l เจี๊ยบ & โจ๊ก ลูกรัก
วันนี้ จะเขียนถึงเรื่องธรรมดาๆ ที่ดูง่ายๆ แต่คนไม่น้อยไม่เข้าใจและไม่ได้ทำ ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่สำคัญของชีวิต
คือ เรื่องหน้าที่พลเมืองยุคปัจจุบัน ที่ต้องออกมาทำหน้าที่ ต่อบ้านเมือง ซึ่งเราเรียนกันมาตั้งแต่ชั้นประถม
ใช่แล้วลูก พ่อจะเขียนถึงเรื่อง “คนธรรมดาสร้างชาติ” ที่พ่อคิดและทำมานานแสนนาน ตั้งแต่ก่อนเจอแม่ของลูก
แต่เพิ่งจะมาเขียนลงในข่าวสาระรายวันที่ พ่อใช้เวลาวันละสี่ห้าชั่วโมง คัดสรรข่าวจากสื่อและความคิดของตัวเอง
และวันที่เริ่มเขียน(พิมพ์)ลงในกระดาษ เป็นลายลักษณ์อักษร ก็เป็นวันที่ย่างก้าวที่ ๗๐ ของชีวิตที่ได้เกิดมาฯ
พ่อเขียนข้อความนี้ : จากหัวใจใบเล็กที่มีขนาดเท่ากับของเพื่อนคนไทย แต่มันเต็มแน่นไปด้วยความรู้สึกคึกคัก
@ วันอังคารที่ ๑๓ เดือน ๑๑ เป็นวันเริ่มต้น ก้าวเดินบนเส้นทางสายประชาชน ก้าวย่างที่ ๗๐ ต่อไป ๗๑
และก้าวต่อไปอีกบนแผ่นดินเกิดอันเป็นที่รักสุดชีวิตสุดหัวใจ จนกว่าดินจะกลบหน้า
จะหยุดภารกิจหยุดชีวิตลมหายใจไว้กับมาตุภูมิที่แสนรัก
แต่ต่อไปนี้ เป็นการก้าวทีละก้าวอย่างคงมั่นคง ด้วยประสบการณ์และบทเรียนที่ผ่านมาตลอด ๖๙ ปี ทั้งรักทั้งหวานชื่นขื่นขม ที่ตัด “ชัง” ออก(ทั้งรักทั้งชัง) เพราะ ได้ข้อสรุปว่า “การชังใครหรือชังชาติ เปล่าประโยชน์ แถมมีโทษต่อใจและคิดของตน ที่มุ่งตอบโต้ด้วยอคติอวิชา ให้สะใจตนเอง อันหาประโยชน์ใดมิได้ ,
ดังนั้นการสรุปบทเรียนประเมินผลจึงเป็นความจำเป็น มีความสำคัญมีคุณค่าและความหมายแก่ชีวิต
ต้องสลัดทิ้ง “สิ่งที่ไม่เป็นคุณ ที่ถูกสร้างขึ้นจากอวิชชาความอยากได้อยากมีอยากเป็น ที่เกาะกุมจิตใจมายาวนาน เป็นภาระหนักอึ้งที่คนเราต้องแบกไป บนเส้นทางข้างหน้าของชีวิต”
แล้วตัวเราใจเรา ก็จะเบาขึ้น เดินไปบนเส้นทางวิกฤติที่สะสมกันมายาวนาน
ทั้งจากเขาจากรัฐบาลทหารและพลเรือนและตัวของเราเอง (เป็นสำคัญ) เพื่อหาทางออกจากถ้ำแห่งวงจรอุบาทว์
“เลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม ได้รัฐบาลโกงกินใช้อำนาจไม่เป็นธรรมเพื่อตนเองและพวกพ้อง ประชาชนเดือดร้อนรวมตัวลุกขึ้นสู้ ความขัดแย้งทวีคูณ ไม่มีทางยุติ ทหารเข้ามาทำการรัฐประหาร ร่างรัฐธรรมนูญ ให้มีการเลือกตั้ง” : ๘๖ ปี แล้วหนอเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่หัวสมองความคิดของผู้นำติกับดักกรอบความคิดที่ Import จากนอก “ประชาธิปไตยรัฐสภาจากการเลือกตั้ง ความคิดสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ธนาคารโลก แนวคิดสิทธิเสรีภาพโดยเอ็นจีโอ ฯลฯ”
โดยผู้นำหรือชนชั้นนำไทยเราไม่ได้ “คิดขึ้นด้วยตนเอง จากสภาพสังคมที่เป็นจริงของประเทศไทย”
ไม่คิด “ตัดรองเท้าประชาธิปไตย ให้เข้ากับเท้าไทย“แต่ดันไปตัดเท้าไทยให้เข้ากับเกือกฝรั่ง รัสเซีย จีน”
@มาถึงวันนี้เดินมาอยู่บนยอดเข้าสูงเริ่มเห็นแสงแห่งความหวังที่เป็นจริงแสงหนึ่งส่องประกายมาที่หัวใจของเรา “การมีพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง” ที่สมาชิกและประชาชนเป็นเจ้าของเป็นผู้กำหนดทุกอย่าง ที่จักต้องคอยเป็นไป และอาจจะดูเชื่องช้า ไม่ทันใจ ไม่แน่ใจไม่มั่นใจ
“เสียงตำหนิกล่าวหา จึงทยอยออกมาจากอารมณ์แค้น ผิดหวังฯ ก็ต้องอย่าท้อแท้ หากเป็นของจริง ต้องยอมให้ถูกขัดถูกวิพากษ์วิจารณ์ โดยไม่ตอบโต้ แต่ใช้ความเป็นจริงแห่งการปฏิบัติก้าว เดินคาราวะแผ่นดินต่อไป
ใครเริ่มมั่นใจเห็นถึงในความมุ่งมั่นแน่วแน่ของเหล่าผู้นำและสมาชิกพรรคนี้ ก็ก้าวเข้ามาร่วมกันช่วยกัน เพราะเส้นทางเดินทางแก้วิกฤติชาติที่สะสมกันมาช้านาน ต้องใช้เวลาและความจริงใจพิสูจน์ให้เห็นว่า : บนเส้นทางการสร้างชาติปฏิรูปสังคม มีทั้งพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง มีผู้คนหลากหลายชนชั้นสนับสนุน และ “คนธรรมดาสร้างชาติ “อย่างปู่จิ๊บและเพื่อนพ้องน้องพี่ คนหนุ่มสาวคนชราคนเกษียณ ที่มีความรักบ้านเมือง ออกแรง เราจะช่วยสนับสนุนผู้นำที่ดีพรรคการเมืองของประชาชนที่ดี ด้วยชีวิตและจิตใจ ด้วยความรู้ความคิดสติปัญญาความจริงและที่สำคัญน่ะออเจ้า เราประชาชนชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อยต้องเริ่มที่ต้นเอง คิดดีทำดี เคารพความจริงเคารพคน และก็มีอีกหนึ่ง ที่ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์และชัยวัฒน์ สุรวิชัย ไปร่วมด้วยช่วยกัน “เธอคือสถาบันการสร้างชาติ” ที่ ดร.แดน (ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์) และเพื่อนพ้องที่รักแผ่นดินเกิด ได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาถึงรุ่นที่ ๖ NBI 6 อันจะทำให้เกิดการร่วมมือกัน เสริมและหนุนช่วยกันไป
ให้เราบรรลุการสถาปนาชาติได้สำเร็จ @นี่คือความปรารถนาจริงใจ
นี่คือการเฉลิมฉลองกับใจกายของตนเอง ในการเริ่มต้นก้าวบนอย่างก้าวที่ ๗๐ ของชีวิต
หลักการทั่วไป ที่ทั่วโลกประสบความสำเร็จในการสร้างชาติ คือ 1.เริ่มต้น จาก “คนธรรมดาสร้างชาติ” ที่ต้องสร้างต้องพัฒนาตน ให้เป็นคนดีมีความคิดที่ถูกต้อง เพราะ “ความคิดเปลี่ยนคน และคนเปลี่ยนโลก”
2.สร้างสถาบันสร้างชาติ ที่มีสองรูปแบบ คือ ทำแบบอิสระตามความถนัดความชอบ ใครสนใจสร้างเยาวชน ก็ไปผลักดันขับเคลื่อนงานเยาวชน ใครสนใจสร้างธุรกิจที่ดีเพื่อสังคม ใครสนใจสร้างคนจิตอาสา ก็ไปคิดไปทำให้สำเร็จเป็นเรื่องๆ ไป แต่รูปแบบที่ควรเป็น คือ สร้างสถาบันสร้างชาติ อย่างเป็นระบบเป็นภาพรวม ทำให้รอบด้าน เช่น จัดอบรมให้ความรู้ความคิดหลักการในการสร้างชาติ ที่เป็นไปได้ แก่ผู้นำในภาคส่วนต่างๆที่มีความมุ่งมั่นในความรักชาติอย่างจริงจัง (อีกทั้งปรารถนาจะพัฒนาตนเองให้เป็นคนดีคนเก่ง) ต้องการแสวงหา “ความจริงความดีความงาม” แล้วทำต่อเนื่อง ในการสร้างเยาวชนรักชาติ ครูรักชาติ นักธุรกิจข้าราชการรักชาติ ฯลฯ ซึ่งจะก่อเกิดเป็นพลังสร้างสรรค์ ในการพัฒนาและสร้างคนสร้างประชาชนให้มีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้นมากขึ้น ไปทั่วไทย เป็นการสะสมพลังของประชาชนที่รักชาติให้มากพอ และ 3.ส่วนที่สำคัญ ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นจริงได้ คือ “การเข้าสู่การเมือง” เพราะการเมือง เป็นการจัดสรรอำนาจให้แก่ผู้คนและสถาบันต่างๆ ในสังคม ให้คนดีคนมีความรู้ความสามารถ ได้เข้าไปบริหารบ้านเมือง เข้าไปแก้วิกฤติของสังคมที่เกิดจากโครงสร้างและระบบของสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็นธรรม ให้คนดีรวมตัวเป็นพลังแห่งความดี เอาชนะหรือขจัดคนไม่ดีให้น้อยลง ไม่สามารถก่อความวุ่นวายได้ ฯลฯ, ฉะนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้ง “พรรคการเมือง” ขึ้น เพราะเป็นการสอดคล้องกับระบบและสภาพของสังคมในประเทศและในโลกปัจจุบัน แต่พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นนี้ ต้องมิใช่ “เป็นพรรคของชนชั้นนำ เป็นพรรคที่มีนายทุนสามานย์ นายทุนใหญ่หรือนักเลือกตั้งเป็นเจ้าของพรรค ประชาชนเป็นแค่สมาชิกในนาม ที่เป็นตัวประกอบ ไม่มีสิทธิไม่มีเสียงอะไร ซึ่ง 86 ปีที่ผ่านมา ประชาชนไทยที่รักชาติรักประชาธิปไตย ได้สรุปบทเรียนมาแล้วด้วยเลือดเนื้อและชีวิต และได้พิจารณาเห็นว่าในปัจจุบันมีเงื่อนไขที่สุกงอม ที่จะต้องจัดตั้ง “พรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง” คือ เป็นพรรคการเมืองที่จะมาสร้างชาติได้อย่างเป็นจริง : พรรคการเมืองสร้างชาตินี้ ต้องประกอบด้วย “คนธรรมดาสร้างชาติ” และ “สถาบันสร้างชาติ”รวมทั้ง ผู้นำที่รักชาติที่ได้ผ่านการพิสูจน์ตนเองต่อหน้าสาธารณชนมาแล้วในเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมือง เช่น เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 17 พฤษภา 2535 การเคลื่อนไหวของ พธม. 2549-2551 ……….และ กปปส. 2556-7 ที่มีมวลมหาประชาชนร่วมเป็นล้านๆ,
นี่คือ หลักการ ทิศทาง ที่มีโอกาสที่จะนำประเทศไทย ออกจากถ้ำแห่งวิกฤติไปได้จริง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี