พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของราชอาณาจักรไทยอยู่ในช่วงมีภารกิจเดินทางขึ้นเครื่องบินไปเยือนต่างประเทศถี่มากเป็นพิเศษในช่วงปลายปี ซึ่งล่าสุดวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2561 พลเอกประยุทธ์กับคณะและภริยา รศ.นราพร จันทร์โอชา จะเดินทางไปร่วมพิธีวันรำลึกวันครบรอบ 100 ปี การยุติมหาสงครามโลกครั้งที่ 1 และการประชุมสันติภาพแห่งกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ได้จัดขึ้น
พลเอกประยุทธ์และคณะจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 14.45 น. หลังจากนั้น
ในวันที่ 13-15 พฤศจิกายน พลเอกประยุทธ์กับคณะและภริยาก็จะเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ 33 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ที่มีนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงเป็นประธานหลังประชุมสุดยอดอาเซียนพลเอกประยุทธ์ก็จะเดินสายต่อไปประชุมเขตเศรษฐกิจเอเปกครั้งที่ 26 ที่กรุงปอร์ตมอร์สบี ประเทศปาปัวนิวกินี ในวันที่ 16-18 พฤศจิกายนแล้วจึงจะกลับประเทศไทย
การประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของสิงคโปร์ในฐานะประธานชาติอาเซียนซึ่งครั้งต่อไปนั้นก็จะถึงรอบที่ประเทศไทยจะต้องทำหน้าที่ประธานอาเซียนที่เรียงลำดับตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ ประเทศไทยเคยเป็นประธานชาติอาเซียนและได้จัดการประชุมสุดยอดอาเซียนมาแล้ว 2 ครั้งด้วยกันคือ
ครั้งที่ 5 ในวันที่ 14 – 15 ธันวาคม 2538 ในสมัยที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ที่กรุงเทพมหานครและครั้งที่ 14 ในวันที่ 10-11 เมษายน 2552 ที่โรงแรมเอเชียเมืองพัทยา ชลบุรี แต่การประชุมไม่ได้เกิดขึ้นเพราะกลุ่มประชาชนในนามของกลุ่มนปช.คนเสื้อแดงที่สนับสนุนนายทักษิณ ชินวัตร ได้ไปก่อเหตุประท้วงรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่โรงแรม
ครั้งที่ 15 ในวันที่ 23 - 25 ตุลาคม 2552 ที่อำเภอชะอำจังหวัดเพชรบุรีและอำเภอหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นายอภิสิทธิ์ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเป็นวาระที่ 2 ในปีเดียวกันเพื่อทดแทนการประชุมครั้งที่ 14 ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นทางการเพราะการประท้วงของกลุ่ม นปช.
การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 33 ที่สิงคโปร์ นั้นพล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่าการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 33 ที่สิงคโปร์นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะได้แสดงวิสัยทัศน์สำหรับการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยในปี 2562 ซึ่งไทยจะเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนในทุกมิติ
ไทยมีส่วนที่สำคัญในการริเริ่มให้ 10 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมกันจัดตั้งประชาคมอาเซียนขึ้นซึ่ง 3 ประเทศผู้ที่ก่อตั้ง ได้แก่ มาเลเซีย, สิงคโปร์ และไทย ซึ่งมีเต็งกู อับดุล เราะห์มาน อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย นายลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์และพันเอกถนัด คอมันตร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของไทยได้ประกาศปฏิญญาอาเซียนขึ้นเมื่อกว่า 50 ปี มาแล้วในวันที่ 8 สิงหาคม 2510 โดยใช้ชื่อในครั้งแรกว่าสมาคมอาสา ASA
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี