การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดรับซองประมูล โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงินลงทุน 224,544 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
มีกลุ่มบริษัทเข้ายื่นข้อเสนอ 2 ราย ได้แก่ 1.กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วยบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย) 2.กิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง (เครือซีพี) และพันธมิตร ประกอบด้วยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ประเทศไทย), บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน), China Railway Construction Corporation Limited (สาธารณรัฐประชาชนจีน), บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
อีกไม่นานก็คงจะทราบผลการประมูล
งานนี้ไม่มีนักร้องออกมาคัดค้าน แม้จะมีสัมปทานยาว 50 ปี เพราะทุกคนอยากเห็นประเทศชาติเจริญก้าวหน้า
แต่ในการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณและบงกช ภายใต้ “ระบบแบ่งปันผลผลิต (PSC)” ยังคงมีนักร้อง ตั้งแต่กลุ่มพเนจร จนมีค่ายสังกัด มีความเห็นต่างคัดค้านอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องการแบบระบบจ้างบริการ (SC)
โหมกระหน่ำผ่านโซเชียลมีเดีย!! คาดว่าช่วงเลือกตั้งคงเปิดคอนเสิร์ตพลังงานอีกหลายเวที
ที่ผ่านมานักวิชาการด้านธรณีวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานยืนยันตรงกันว่า โดยสภาพทางธรณีวิทยาแหล่งกำเนิดปิโตรเลียมในบ้านเราเป็นกระเปาะเล็กๆ ทำให้มีปริมาณสำรองปิโตรเลียมในปริมาณน้อย อีกทั้งยังกระจัดกระจาย ไม่ได้เป็นหลุมที่มีปริมาณสำรองจำนวนมากเหมือนในตะวันออกกลาง พูดง่ายๆว่า ขุดเจาะไปตรงไหนก็เจอน้ำมัน เจอก๊าซธรรมชาติ
ประเทศเหล่านั้นจึงนำระบบ จ้างบริการหรือ SC มาใช้ และเอกชนก็พร้อมจะลงทุน ในขณะที่บ้านเราหากนำระบบดังกล่าวมาใช้เชื่อว่า การประมูลคงล้มเหลว เพราะเอกชนประเมินแล้วว่าไม่คุ้มค่าการลงทุน หรือไม่ต้องมองไกล เอาแค่เปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซีย หรือ เมียนมา แม้จะอยู่ใกล้ๆ กัน แต่สภาพทางธรณีวิทยาก็แตกต่างกัน จนส่งผลต่อแหล่งกำเนิดและปริมาณสำรองปิโตรเลียม เปรียบเทียบกันให้เห็นภาพชัดๆ แหล่งปิโตรเลียมอาทิตย์ หนึ่งในแหล่งผลิตปิโตรเลียมกลางอ่าวไทย ต้องใช้จำนวนหลุมผลิตสูงถึงกว่า 300 หลุมเพื่อให้ได้อัตราการผลิตที่ประมาณ 223 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
ขณะที่ แหล่งยาดานาของเมียนมาใช้หลุมผลิตเพียงแค่ประมาณ 17 หลุม แต่ได้กำลังการผลิตปิโตรเลียมสูงถึงประมาณ 700 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ขณะที่แหล่งLuconiae-11 ของมาเลเซีย ใช้จำนวนหลุมผลิตประมาณ 25 หลุม ได้กำลังการผลิตปิโตรเลียมสูงถึงประมาณ 1138 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
ไม่ต้องแปลกใจที่การประมูลครั้งนี้ ท้ายที่สุด จึงเหลือผู้ประมูลหลัก 2 รายที่จับมือมากับพันธมิตรอีก 2 รายมาสู้กัน ทวนกันอีกครั้ง โดยในแหล่งเอราวัณ มี บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในเครือ ปตท.สผ. ร่วมทุนกับ บริษัท MP G2 (Thailand) Limited ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท มูบาดาลา แข่งขันกับ บริษัทเชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ร่วมทุนกับ บริษัท มิตซุยออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปานี ลิมิเต็ด
ขณะที่แหล่งบงกช เป็นการแข่งขันระหว่างบริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กับ บริษัทเชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งควงคู่มากับ บริษัทมิตซุยออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปานี ลิมิเต็ด
ต้องไม่ลืมว่าแหล่งเอราวัณและบงกช นั้นผลิตมายาวนานหลายสิบปี เป็นที่รู้กันในข้อเท็จจริงว่า หลุมผลิตช่วงท้ายสัมปทาน นั้น มีขนาดกระเปาะที่เล็ก และอยู่ลึกกว่าเดิม ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยในหลุมผลิตใหม่ๆ จึงสูงขึ้น
นี่คือสาเหตุสำคัญ ว่าเพราะอะไรที่บริษัทจาก ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และ จีน ถึงได้โบกมือลาไม่ยอมลงสนามแข่งขัน นั่นเพราะประเทศไทยไม่ได้ร่ำรวยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจริง และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากเจ้าเดิมจะชนะการประมูลเพราะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขใน TOR และมีข้อเสนอที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติสูงสุด ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ภายใต้ความเป็นจริงที่ว่า หากการประมูลเอราวัณและบงกชล่มลง ความมั่นคงทางพลังงาน และเศรษฐกิจของประเทศไทยคงจะสะดุด รถไฟฟ้าความเร็วสูง ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ก็มีผลกระทบ
ครับ!!!ทักท้วงกันพอหอมปากหอมคอ ก็ควรจะหยุด และตัดอคติออกไปบ้าง เพื่ออนาคตความมั่นคงทางด้านพลังงานของชาติ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี