l เจี๊ยบ & โจ๊ก ลูกรัก
เรื่องการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2562 หากจะทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ต้องลงลึกในรายละเอียดมาก
แต่พ่อ จะสรุปกว้างๆ ในหลักสำคัญของประเด็น และเนื้อหา เพื่อให้เข้าใจพอเป็นพื้นฐานก่อน
และหาก ลูกสนใจอย่างจริงจัง คงจะต้องนั่งนอนคุยแลกเปลี่ยนกันหลายวันหลายคืน ซึ่งคงจะเป็นช่วงต่อไป
1. การเลือกตั้งทั่วไป ปี 2562 ไม่เหมือนเดิมคาดการณ์ยาก จากเหตุปัจจัยเปลี่ยนไป หลายปัจจัย
โดยเฉพาะ ปัจจัยภายในประเทศ และปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อประเด็นนี้โดยตรงและอ้อม
ปัจจัยภายในประเทศ จะกล่าวถึงอย่างกว้างๆ โดยสรุป เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
1) ปัจจัยแรก รัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ 2560 ที่ไม่เหมือนเดิม เพราะเป็นกติกาสูงสุดของบ้านเมือง
ซึ่ง “เป็นรัฐธรรมนูญที่แตกต่างกว่า รัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ ทั้งหมด” มาจากรธน.ฉบับชั่วคราว 2557
มาตรา 35 คณะกรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญ ต้องจัดทำรัฐธรรมนูญ ให้ครอบคลุมเรื่องดังต่อไปนี้
การให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่เหมาะสมกับ สภาพสังคมไทย (นัยความหมายที่สำคัญ คือ “เอาสภาพสังคมไทยเป็นหลัก ที่สามารถทำให้การออกแบบรัฐธรรมนูญ เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศไทย”)
2) ระบบการเลือกตั้งใหม่ ที่แตกต่างจากของเก่า ให้ทุกคะแนนมีความหมาย มิใช่ “ผู้ชนะได้หมด”
3) มีการปรับตัวของพรรคการเมืองเก่า เพื่อรับกับสถานการณ์ใหม่ที่เปลี่ยนไป ส่วนใหญ่เพื่อพรรคตัวเอง
และมีการก่อเกิดพรรคการเมืองใหม่ ทั้งกรอบคิดเก่า และกรอบคิดใหม่ ที่หลากหลายฯ
4) มีการก่อเกิด พรรคการเมืองของประชาชน ที่สมาชิกเป็นผู้กำหนด มิใช่เจ้าของพรรค หัวหน้า กรรมการฯจะเป็นจุดเปลี่ยนและตัวอย่างให้แก่พรรคใหม่ๆ และคนมีอุดมคติ เพราะ จะเป็นทางออกหนึ่งของสังคมไทย
5) ระบบราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ เริ่มปรับตัว จากสถานการณ์ใหม่ จากที่เคยถูกแทรกแซงจากพรรคการเมือง
ระบอบทุนสามานย์ โดยเฉพาะ “ตำรวจ อัยการ ดีเอสไอ”และข้าราชการในหลายภาคส่วน เริ่มรู้ความจริง
6) ระบอบทุนสามานย์ที่แค้น ตัดสินใจสู้ตายครั้งสุดท้าย วิ่งชักรอกไปมาระหว่างดูไบ มา ฮ่องกง สิงคโปร์ ฯลฯ
7) ปัจจัยในส่วนของชาวบ้านชาวเมือง มีหลากหลายความคิดความรู้สึก ที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
ทั้งความคิดต่อระบอบทุนสามานย์ ส่วนที่มีอคติต่อทหารและกองทัพ ที่ถูกปลุกสร้างขึ้นรายวัน ฯลฯ
8) ในส่วนของภาครัฐ รัฐบาลชุดนี้ บริหารงานต่อเนื่องมาร่วม 5 ปี ได้สร้างผลงานมากมาย โดยเฉพาะการร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงประชามติจากประชาชน ถึง 16.8 ล้านเสียง
โดยสรุป รัฐบาลมีผลงานในภาพรวม ภาคชนบท รวมทั้งการแก้ปัญหากับต่างประเทศ แต่ก็มีส่วนไม่น้อยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นสะสมมากจากรัฐบาลเลือกตั้ง แต่ก็มีปัญหาอีกไม่น้อย ที่ไม่สามารถแก้ไข หรือปฏิรูปได้
แต่กล่าวโดยสรุปโดยเปรียบเทียบ ได้ว่ารัฐบาลนี้ สามารถสร้างผลงานที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ได้มากกว่า รัฐบาลจากการเลือกตั้ง
แต่ รัฐบาลนี้ ยังแก้ไม่ตก จากกระแสกล่าวหาบิดเบือน ว่า “เป็นรัฐบาลที่เป็นเผด็จการ” จากนักการเมือง พรรคการเมืองเก่า และกลุ่มเสรี ที่มีกรอบคิดตะวันตก โดยเฉพาะพรรคที่สูญเสียอำนาจ ว่า “ฝ่ายตน เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ที่ถูกโค่นล้มโดย “การรัฐประหารที่เป็นผด็จการ”
9) ในส่วนของปัญญาชน นักวิชาการ ทางสื่อบางส่วน ทั้งนักข่าว คอลัมน์นิสต์ และเจ้าของสื่อบางส่วน
ยังมีกรอบคิดแบบตะวันตก ที่ขาดการมองความจริง การมองที่แคบ ไม่ได้มองในระยะเปลี่ยนผ่าน มีการดำเนินการในเชิงลบต่อรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ทั้งกรอบคิดและการกระทำ ฯลฯ
10) ปัจจัยสุดท้าย ที่จะมีผลใหญ่ต่อ การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562 คือ “มวลมหาประชาชนจิตอาสา” ที่ได้แสดงการจงรักภักดี และการแสดงออก ในการร่วมส่วนมาตลอดตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2559 จนมาถึงปัจจุบัน ภายใต้รัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ 10 ในการเลือกพรรคการเมืองที่จงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ
https://i1.wp.com/bact.cc/f/2013/08/chai-rachawat-hm-quotes.jpg
1.2 ปัจจัยภายนอก ที่ส่งผลสะเทือนมายังประชาชนและประเทศไทย ทั้งทางวัตถุและความคิด
ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI โซเชียลมีเดียที่เข้าถึงคนรวดเร็วที่ทั้งมนุษย์ควบคุมได้และไม่ได้ มีการเปลี่ยนแปลงพลิกผันอย่างรุนแรง รวดเร็ว
แนวโน้มการเกิดขึ้นของการรวมตัว การแบ่งขั้วที่หลากหลายซับซ้อน มีส่วนทำให้สังคมแปรปวนและทำให้ผู้คน
ที่ปรับตัวไม่ทันกับกระแสใหญ่แห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ คาดการณ์อะไรข้างหน้าได้ยากมากขึ้น
โดยเฉพาะ คือ มีการเปลี่ยนแปลง ความไม่ชัดเจน มากขึ้น” คำว่า “ประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ” ไม่สามารถนำมากล่าวสรุปได้อย่างตายตัว เหมือนที่ถูกกล่าว หรือถูกใช้เป็น
ข้ออ้าง เพื่อสนับสนุนความคิดและผลประโยชน์ของตนและกลุ่มพวกของตนได้เหมือนครั้งก่อนเก่าในอเมริกา ยุโรป ที่ระบบประชาธิปไตยเก่า มีคำถามมากขึ้น สวนทางกับ “ประชาธิปไตยรวมศูนย์ของจีน “ทำให้ คำตอบมาอยู่ที่ “ความสุขของประชาชนส่วนใหญ่และความก้าวหน้าของประเทศนั้นๆ” มากกว่าคำว่า “ประชาธิปไตย เผด็จการ หรือ การเลือกตั้ง การรัฐประหาร” ที่ถูกแหวกปากร้องตระโกน โฆษณาชวนเชื่อปลุกระดม จากนักเลือกตั้ง พรรคการเมืองเก่าใหม่บางพรรค อยู่ในขณะนี้, แต่ก็เริ่มได้ผลน้อยลงทุกวัน
(ชวน หลีกภัย : รัฐประหาร 2 ครั้งหลังเกิดเพราะรัฐบาลไม่มีนิติธรรม เผยแพร่เมื่อ 2 ธ.ค. 2013
https://www.youtube.com/watch?v=fm9jutxOhcw )
ซึ่งความจริง ท่านพุทธทาส ได้กล่าวสรุปไว้ว่า “ประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ ธรรมาธิปไตย ที่เอาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่มาก่อน มิใช่คะแนนเสียงที่มาจากการลงคะแนนเลือกตั้ง “ ( ที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม )
โดยสรุป ความคิดและการกระทำที่โต๊ะกระแส “ประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องเอาประชาชนเป็นใหญ่” คือ
ด้านหลัก มาจาก พรรคการเมืองเก่าใหม่(บางพรรค)และนักเลือกตั้ง ที่สูญเสียประโยชน์
ด้านรอง มาจาก กลุ่มอคติต่อทหาร-รัฐ และนักเคลื่อนไหวรายประเด็นและรายพื้นที่ที่กระทบกับภาครัฐ
ด้านเสริม มาจาก กลุ่มที่คาดหวังสูงบางส่วน ว่ารัฐบาล คสช. จะสามารถแก้ไขวิกฤติได้ และควรจะต้องตอบแทนให้ความดีความชอบ หรือการช่วยคดีทางการเมือง เหมือนกับ “รัฐบาลทักและนอมินี ที่ช่วยเหลือพวกของตนเอง ให้หลุดจากคดี
@ แต่เมื่อรัฐบาล คสช. ใช้หลักยึดกฎหมาย และดำเนินตามขั้นตอน ฯจึงเกิดความไม่พอใจต่อรัฐบาล ซึ่งทั้งส่วนที่เป็นด้านรอง และด้านเสริม ถูกเรียกว่า “เป็นแนวร่วมมุมกลับ” ให้กับระบอบทุนสามานย์ เพราะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์ จากความคิดและการกระทำเช่นนี้
ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้รักชาติศาสน์กษัตริย์ประชาธิปไตย ที่แท้จริง ต้องสรุปทบทวน แก้ไขในเรื่องนี้อย่างรีบด่วน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี