เมื่อช่วงปี พ.ศ. 2460 หรือเกือบร้อยปีมาแล้ว ได้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสไข้หวัดใหญ่ H5N1 ที่เรียกกันว่า “ไข้หวัดใหญ่สเปน” ในทวีปยุโรป ซึ่งมีความรุนแรงมากคร่าชีวิตคนทั่วโลกไปกว่า 50-100 ล้านคน หรือเท่ากับ1 ใน 3 ของประชากรยุโรปในขณะนั้นเลยทีเดียว อีก 40 ปี ต่อมาไวรัสร้ายตัวนี้ก็กลับมาระบาดอีกรอบ ครั้งนี้ในทวีปเอเชีย จึงเรียกกันว่า “ไข้หวัดใหญ่เอเชีย” ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1-4 ล้านคน และหวนกลับมาระบาดอีกครั้งเพียง 10 ปีต่อมา คราวนี้มาในชื่อ “ไข้หวัดใหญ่ฮ่องกง” ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1-4 ล้านคน นับเป็นภัยร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติเลยทีเดียว
ในปัจจุบัน แม้ว่านั้นเจ้าเชื้อไวรัส H5N1 ตัวร้ายนี้จะยังหวนกลับมาอยู่เรื่อย ๆ ในชื่อที่เราคุ้นหูกันว่า “ไข้หวัดนก” แต่ก็ไม่เกิดการระบาดรุนแรงอย่างที่คร่าชีวิตคนจำนวนนับล้านคนอีกแล้ว สาเหตุสำคัญที่ยับยั้งความสูญเสียมหาศาลต่อทั้งชีวิตและเศรษฐกิจทั่วโลกได้ คือ มาตรการยับยั้งการระบาดอย่างทันท่วงที โดยนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าไวรัส H5N1 มีจุดเริ่มต้นมาจากสัตว์ปีกทั่วไป ได้แก่ นกและไก่ จึงออกแบบมาตรการหยุดยั้งการระบาดตั้งแต่สัตว์ เพื่อป้องกันไม่ให้ระบาดมาถึงคน
เมื่อเห็นข้อมูลเช่นนี้แล้ว เลยนึกกลับมาที่ปัญหาใหญ่ของประเทศไทยของเรา นั่นคือ การคอร์รัปชันที่ระบาดอย่างรุนแรงมาเป็นเวลานาน สร้างความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยอย่างมหาศาลในทุกๆ ปี แต่ทว่ายังไม่มีมาตรการยับยั้งใดที่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดนี้ได้อย่างมีประสิทธิผล เพื่อหาคำตอบนี้ผมจึงต้องไปงัดแงะมาตรการยับยั้งการป้องกันโรคระบาดที่มีประสิทธิผลมาดูเสียหน่อย เพื่อหากรอบความคิดและกระบวนการที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ข้ามรูปแบบปัญหา
การศึกษานี้จึงนำผมมาพบกับระบบป้องกันโรคระบาดหนึ่ง ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะเป็นระบบที่พัฒนาโดยคนไทยเอง และผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถยับยั้งการระบาดได้จริง ที่ชื่อว่า ผ่อดีดี (PODD - Participatory One Health Digital Disease Detection) หรือมีชื่อเต็มว่า โครงการนำร่องการเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาดสัตว์ที่ติดต่อถึงคนหรือที่กระทบรายได้ชาวบ้าน ที่กล่าวว่าน่าสนใจมากเพราะผู้พัฒนาระบบนี้ คือ บริษัท โอเพ่นดรีม จำกัด ผู้พัฒนาเกมออนไลน์ต้านโกง ที่ชื่อว่า คอร์รัปเดอะเกม ซึ่งบทความนี้เคยนำเสนอไปแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้น จึงน่าจะมีโอกาสเชื่อมโยงกรอบแนวคิดเเละกระบวนการเพื่อป้องกันปัญหาร้ายแรงทั้งสองปัญหานี้ได้
หลักการสำคัญที่ทำให้ระบบนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก คือ แนวความคิดเรื่องการจัดการปัญหาให้จบในวง
ที่แคบที่สุด โดยลดการพึ่งพาความช่วยเหลือจากส่วนกลาง เพื่อความรวดเร็วในการตรวจพบและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยวิธีการ คือ หากมีสัตว์ เช่น ไก่ หมู หรือ วัว ที่เลี้ยงไว้ตายอย่างน่าสงสัย ชาวบ้านที่เลี้ยงสัตว์หรืออาสาสมัครในพื้นที่สามารถถ่ายรูปซากสัตว์ พร้อมเขียนอธิบายลักษณะการตาย เช่น น้ำลายฟูมปาก ปากเท้าเปื่อย หรือ
มีเลือดออกตามทวาร รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในการวินิจฉัย ส่งเข้าระบบผ่านโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลนั้นจะถูกประมวลผลทันทีและส่งให้ผู้เชี่ยวชาญ โดยระบบจะวินิจฉัยอาการเบื้องต้นเทียบกับกรณีอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นหรือเกิดอยู่ในบริเวณนั้น แล้วส่งวิธีการป้องกันเบื้องต้นให้แก่ผู้ที่รายงาน เช่น ให้ฝังซากสัตว์และโรยปูนขาว ซึ่งเพียงเท่านี้ก็สามารถยับยั้งการระบาดได้บ้างแล้ว จากนั้นเมื่อผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ข้อมูลและสงสัยว่าเป็นเหตุระบาดจะทำการแจ้งเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ไปดำเนินการตามกระบวนการที่เหมาะสมและระบบจะติดตามการดำเนินงานจนกว่าจะสามารถยับยั้งการระบาดได้สำเร็จ
การใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้มาช่วยในงานป้องกันโรคระบาด สามารถย่นระยะเวลาตรวจพบโรคระบาดจากหลายสัปดาห์เป็นไม่กี่ชั่วโมง และสามารถยังยั้งการระบาดของโรคได้ภายในหลักชั่วโมงแทนที่จะใช้เวลาเป็นเดือน ระบบนี้จึงสามารถยับยั้งการระบาดได้จริงแล้วถึง 75 กรณี สามารถป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้มากถึงหลายร้อยล้านบาท ทำให้จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 600 คนเป็น 2,000 คน ในเวลา
ไม่กี่เดือน ส่งผลให้ความต้องการใช้ระบบได้ขยายผลไปสู่อีกหลายจังหวัดจากเดิมที่เริ่มต้นแค่เพียงจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น
เมื่อได้เห็นกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิผลของระบบนี้แล้ว จึงกลับไปนึกถึงผลความสำเร็จหนึ่งของโครงการระดมข้อมูลจากประชาชนเพื่อต่อต้านคอร์รัปชันบนเฟซบุ๊คเพจ ต้องแฉ ที่มีพลเมืองตื่นรู้สู้โกงคนหนึ่ง ส่งรูปคลองที่ตันพร้อมข้อมูลว่าหน่วยงานหนึ่งไม่เคยขุดลอกคลองนี้จริงตามที่ได้รับงบประมาณมา หลังจากที่ทีมงานต้องแฉตรวจสอบข้อมูลและนำเสนอสู่สาธารณะเพียงวันเดียวคลองนั้นก็ถูกลอกเรียบร้อย ซึ่งกรณีนี้หากพลเมืองผู้นั้นส่งเรื่องร้องเรียนตามกระบวนการราชการ อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี กว่าจะมีการตรวจสอบและแก้ไข กรณีเช่นนี้จึงยืนยันแนวความคิดในการจัดการปัญหาให้จบในวงที่แคบที่สุด และลดการพึ่งพาการจัดการจากส่วนกลาง โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการแบ่งปันและตรวจสอบข้อมูลด้วยความรวดเร็ว
ลองนึกดูว่าจะดีแค่ไหน ถ้าวันนึงหากคุณสามารถถ่ายภาพถนนที่พังทั้งๆ ที่เพิ่งซ่อมเสร็จไปไม่นาน แล้วระบบนี้สามารถเชื่อมโยงข้อมูล GPS กับฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการ ให้คุณดูได้ทันทีว่าบริษัทที่ก่อสร้างถนนนี้ชื่ออะไร ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ใช้เวลาสร้างนานแค่ไหน รับประกันกี่ปี และซ่อมครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ข้อมูลเหล่านี้
จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ทันทีว่าคุณควรจะร้องเรียนการทุจริตหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไปที่หน่วยงานตรวจสอบเพราะถนนพังทั้งๆ ที่ยังอยู่ในระยะรับประกัน หรือเพียงร้องขอให้สำนักงานเขตมาซ่อมเท่านั้น เพราะถนนเก่าหมดระยะรับประกันไปแล้ว โดยระบบก็จะส่งข้อมูลนี้ไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ และเปิดเผยข้อมูลร้องเรียนต่อสาธารณะเพื่อเป็นการกดดันจากประชาชนให้หน่วยงานราชการต้องตอบสนองอย่างทันท่วงทีด้วย กระบวนการลักษณะนี้นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วแล้ว ยังป้องกันการทุจริตและให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่รัฐไปพร้อมกันด้วย
นอกจากนี้ระบบยังต้องสามารถเสริมสร้างศักยภาพให้พลเมืองตื่นรู้สู้โกงสามารถให้ความเห็นต่อการบริการของหน่วยงานรัฐได้โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตนเช่น คุณไปขอใบอนุญาตจากหน่วยงานราชการ ถ้าได้รับบริการที่ดีก็ชื่นชม แต่ถ้ามีปัญหาหรือพบเห็นการเรียกรับสินบนก็สามารถร้องเรียนได้ทันที โดยข้อมูลจะต้องถูกส่งไปถึงหัวหน้าหน่วยงานราชการนั้น เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขได้ทันท่วงที ไม่ใช่ต้องรอส่งข้อร้องเรียนไปที่หน่วยงานกลาง เช่น ป.ป.ช. ก่อนแล้วรอเรื่องส่งกลับมาถึงหน่วยงาน ทั้งนี้เมื่อระบบมีความสะดวกในการใช้งานแล้วมีคนเข้ามาให้ความเห็นจำนวนมาก โอกาสในการกลั่นแกล้งใส่ความก็จะลดน้อยลงไปด้วย
ปัจจุบันกรอบแนวคิดนี้กำลังได้รับการหยิบมาทดลองพัฒนาเป็นระบบเพื่อใช้จริงในพื้นที่ทดลอง โดยศูนย์ SIAM lab ของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย สาเหตุที่ต้องทดลองก่อนเพราะแม้หลักการดังกล่าวจะดีในทางทฤษฎี แต่ในความเป็นจริงอาจมีคำถามอีกหลายข้อที่ต้องหาคำตอบ เช่น ทำให้คนจำนวนมากร่วมใช้ระบบอย่างไร การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของรัฐทำได้จริงหรือไม่ และควรเลือกประเด็นอะไรที่ประชาชนให้ความสนใจ ดังนั้น หากภายในปีหน้าโครงการทดลองประสบความสำเร็จก็จะสามารถนำไปขยายผลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนต่อสถานการณ์การคอร์รัปชันในประเทศไทย
ดังที่หลายคนเคยพูดกันว่าคอร์รัปชันนั้นเปรียบเหมือนโรคระบาด คงจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่การอุปมาอุปไมยในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่มีความเหมือนกันอย่างยิ่งยวด ทั้งในเชิงความเสียหายที่สามารถคร่าชีวิตคนได้จำนวนมากและทำลายเศรษฐกิจอย่างมหาศาล และในด้านการหยุดยั้งที่อาจสามารถใช้กรอบแนวคิดเดียวกันมาประยุกต์ใช้ด้วยกันได้ ซึ่งคือ การจัดการปัญหาให้จบในวงที่แคบที่สุด และลดการพึ่งพาการจัดการจากส่วนกลาง ดังนั้นถ้าเราไม่เริ่มที่จะหยุดยั้งการระบาดของคอร์รัปชันตั้งแต่วันนี้ด้วยกระบวนการที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลแล้ว อีกไม่นานคอร์รัปชันอาจจะส่งผลรุนแรงกว่าที่ไข้หวัดใหญ่สเปนเคยได้สร้างความเสียหายมาแล้วก็เป็นได้
รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค และดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี