เรื่องใหญ่ที่กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อยู่ ในสังคมไทย 2 เรื่องอยู่ในขณะนี้คือเรื่องเพลงแร็พชื่อประเทศกูมีและเรื่องการเสนอให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกการเกณฑ์ทหารเข้ากองประจำการ เรื่องแรกนั้นมีกระแสแตกแยกออกเป็น 2 ฝัก 2 ฝ่าย มีทั้งฝ่ายสนับสนุนเพลงแร็พและฝ่ายต่อต้าน ส่วนเรื่องที่ 2 นั้นก็มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้านมากพอสมควรเช่นเดียวกัน
เพลงแร็พประเทศกูมีนั้นเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วการจัดทำเพลงขึ้นมามีที่มาจากนักโทษที่หนีคดีอาญาอยู่ในต่างประเทศเป็นผู้สนับสนุน ส่วนคนทำเพลงหากสืบสาวลงไปลึกๆ ก็เป็นกลุ่มที่โยงใยกับกลุ่มคนที่สนับสนุนระบอบการเมืองที่ถูกกองทัพรัฐประหาร 2 ครั้ง 2 คราวในรอบ 10 ปีนั่นแหละไม่ใช่ใครที่ไหน
สำหรับข้อเสนอให้ประเทศไทยยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหารเข้าประจำการนั้นมีข้อพิจารณาในโลกปัจจุบันว่าระบบการเกณฑ์ทหารเข้าประจำการนั้นประเทศมหาอำนาจส่วนใหญ่ได้ยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหารแล้วไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา, สาธารณรัฐประชาชนจีน,สหพันธรัฐรัสเซีย, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี,ญี่ปุ่น, อินเดีย ฯลฯ
ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศที่มีระบบการเรียกพลเมืองเข้ามารับราชการทหารแบบบังคับด้วยกฎหมายได้แก่ ไทย, เมียนมา, เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, กัมพูชา, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, อิสราเอลฯลฯ ประเทศที่มีจำนวนประชากรมากหลายประเทศได้ประกาศยกเลิกการเกณฑ์ทหารไปเป็นสิบๆ ปีแล้วได้แก่ สหรัฐอเมริกา, จีน, อินเดีย, รัสเซีย หรือบราซิล
อินเดียนั้นมีทหารกองประจำการทุกๆเหล่าทัพรวมไปถึงตำรวจด้วยมากกว่า 2 ล้านคนจากจำนวนประชากร 1,330 ล้านคน ในขณะที่จีนนั้นมีทหารและตำรวจหลายล้านคนจากประชากรจำนวนกว่า 1,400 ล้าน คนเช่นกัน เป็นที่ทราบกันว่าปัจจุบันระบบอาวุธและยุทโธปกรณ์ทางทหารมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่ร้ายแรงมากกว่ายุคสงครามเย็นและสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายเท่ารวมทั้งขีดความสามารถของทหารก็ดีกว่าในอดีตมาก
ดังนั้นการใช้ระบบการเกณฑ์ทหารน่าจะล้าสมัยไปแล้วรัฐบาลควรพิจารณาปรับเปลี่ยนระบบการมีกำลังทหารในการป้องกันประเทศในระบบใหม่ด้วยการใช้ระบบทหารอาชีพมีการใช้ระบบการฝึกฝนนักศึกษาวิชาทหารทั้งชายและหญิงใหม่ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นให้เป็นแหล่งคัดสรรเยาวชนที่มีใจรักการเป็นทหารเข้ามาประจำการในกองทัพได้มาฝึกเรียนรู้ชีวิตการเป็นทหารและเข้าใจวินัยของทหาร
โครงสร้างกองทัพควรจัดรูปแบบให้มีความพร้อมรบอ่อนตัวและมีกำลังพลทั้งชายและหญิงจำนวนหนึ่งที่เหมาะสมในการระดมพลทหารกองหนุนเข้ามาเป็นทหารในกองประจำการโดยรัฐต้องวางกรอบการจัดอัตรากำลังที่มีขนาดใหญ่ในการป้องกันประเทศตามสมควรเช่นหากเกิดสงครามอาจจะต้องระดมพลให้ได้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันประเทศ เช่น อาจจะมี 1 ล้านคน น่าจะพอนอกจากนี้ต้องจัดรูปแบบการป้องกันประเทศใหม่ด้วยหลักนิยมทางทหารสมัยใหม่เป็นหลัก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี