใส ได้ง่าย
นี่คือเรื่องใหญ่ๆ ของการทุจริตในวงราชการไทยบ้านเราในขณะนี้ ซึ่งจะได้พูดให้ฟังถึงในเรื่องอื่นๆ ที่ยังเป็นปัจจัยสำคัญของการทุจริตในวงราชการไทย ที่ยังมีอีกมากในคราวหน้า
(อ่านต่อวันศุกร์)
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี