เวลาและวารีไม่รอท่าใครใกล้จะถึงเดือนธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีจอแล้ว ล่าสุดบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ได้วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจของประเทศช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ออกมาว่าภาพรวมของประเทศภาวะเศรษฐกิจใน 3 เดือนสุดท้ายของปี 2561 ก่อนจะก้าวไปสู่ปีใหม่ 2562 ว่าดัชนีค่าครองชีพในเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 45.3 ใกล้เคียงกับเดือนกันยายน 2561 ที่อยู่ระดับ 45.2
ภาวะค่าครองชีพในช่วงปลายปี 2 เดือนสุดท้ายคือพฤศจิกายนกับธันวาคม 2561 ไม่น่าจะมีปัญหากับภาคประชาชนในครัวเรือนมากนักเพราะที่กลัวว่าค่าครองชีพจะสูงเพราะน้ำมันดิบในตะวันออกกลาง,ทะเลเหนือและในสหรัฐอเมริกามีราคาลดลงมาเหลือบาร์เรลละ 60 ถึง 63 เหรียญสหรัฐ เทียบกลับไปเป็นต้นทุนน้ำมัน 1 ลิตร แบบไทยๆ แล้วปรากฏว่าจะตกอยู่ที่ลิตรละ 12.26 บาท ไปจนถึงลิตรละ 12.87 บาท
สาเหตุที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่พุ่งไปมากถึง 80 เหรียญสหรัฐ แบบเดิมนั้นเป็นเพราะสต๊อกน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐอเมริกายังมีมากพอแถมการบีบบังคับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านของรัฐบาลอเมริกันภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็กระทำได้ไม่เต็มที่นักเนื่องจากประเทศซาอุดีอาระเบียได้ผลิตน้ำมันดิบในตลาดให้เพียงพอแก่ความต้องการของตลาดโลกเพื่อทดแทนภาวะตลาดไม่ให้ขาด
นอกจากนี้กลุ่มประเทศในยุโรปในประชาคมเศรษฐกิจยุโรปได้มีการพัฒนามาใช้รถยนต์เป็นรถใช้พลังงานนำไฟฟ้าแทนน้ำมันถึงร้อยละ 40 เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน ทำให้กลุ่มชาติอาหรับในโอเปกเองไม่กล้าขึ้นราคาน้ำมันดิบมากนักเพราะจะไปเข้าทางประเทศตะวันตกที่จะเร่งพัฒนายานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าให้เร็วมากขึ้นไปอีก
สำหรับประเทศไทยดัชนีภาวะค่าครองชีพในกลุ่มชนชั้นกลางประมาณร้อยละ 50 มีแนวโน้มไม่เพิ่มสูงนักประกอบกับประเทศไทยเองก็มีรายได้จากการส่งสินค้าออกไปตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องโดยมีกลุ่มประเทศลูกค้าหลักก็คือชาติเพื่อนบ้านกลุ่มอาเซียนยังให้การสนับสนุนสินค้าของไทย ในขณะที่ไทยเองก็มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศตลอดทั้งปีประมาณ 37 - 38 ล้านคน เฉลี่ยเดือนละ 3 ล้านกว่าคน
ทำให้ประเทศมีรายได้เข้ามาเป็นเงินตราต่างประเทศประมาณ 50,000 ถึง 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ค่าเงินบาทมีความเป็นเสถียรภาพตลอด 4 - 5 ปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทไม่ขึ้นลงมากเมื่อเทียบค่าเงินบาทกับเงินของประเทศเพื่อนบ้านแล้วไม่ว่าจะเป็นเงินเปโซของฟิลิปปินส์,เงินริงกิตของมาเลเซีย, เงินกีบของ สปป.ลาว,เงินเรียลของกัมพูชา,เงินจ๊าดของเมียนมา,เงินรูเปียห์ของอินโดนีเซีย หรือเงินด่งของเวียดนาม แล้วเงินบาทไทยมีความแกร่งของค่าเงินในระดับที่ดีมากๆ
ในขณะที่ประชาชนคนไทยในชนบทแทบทุกๆภาคในปีนี้มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าการเกษตรโดยเฉพาะข้าวเจ้ากับข้าวหอมมะลิรวมไปถึงถั่วเหลืองอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าปีที่ผ่านมาที่กำลังเป็นปัญหามากคือราคาผลผลิตในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ ยางพารา,ปาล์มน้ำมัน และมะพร้าวที่มีราคาตกลงมาก ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันกำลังเร่งแก้ไขพยุงราคาอย่างรีบด่วนอยู่แล้วเชื่อว่าเดือนหน้าราคาผลผลิตเหล่านี้น่าจะเขยิบสูงขึ้นตามมาตรการแก้ไขของรัฐบาล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี