ก่อนอื่นขอกราบแสดงความยินดีกับ พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้อุปถัมภ์ยูเอ็นเอชซีอาร์ด้านสันติภาพและเมตตาธรรม” ซึ่งเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติระดับโลก ที่ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ เอ็นเอชซีอาร์ มอบให้เป็นคนแรกในประเทศไทย
นอกจากท่าน ว.วชิรเมธี ยังต้องแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้รับตำแหน่งประธานหมุนเวียนอาเซียน ต่อจากนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เป็นที่น่าสังเกตว่ายูเอ็นเอชซีอาร์ ประกาศถวายรางวัล แก่ท่าน ว.ในวันเดียวกับที่ไทยรับตำแหน่งประธานอาเซียนจากสิงคโปร์ และในวันเดียวกันนั้นมีรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้มีส่วนสำคัญในการทำลายการประชุมอาเซียน ที่พัทยาได้ปรากฏตัวอยู่ในเกาะสิงคโปร์ด้วย
การปรากฏตัวของนายทักษิณ เหมือนจะตอกย้ำว่า ความอาฆาตมาดร้ายต่อประเทศไทยยังไม่เสื่อมคลาย ยังพร้อมที่จะสร้างความวิบัติครั้งใหม่ตราบใด ที่ยังครอบงำตำรวจให้เป็นสมุนบริวาร คานอำนาจกับรัฐบาลได้ ผู้เขียนในฐานะที่ติดตามการประชุมอาเซียนพัทยาอย่างใกล้ชิดก่อนเหตุร้ายเกิดขึ้นสามวันและอยู่ในเหตุการณ์ในนาทีที่คนเสื้อแดงบุกทำลายการประชุมอาเซียน ยืนยันว่า “ถ้าตำรวจไม่ให้การสนับสนุนและร่วมปฏิบัติการด้วย คนเสื้อแดงจะไม่สามารถเข้าไปถึงโรงแรมรอยัล คลิฟ สถานที่จัดประชุมได้”
ตอนนั้นผู้เขียนเป็น บก.รายงานพิเศษทีวี ThaiAsean Newsnetwork ช่องภาษาอังกฤษของไอเอสทีวี ทีมรายงานพิเศษไปสัมภาษณ์ฝ่ายมั่นคง ที่รับผิดชอบการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยผู้นำต่างประเทศ สามวันก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการ วันแรกสัมภาษณ์นายตำรวจผู้กำกับอำนวยความสะดวกเส้นทาง ในสำนักงานตำรวจพัทยา วันนั้น ตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้นสามห้องทำงานของผู้กำกับ ตำรวจเปิดชมข่าวทีวีเสื้อแดงอย่างจดจ่อและอินกับการปลุกระดมจากเวทีเสื้อแดง
ขณะสัมภาษณ์มีโทรศัพท์เข้ามา ได้ยินผู้กำกับตอบว่า “จุดนั้นเปิดให้ไม่ได้ครับพี่ดุล ตรงนั้นนักท่องเที่ยวพลุกพล่านมาก...” การสัมภาษณ์ ได้ความว่าผู้ชุมนุมไม่สามารถเข้าใกล้ที่ประชุมในรัศมีสองกิโลเมตร ก่อนวันเกิดเหตุกลุ่มคนเสื้อแดงโดยการนำของ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ชุมนุมอยู่หน้าห้างอิมพีเรียล ก่อนเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าสู่โรงแรมที่ประชุมระหว่างทางเห็นตำรวจหลายคนเปลี่ยนเสื้อสีกากีใส่เสื้อแดงแทน เมื่อขึ้นไปถึงเนินเขาที่มีทางแยกไปโรงแรมรอยัลคลิฟ หน่วยรักษาความปลอดภัยของทหารเรือ (นย.) ปิดกั้นไม่ให้ไปเกินจุดนั้น
ตำรวจแจ้งว่าจุดนี้เป็นเขตควบคุมของทหาร ผู้ชุมนุมก็ปักหลักค้างคืนอยู่ตรงนั้น วันรุ่งขึ้นผู้เขียนกับทีมงานกลับมาจุดที่เสื้อแดงพักแรม พบว่านายอริสมันต์ปลุกระดมว่ามีผู้ชุมนุมถูกยิงตายสองราย เมื่อสอบถามว่าศพอยู่ที่ไหนไม่มีใครตอบได้ แต่อารมณ์คนเสื้อแดงเดือดพล่านและสังเกตเห็นว่าตำรวจหลายนายได้กลายเป็นผู้ชุมนุมไปด้วย และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สั่งการให้ทหารถอนตัวออกไป แล้วให้ตำรวจเข้าทำหน้าที่แทน ไม่นานหลังจากเจรจากับนายอริสมันต์ ตำรวจได้ช่วยกันรื้อลวดหนามออก แล้วจัดตำรวจในเครื่องแบบ สองแถวขนาบข้างคุ้มกันไม่ให้กลุ่มคนเสื้อสีฟ้า ที่อ้างว่าซุ่มอยู่บนเนินเขาขว้างปาสิ่งของใส่คนเสื้อแดง และแล้วคนเสื้อแดงที่ได้รับการคุ้มกันจากตำรวจก็ยาตราเข้าสู่โรงแรมอย่างสะดวกโยธิน
นายอริสมันต์ ที่กลัวจนตัวสั่นตอนเช้า กลับฮึกเหิมอหังการขึ้นมา บุกเข้าไปในล็อบบี้โรงแรม ขีดเส้นตายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ (รองนายกฯฝ่ายมั่นคง) มาพบภายในครึ่งชั่วโมง แต่ก็มีนายอลงกรณ์ พลบุตร(รมช.พาณิชย์)ลงมา เจรจาตกลงกันไม่ได้ ไม่กี่อึดใจต่อมาความหายนะก็เกิดขึ้นกับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา จากสิ่งที่เห็นกับตา ยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่สามารถล้มการประชุมอาเซียนได้ ถ้าตำรวจไม่อำนวยความสะดวกให้ และเชื่อว่าผู้ที่ครอบงำสั่งการให้ตำรวจทำสิ่งเลวร้ายได้มีแต่นายทักษิณเพียงคนเดียว จากวันนั้นถึงวันนี้ วันที่รัฐบาลมีมาตรา ๔๔ อยู่ในมือ ก็ไม่สามารถควบคุมตำรวจได้ ตำรวจภายใต้การครอบงำของนักโทษหนีคุก ยังช่วยเหลือให้อดีตนายกฯหนีคดีอาญาได้ ตำรวจยังไปรับใช้นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในต่างประเทศ หยามหน้าไม่ยี่หร่า คสช. จึงพูดได้ว่านายทักษิณ คือหนึ่งในความท้าทายประธานอาเซียนในปีหน้า
ทางการเมืองระบอบทักษิณกำลังล่มสลาย แต่เชื้อชั่วยังฝังตัวอยู่ในหน่วยงานราชการทั่วไป เชื้อชั่วใน สตช. พร้อมจะทำร้ายประเทศไทยตราบที่นายทักษิณยังเคลื่อนไหว แก้วสามประการคือ กองกำลังติดอาวุธ มวลชน และ พรรคการเมือง การเมืองที่เขาสร้างไว้กำลังล่มสลาย แต่เชื้อชั่วรับใช้ทุนสามานย์ยังไม่ตายเป็นเพียงเชื้อหลบใน
นายทักษิณ รู้ดีว่าพรรคเพื่อไทยกำลังล่มสลาย เพราะอดีตสส. เกรดเอ อย่างน้อย 35 คน ถูกจำคุกเกินหนึ่งปี 8 คน หนีไปต่างประเทศ 18 คน รอศาลฎีกาอ่านพิพากษา อดีตสส.อย่างน้อย 60 คน หมดสิทธิ์สมัครสส. 30 กว่าคนย้ายไปอยู่พรรคอื่น (ไม่ใช่พรรคในเครือข่าย) เมื่อสำเหนียกถึงภาวะล่มสลาย นายทักษิณจึงหาเรื่องทิ้งสมุนบริวารในพรรคเพื่อไทย โดยการสร้างเงื่อนไขให้รัฐบาลยุบพรรคเพื่อไทย แต่ดูเหมือนว่า คสช รู้เท่าทัน นายทักษิณต้องสร้างเงื่อนไขใหม่ ให้สมุนบริวารแตกพรรค แยกสาขาออกไป ทำให้ตัวเองไม่ต้องจ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น คนที่มีสติย่อมรู้ดีว่าพรรคที่แยกสาขาออกไป ก็ถูกครอบงำโดยคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ถูกครอบงำโดยนักการเมืองที่ทำผิดกฎหมาย แต่นายทักษิณ ยังปลุกใจสมุนบริวารโดยการปั่นกระแส ว่าพรรคในเครือข่ายได้เสียงเกินครึ่งในสภา
เพื่อไทยจึงไม่ใช่ประเด็นท้าทายอีกต่อไป แต่ที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ ถวายตำแหน่งแก่ ท่านว.วชิรเมธี มองให้ดีอาจพบว่านี้คือสิ่งท้าทายแบบใหม่ ดังที่รู้กันทั่วไปว่าผู้อพยพกว่า 26 ล้านคน ที่ทะลักเข้ายุโรป อเมริกาเหนือและ สหรัฐฯ เป็นปัญหาใหญ่ที่ตะวันตกแก้ไม่ได้ เมื่อพม่าเกิดปัญหาโรฮีนจา ตะวันตกจึงยัดเยียดให้ไทยแก้ปัญหาในฐานะประธานอาเซียน
ตั้งแต่รู้ว่าไทยได้เป็นประธานอาเซียน ตะวันตกสั่งการให้สมุนในเครือข่าย อาทิ ฮิวแมนไรท์วอทช์ แอมเนสตี้ฯ ยูเอ็นเอชซีอาร์ และเอ็นจีโอทั้งหลาย กดดันให้ไทยรับว่าโรฮีนจา เป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไข แต่หุ่นเชิดตะวันตกในไทยไม่ว่าจะเป็น นายสุนัย ผาสุก และเอ็นจีโอทั่วๆไป ไม่มีต้นทุนทางสังคมที่จะทำให้รัฐบาลทำตามได้ การถวายตำแหน่งให้แก่ท่าน ว.วชิรเมธี ยูเอ็นเอชซีอาร์ ย่อมเล็งเห็น ว่าท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั่วไป อาจผลักดันแผนการตะวันตกได้ไม่มากก็น้อย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นกับนางออง ซาน ซู จี ท่าน ว.วชิรเมธี คงกระจ่างว่าตะวันตกเมื่อจะใช้งานใครมันจะยกหางเอาใจ เช่น เมื่อคราวที่ยุให้นางซู จี ทะเลาะกับทหารพม่า ตะวันตกมอบรางวัลโนเบลให้ แอสเนสตี้ฯ มอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้ มหาวิทยาลัยให้ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์หลายสาขา ประเทศแคนาดามอบสัญชาติกิตติมศักดิ์ให้ พอวันหนึ่งไม่พอใจเรื่องปัญหาโรฮีนจา สถาบันต่างๆ ในตะวันตก ขอคืนรางวัลที่เคยมอบให้ เหมือนเด็กเล่นขายของ
โรฮีนจา เป็นปัญหาภายในของพม่า ที่นักล่าอาณานิคมอังกฤษทิ้งไว้ อังกฤษเกณฑ์ชาวทมิฬจากอินเดียมาเป็นลูกหาบเป็นไพร่ราบช่วยรบ เมื่อคราวเข้ามาปล้นพระราชสมบัติพระเจ้าธิบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า ปล้นพระราชบัลลังก์พระราชสมบัติ และปล้นสมบัติทรัพยากรธรรมชาติไปขายเสร็จแล้วจึงคืนอิสรภาพให้พม่า ทิ้งลูกหาบไพร่ราบไว้ในรัฐยะไข่
จนกลายมาเป็นปัญหาโรฮีนจา
ลูกหลานเหลน ไพร่ราบลูกหาบกองทัพอังกฤษในรุ่นต่อๆ มา จึงถูกเรียกว่าบังกาลี ไม่เคยมีการยอมรับว่าเป็นพม่า จึงเป็นปัญหาภายในที่ยากจะแก้ไข ตะวันตกบีบคั้นให้นางออง ซาน ซู จี ทำให้บังกาลีเป็นพม่ามันจึงเกินปัญญาของเธอที่จะแก้ไข แล้วคนไทยจะมีปัญญาแก้ไขฤาท่าน ว.วชิรเมธี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี