ประชาชนคนไทยสนับสนุนการปลดล็อกกัญชาเพื่อการแพทย์ พร้อมสนับสนุนรัฐบาล คสช. หากเดินหน้าปลดล็อกอย่างตรงไปตรงมาเปิดทางให้การแพทย์แผนไทยได้ใช้ประโยชน์ ทำให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษาด้วยการใช้พืชสมุนไพรกัญชา โดยไม่ถูกบริษัทต่างชาติฮุบเอาสิทธิบัตรยาที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไปผูกขาดครอบครอง
ดังที่ปรากฏว่า มีบริษัทเอกชนยื่นขอจดสิทธิบัตรยาที่มีสารสกัดจากกัญชาเป็นส่วนประกอบ ค้างอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกรมทรัพย์สินทางปัญญาอยู่แล้ว
นำมาซึ่งความวิตกกังวลว่า พอปลดล็อกกัญชาปุ๊บ ก็จะเป็นการ “เตะหมูเข้าปากหมา” ปั๊บ
เพราะจนถึงนาทีนี้ กัญชา และสารสกัดจากกัญชา ล้วนเป็นสารเสพติด ผิดกฎหมายในประเทศไทย ต้องห้ามครอบครอง เสพ จำหน่ายจ่ายแจก จะไปพัฒนาเป็นสินค้าส่วนบุคคลก็ไม่ได้
1.ล่าสุด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการจดสิทธิบัตร “สารสกัดจากกัญชา” ระบุว่า สารสกัดจากกัญชาเป็นสารสกัดจากพืช และมาตรา 9ของกฎหมายได้กำหนดไว้ว่าไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ จึงได้ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยใช้มาตรา 30 พิจารณายกเลิกคำขอดังกล่าว
“ตอนนี้ มีคำขอที่ยื่นจดสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชาเพียงคำขอเดียวจากทั้งหมด 11 คำขอ ได้ขอให้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาไปดำเนินการต่ออย่างรอบคอบ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ส่วนขั้นตอนการดำเนินการจะเป็นเรื่องของรายละเอียดตามกฎหมายที่จะดำเนินการต่อไป แต่ตอนนี้ พูดได้ว่าคำขอจดสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชาที่เป็นที่สนใจของสังคมได้มีข้อยุติแล้ว โดยใช้มาตรา 30 จัดการ และขั้นตอนตามกฎหมายน่าจะใช้เวลาไม่นาน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้”นายสนธิรัตน์กล่าว
ประการสำคัญ นายสนธิรัตน์กล่าวต่อไปว่า ในจำนวนคำขอจดสิทธิบัตรทั้ง 11 คำขอ ผู้ยื่นคำขอได้มีการละทิ้งคำขอไป 2 คำขอ ซึ่งคำขอจะไม่อยู่ในระบบอีกต่อไป ส่วนคำขอที่เหลืออีก 8 คำขอ ไม่ใช่สารสกัดจากกัญชา แต่เป็นคำขอที่มีการใช้สารสกัดจากกัญชาเป็นองค์ประกอบ ก็ดำเนินการยื่นจดสิทธิบัตรได้ต่อตามกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของการประดิษฐ์คิดค้น ไม่ใช่การยื่นจดสารสกัดจากกัญชา
2.ถ้อยแถลงข้างต้น สะท้อนว่า คำขอสิทธิบัตรที่มีการใช้สารสกัดจากกัญชาเป็นองค์ประกอบ ยังคงอยู่ในกระบวนการพิจารณาของกรมทรัพย์สินทางปัญญาต่อไป
3.น่าแปลกใจมาก เพราะคำขอสิทธิบัตรที่มีการใช้สารสกัดจากกัญชาเป็นองค์ประกอบ โดยที่สารสกัดนั้นมีสถานะเป็นสารเสพติดผิดกฎหมายในปัจจุบัน แล้วจะยังอยู่ในข่ายพิจารณาได้อย่างไร?
ถ้าแบบนี้ สามารถยื่นขอได้
ต่อไป ใครก็จะยื่นขอขอสิทธิบัตรที่มีการใช้ยาบ้าเป็นองค์ประกอบ ก็สามารถทำได้ หรือไม่?
ใครก็จะยื่นขอสิทธิบัตรที่มีการใช้เฮโรอีนเป็นองค์ประกอบ ก็สามารถทำได้ หรือไม่?
ถ้าอย่างนั้น กระทรวงพาณิชย์ก็ควรประกาศให้ไว... วัยรุ่นไทยกลุ่มไหน อยากจะยื่นขอจดสิทธิบัตรเครื่องดื่มสารเสพติดอย่าง “4 คูณ 100” ก็สามารถยื่นได้เลยมั้ย ระบุว่ามีส่วนผสม ประกอบด้วย ใบกระท่อม ยาแก้ไอน้ำดำ ยากันยุงและน้ำอัดลม ฯลฯ
หรือจะเพิ่มสารยาเสพติดชนิดอื่นใดเข้าไปอีกเป็น “5 คูณ 100” ก็ได้ใช่ไหม?
เพราะถ้าแบบนี้ทำไม่ได้ คนที่ไปยื่นคำขอสิทธิบัตรที่มีการใช้สารสกัดจากกัญชาเป็นองค์ประกอบ ก็ไม่น่าจะทำได้เช่นกัน
4.แล้วใครจะแอบเอาสูตรตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม ไปยื่นขอจดสิทธิบัตร จะได้ไหม?
ไม่ว่าจะเป็น
สูตร “ทิพกาศ” - เอา ยาดำ เทียนดำ ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน พิมเสน สิ่งละส่วน การบูร 4 ส่วน ฝิ่น 8 ส่วน ใบกัญชา 16 ส่วน สุราเปนกระสาย บดทำแท่ง น้ำกระสายใช้ให้ชอบโรคร้อนแลเย็นกินพอควร แก้สารพัดทั้งหลายอันให้ระส่ำระสาย กินข้าวมิได้ นอนมิหลับ ตกบุพโพโลหิต ลงแดง หายแลฯ”
สูตร “สุขไสยาศน์” - เอาการบูรส่วน 1 ใบสะเดา 2 ส่วน สหัศคุณเทศ 3 ส่วน สมุลแว้ง 4 ส่วน เทียนดำ 5 ส่วน โกฏกระดูก 6 ส่วน ลูกจันทน์ 7 ส่วน ดอกบุนนาค 8 ส่วน พริกไทย 9 ส่วน ขิงแห้ง 10 ส่วน ดีปลี 11 ส่วน ใบกัญชา 12 ส่วน ทำเป็นจุณละลายน้ำผึ้ง เมื่อจะกินเสกด้วยสัพพีติโย 3 จบ แล้วกินพอควร แก้สรรพโรคทั้งปวงหายสิ้น มีกำลังกินเข้าได้นอนเป็นศุขนักแลฯ”
ถ้ายื่นคำขอสิทธิบัตรที่มีกัญชาหรือสารสกัดจากกัญชาเป็นส่วนผสมสามารถทำได้ ป่านนี้ ไม่มีใครไปขโมยจองจดกันแล้วหรือ? จะตรวจสอบกันอย่างไร?
น่าคิด ในขณะที่ประเทศเรา ห้ามวิจัย ห้ามพัฒนากัญชาและสารสกัดกัญชาเพราะเป็นยาเสพติดคงมีแต่ต่างชาติที่วิจัยพัฒนา ปรุงสูตร แล้วถ้าทางการปล่อยให้ต่างชาติดอดมายื่นขอจดสิทธิบัตรจ่อคอหอยเอาไว้ก่อน แบบนี้ มันต่างอะไรกับการ “ขึงพืด” ภูมิปัญญาแผนไทย?
5.มาตรา 30 ของ พ.ร.บ.สิทธิบัตร ระบุว่า เมื่อได้ประกาศโฆษณาตามมาตรา 28 แล้ว ถ้าปรากฏว่าคำขอรับสิทธิบัตรไม่ชอบด้วยมาตรา 5 มาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 หรือมาตรา 14 ให้อธิบดีสั่งยกคำขอรับสิทธิบัตรและให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งคำสั่งไปยังผู้ขอรับสิทธิบัตรรวมทั้งผู้คัดค้าน
เงื่อนไขตามมาตรา 9 ระบุว่า การประดิษฐ์ดังต่อไปนี้ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติ (1) จุลชีพและส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งของจุลชีพที่มีอยู่ตามธรรมชาติ สัตว์พืช หรือสารสกัดจากสัตว์หรือพืช (2) กฎเกณฑ์และทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (3) ระบบข้อมูลสำหรับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ (4) วิธีการวินิจฉัย บำบัด หรือรักษาโรคมนุษย์ หรือสัตว์ (5) การประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี อนามัย หรือสวัสดิภาพของประชาชน
ถ้ากระทรวงพาณิชย์ ยุค คสช.จริงใจกับคนไทย จริงใจกับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ก็ควรพิจารณาว่าคำขอสิทธิบัตรที่มีการใช้สารสกัดจากกัญชาเป็นองค์ประกอบ ที่ยื่นไว้ขณะที่กฎหมายบัญญัติให้กัญชาเป็นยาเสพติดอยู่นั้น เข้าข่ายขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี อนามัย หรือสวัสดิภาพของประชาชน
ควรล้างท่อเสียให้หมด แล้วเริ่มต้นบนพื้นฐานที่เป็นคุณแก่มรดกภูมิปัญญาไทย ผลประโยชน์ของประเทศชาติและคนไทยเป็นสำคัญ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี