บทความสุดท้ายของซีรี่ส์ต่อเนื่องเพื่ออธิบายความของนิยาม “ประชาธิปัตย์ยุคใหม่” ที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ย้ำในจุดยืนของแนวทางนโยบายเอาไว้ และวันนี้ก็แน่นอน
แล้วว่า คุณอภิสิทธิ์ได้รับเลือกจากสมาชิกพรรคให้สานต่อเจตนารมณ์เดิมในการมุ่งมั่นทำงานการเมืองของท่านต่อไป
บทความตอนที่แล้วได้ว่ากันถึง 5 เสาหลักประเทศไทยยุคใหม่ โดยได้เริ่มที่ “เศรษฐกิจยุคใหม่” และ “การศึกษายุคใหม่” ไปเรียบร้อยแล้ว
เศรษฐกิจยุคใหม่ ผมทวนอีกครั้งคือ การที่เราจะต้องไม่มองเพียงแค่ตัวเลขการพัฒนาของจีดีพีเพียงอย่างเดียว แต่ให้มองให้ครบรอบด้าน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชน ทั้งเรื่องปากท้อง รายได้ ชีวิตความเป็นอยู่ ที่สุดท้ายจะขมวดเป็นโอกาสและความเท่าเทียมกันในสังคม ซึ่งจะเป็นมิติในภาพที่กว้างกว่าการมองแบบเดิม
ส่วนการศึกษายุคใหม่ ก็สนับสนุนกันกับเศรษฐกิจก็คือการสร้างโอกาสให้คนมีทักษะ มีความสามารถในการเพิ่มพูนสมรรถนะในตัวเอง จนกระทั่งไปทำมาหาเลี้ยงชีพเองได้อย่างเท่าเทียมกัน มีความสามารถทางภาษาที่ออกไปค้าขายกับโลกภายนอกได้ มีทักษะที่เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และเทคโนโลยี มิใช่เพียงแค่การเรียนรู้แล้วเอาวุฒิบัตรทางการศึกษามานอนกอดเท่านั้น
3 เสาหลักที่จะกล่าวถึงได้วันนี้คือ ราชการยุคใหม่ การเมืองยุคใหม่ และกฎหมายยุคใหม่
เสาหลักที่ 3 ราชการยุคใหม่ เริ่มต้นก็ต้องบอกว่าวันนี้ประชาชนคาดหวัง คือ การเข้าสู่ระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ และการให้บริการต่างๆ ของรัฐต้องเท่าเทียม ทัดเทียมกับเอกชน
คุณอภิสิทธิ์ย้ำเอาไว้ว่า ตนเองได้ชี้ให้เห็นเมื่อไม่นานมานี้ว่า ที่ราชการพยายามมากำหนดกฎ ระเบียบ ยุ่งวุ่นวายมากมาย แม้กระทั่งเรื่องการยืนยันการเป็นสมาชิกนี้ สำเนาบัตรประชาชนต้องลงนาม สำเนาทะเบียนบ้านต้องมี แล้วก็ลงนามโดยเจ้าตัว มันไม่ได้สอดคล้องกับโลกยุคใหม่
ต่อไปนี้การให้บริการของภาครัฐ ที่ให้แก่ประชาชน ต้องอำนวยความสะดวกเต็มที่ ไม่หย่อนในเชิงของคุณภาพ มาตรฐาน ความรวดเร็ว ประสิทธิภาพไปกว่าภาคเอกชน และเพื่อสานต่ออุดมการณ์การกระจายอำนาจของพรรค ประชาธิปัตย์ยุคใหม่จะเดินหน้าสนับสนุนระบบที่จังหวัดจัดการตนเอง และมีการเลือกผู้ว่าราชการจังหวัด
สิ่งนี้จะทำให้เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบราชการครั้งใหญ่ ที่ทำให้การทำงานของกลไกของราชการในพื้นที่สามารถมาตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดเล็ก จังหวัดใหญ่ จังหวัดที่รวย จังหวัดที่ยากจน จะได้คนที่ประชาชนต้องการมาแก้ไขปัญหาของเขา มีอำนาจเพียงพอในการกำหนดอนาคตของเขา
และในตัวเมือง โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องบริหารจัดการในระบบของมหานคร ทุกภูมิภาคต้องมี ไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพมหานคร นี่คือราชการยุคใหม่ และสำหรับในพื้นที่อื่นๆ ก็ต้องมีการขยายบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และทั้งหมดนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาว่า มีการกระจายอำนาจไปแล้ว ปรากฏว่า การทำงานกลับกลายเป็นยังมีปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน จะต้องมีการผลักดันกฎหมายกลางที่มากำหนดเลยว่า มาตรฐานของการบริหาร ของท้องถิ่น ของจังหวัด จะต้องโปร่งใสอย่างไร ประชาชนต้องมีส่วนร่วมอย่างไร และต้องรับผิดชอบต่อประชาชนอย่างไร นี่คือราชการยุคใหม่
เสาหลักที่ 4 การเมืองยุคใหม่ นอกจากจะตอบสนองความต้องการของประชาชนแล้ว เราต้องขจัดเงื่อนไขของวิกฤติที่ผ่านมา ต้นเหตุของมันก็คือปัญหาการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ การทุจริต คอร์รัปชัน การเมืองต้องปราศจากการทุจริต ซึ่งลำพังรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่มีอยู่ องค์กรอิสระ ไม่พอหรอกครับ เราเห็นกันอยู่แล้ว
แต่ประชาธิปัตย์ยุคใหม่ จะเป็นผู้นำ ในการสร้างประเพณี วัฒนธรรม มารยาททางการเมือง ในการจัดการกับปัญหานี้เพื่อกอบกู้ศรัทธาของประชาชน การตรวจสอบ ถ่วงดุล ที่สำคัญที่สุดวันนี้เกิดขึ้นโดยสังคม เรื่องอื้อฉาวทั้งหลายที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในปัจจุบัน ที่ไม่สามารถเป่าให้หายไปได้ เพราะทุกวันนี้สังคมตรวจสอบ หัวใจของมันก็คือ เราจะช่วยสังคมอย่างไร เราจะช่วยสังคมด้วยการเปิดข้อมูลของราชการ เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ให้มากที่สุด และปกป้อง ส่งเสริม ให้รางวัลแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส ในเรื่องของการทุจริต คอร์รัปชัน คือคนที่ทำงานในสังคมในการตรวจสอบเรื่องการทุจริต คอร์รัปชันนั่นเอง
และในการเมืองในยุคใหม่ เราต้องยอมรับความหลากหลายที่มีอยู่ในสังคม พื้นที่สำหรับผู้ที่คิดต่าง พื้นที่ที่จะต้องมีให้กับความหลากหลายในทุกมิติ ในสังคม ต้องมีในการเมืองยุคใหม่
และสุดท้ายนะครับ เสาหลักที่ 5 กฎหมาย กับกระบวนการยุติธรรมยุคใหม่ วันนี้ กฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ใบอนุญาตต่างๆ ของประเทศไทยซึ่งมีอยู่เป็นแสนฉบับ ต้องมีการปรับรื้อ ลดทอนลง หายไป 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 3 นี่ทำได้ง่ายๆ เลย เพราะถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ เราจะพูดเรื่องเศรษฐกิจยุคใหม่ก็คงพูดไม่ได้ ธุรกิจไม่ต้องใหม่หรอกครับ เดี๋ยวนี้ไม่ใหม่แล้ว ทั้ง Uber ทั้ง Airbnb ทุกวันนี้ ยังถกเถียงกันอยู่เลยว่า ถูกกฎหมาย-ผิดกฎหมาย
คนรุ่นใหม่ ที่เขามีความคาดหวังว่า เขากำลังจะเริ่มต้นธุรกิจในสาขาใหม่ๆ แต่กฎหมายรองรับไม่มีเลย ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ หรือทำไปแล้วจะไปติด ไปขัด กฎหมายข้อใด อุปสรรคเหล่านี้ต้องถูกขจัดออกไปให้หมด รวมถึงเรื่องของการเงินด้วย กฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน โครงสร้างของการเงินด้วย นี่คือสิ่งแรกที่เราจะต้องดำเนินการในเรื่องของกฎหมายในยุคใหม่นี้
ในแง่ของกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ ต้องปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง การสอบสวนต้องมีความเป็นอิสระ นี่คือหลักประกันที่ดีที่สุด ในแง่ของความยุติธรรม และจะต้องมีการกระจายอำนาจ ในการบริหารในกระบวนการนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ และองค์กรอื่นๆ ประชาชนจะต้องเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม ซึ่งส่วนหนึ่งที่จะต้องมีการดำเนินการในยุคใหม่ก็คือ การพิจารณาคดีต่างๆ ต้องรวดเร็ว และต้องไม่เป็นภาระแก่ประชาชน
และบรรทัดสุดท้ายก็คือ กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเรามีกฎหมายกับกระบวนการยุติธรรมยุคใหม่แบบนี้ มีเศรษฐกิจยุคใหม่ การศึกษายุคใหม่ ราชการยุคใหม่ การเมืองยุคใหม่แบบนี้ นั่นคือการที่เรากำลังจะนำพาประเทศไทย สังคมไทย เพื่อที่จะก้าวทะยานไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง และเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทั้งหมด
หลังจากได้ชัยชนะในการหยั่งเสียงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไปเรียบร้อยและมีการประชุมใหญ่พรรค เลือกหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการไปแล้ว วันนี้ผมขอเอาบทสรุปที่คุณอภิสิทธิ์ได้กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ตอนนั้นมาย้ำให้ชัดกันอีกครั้งหนึ่งครับ
“ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เอง สมาชิกยุคใหม่กำลังจะมีโอกาสหลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่การหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ตั้งแต่การมีส่วนร่วมในงานต่างๆ ของพรรคฯ ซึ่งทำได้สะดวกรวดเร็ว ผ่านโทรศัพท์มือถือโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ และมาร่วมอุดมการณ์กับเราแล้ว เราจะช่วยกันผลักดัน ทำอย่างไรให้สังคมไทยก้าวหน้า สร้างใหม่ สังคมไทย เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจยุคใหม่ การศึกษายุคใหม่ ราชการยุคใหม่ การเมืองยุคใหม่ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมยุคใหม่ เพื่อตอบโจทย์ให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ”
สุดท้ายที่ผมเองอยากจะบอกเอาไว้ก็คือว่า การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน มิใช่เพียงเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ขั้วนายทุน ขั้วการเมือง ขั้วอำนาจข้างหนึ่งข้างใดเท่านั้น เราอยากได้บ้านเมืองแบบไหน เราต้องร่วมกันสร้างขึ้นมาเอง และวันนี้ พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันที่เข้มแข็งที่สุด และพร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดพรรคหนึ่งคือ “พรรคประชาธิปัตย์” ครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี