ความเรียกร้องต้องการของประชาชาติไทยที่ต้องการให้ปลดล็อกกัญชาและกระท่อมเพื่อใช้ในทางการแพทย์ได้ขยายตัวเป็นวงกว้างครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ เฉพาะผู้ป่วยและญาติพี่น้องก็มีจำนวนหลายล้านคน ยิ่งถ้านับผู้ที่มีน้ำใจเมตตาและเป็นธรรมต่อความเดือดร้อนทุกข์เข็ญของพี่น้องร่วมชาติและร่วมเดือดเนื้อร้อนใจด้วยแล้วก็มีจำนวนนับสิบล้านคน
ในพลันที่มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนประกอบร่างกฎหมายปลดล็อกกัญชา เพื่อให้ประชาชนใช้ทางการแพทย์ของนายสมชาย แสวงการ และคณะตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ ก็ปรากฏว่ามีประชาชนเข้าลงมติความเห็นเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์นับแต่รัฐธรรมนูญ 2560 ใช้บังคับ
ผู้ลงมติในการรับฟังความคิดเห็นของ สนช. ดังกล่าวถึงร้อยละ 99 ลงมติให้เร่งปลดล็อกกัญชา เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ในการรักษาโรคร้ายแรงต่างๆ ดังเช่น มะเร็ง เป็นต้น ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน ถึงขั้นที่กล่าวได้ว่าประชาชนชาวไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นให้ปลดล็อกกัญชาโดยไว เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สอยในการรักษาโรคร้ายแรงต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง
โดยบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ โดยสิทธิของประชาชน และโดยผลประโยชน์แห่งชาติ แม้ด้วยเมตตาธรรมที่พึงมีประจำนิสัยของมนุษย์ ก็ย่อมชี้ขาดโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ แล้วว่าต้องปลดล็อกกัญชาและกระท่อม เพื่อให้ประชาชนใช้ในการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงต่างๆ ได้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งและแจ้งในคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปลดล็อกกัญชา เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ในทางการแพทย์ได้
ต่อมา สนช. ได้จัดสัมมนาเรื่องการปลดล็อกกัญชาที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561 โดยมีผู้เชี่ยวชาญและผู้เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนนักวิชาการทั้งเครือข่ายแพทย์ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย รวมทั้งเครือข่ายผู้ป่วยโรคมะเร็งได้เข้าร่วมสัมมนากันอย่างคึกคักยิ่ง และมีการเผยแพร่การสัมมนานั้นทั้งโดยโซเชียลมีเดียและโดยการกระจายข่าวทุกรูปแบบที่ประชาชนจะคิดได้ใช้เป็นอย่างกว้างขวาง
ผลการสัมมนาดังกล่าวสรุปได้เป็นเอกฉันท์ดังต่อไปนี้
ประการแรก ให้ สนช.เร่งผ่านกฎหมายปลดล็อกกัญชาฉบับของนายสมชาย แสวงการ และคณะโดยไวที่สุด ทั้งนี้เพราะในเดือนธันวาคมนี้ สนช. ก็อาจประชุมไม่ได้แล้ว เนื่องจากต้องคืนสถานที่ตามกำหนดที่ได้กำหนดไว้ก่อนนานแล้ว จึงปรารถนาให้ทุกฝ่ายได้เร่งรัดเพื่อให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ประกาศใช้โดยเร็วก่อนที่จะปิดประชุม สนช.
ประการที่สอง ในการปลดล็อกกัญชาและกระท่อมนั้น ต้องให้ประชาชนได้เข้าถึงและใช้สอยได้อย่างกว้างขวาง ไม่มีข้อจำกัด และด้วยราคาที่ถูก จะให้มีการผูกขาดตัดตอนใดๆ ไม่ว่าให้ผูกขาดแก่ทุนชาติหรือทุนต่างชาติไม่ได้เป็นอันขาด เพื่อการนี้ให้แพทย์แผนไทยเป็นผู้มีบทบาทและหน้าที่ในการอนุญาตตำรับยาต่างๆ แทนที่จะให้แพทย์แผนปัจจุบันซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนไทยควบคุมกันไว้เหมือนแต่ก่อนมา
นี่เป็นฉันทามติของการสัมมนาของผู้ทรงคุณวุฒิทุกหมู่เหล่า และสอดคล้องกับผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ สอดคล้องกับท่าทีของนายกรัฐมนตรี
แต่ทว่าเรื่องนี้ยังคงต้องมีอุปสรรคขวากหนามอีกมาก โดยเฉพาะจากพวกทรยศชาติและขายชาติ ที่ต้องการล็อกกัญชาไว้ไม่ให้คนไทยได้ใช้สอยเพื่อประโยชน์ในการรักษาหรือเพื่อการแพทย์ อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับการใช้สารเคมีและสารพิษต่างๆ ที่สังหารผลาญชีวิตคนไทยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันต่อไป
ขบวนการขายชาติพวกนี้กำลังเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วง ทั้งโกหก ปกปิด บิดเบือน และเล่ห์อุบายต่างๆ โดยมีเป้าหมายอย่างเดียวคือล้มการปลดล็อกกัญชา และเอื้อประโยชน์ให้แก่การผูกขาดของทุนต่างชาติหรือทุนชาติต่อไป
ดังนั้นเมื่อความปรารถนาของปวงชนเป็นกระแสใหญ่หลวงให้ปลดล็อกกัญชามาถึงระดับที่ทัดทานไม่ได้แล้ว ก็กลับใช้เล่ห์อุบายทำเป็นเห็นด้วยกับการปลดล็อกกัญชา แต่จะอนุญาตให้ใช้ได้สำหรับการนำเข้าสารสกัดกัญชาจากต่างประเทศ โดยอ้างว่ามีความห่วงใยในความปลอดภัยบ้าง อ้างความเป็นมาตรฐานบ้าง โดยพยายามผลักดันให้มีการออกกฎกระทรวงให้เป็นไปดังกล่าวนี้
และเพื่อที่จะขัดขวางไม่ให้ประชาชนชาวไทยโดยทั่วไปได้ใช้ประโยชน์จากกัญชาและกระท่อม จึงมีความพยายามผลักดันให้มีการออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดให้กัญชาเป็นสารเสพติดที่ร้ายแรงเช่นเดียวกับมอร์ฟีน และมีโทษจำคุกขั้นสูง
โดยผลก็คือ นอกจากทุนต่างชาติที่จะผูกขาดนำเข้าสารสกัดจากกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์แล้ว บรรดาแพทย์แผนไทย เภสัชกรรมไทย เวชกรรมไทย และคนไทยทั้งประเทศนับล้านๆ คน จะไม่มีโอกาสได้ใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคร้ายแรงต่างๆ โดยทั่วไปและในราคาที่ถูก ดังที่เรียกร้องต้องการกัน
ดังนั้นจึงต้องช่วยกันขัดขวางต่อต้านเล่ห์ร้ายกโลบายเช่นนี้ แล้วช่วยกันกระชากหน้ากากขบวนการทรยศชาติ ขายชาติและปล้นชาติขบวนนี้อย่าให้ทำร้ายประเทศชาติและประชาชนต่อไป
และต้องบอกกล่าวถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้เร่งรัดให้มีการปลดล็อกกัญชา ได้กรุณาช่วยหยุดยั้งแผนร้ายดังกล่าวนี้ และเร่งให้มีการปลดล็อกกัญชาตามที่ได้สั่งการนั้นโดยไว ก็จะเป็นอาณาประโยชน์ยิ่งทั้งแก่ประเทศชาติและประชาชน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี