กัญชาในที่นี้ให้หมายความรวมถึงกัญชงและกระท่อมด้วย เพราะทั้งสามอย่างนี้เป็นอาหารและยาของคนไทยมาแต่โบราณกาล แต่ถูกคนชั่วขายชาตินำไปใส่ในบัญชีให้เป็นยาเสพติด ไม่ให้คนไทยได้ใช้ประโยชน์ และต้องหันไปใช้ยาเคมีจากต่างชาติแทน ทำให้เสียหายปีละหลายแสนล้านบาท
และทำให้คนไทยต้องเจ็บป่วยเพราะหลงผิดกินยาเคมีอีกสารพัดโรคจนนับไม่ถ้วน ดังที่ขณะนี้คนหนุ่มอายุ 40 ปี ก็เป็นโรคความดัน เป็นโรคเบาหวาน เป็นโรคหัวใจกันแล้ว นี่คือผลจากความอุบาทว์ชาติชั่วในการขายชาติ
มาถึงวันนี้ประชาชนรับทราบความจริงและเรียกร้องต้องการให้นำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์เป็นการทั่วไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย และเป็น
กระแสใหญ่ไปทั่วบ้านทั่วเมือง รอวันเวลาที่จะจัดตั้งกันขึ้นให้มีจำนวน 17 ล้านคน ก็จะมีอำนาจพิพากษาทางการเมืองที่จะกวาดล้างคนชั่วออกจากอำนาจและส่งเสริมให้คนดีมีอำนาจในบ้านเมืองต่อไป ซึ่งจะได้เห็นกันในอีกร้อยวันข้างหน้า
ในวันนี้จึงควรที่ปวงชนชาวไทยจะได้ทำความเข้าใจว่าถ้าสามารถใช้กัญชา กัญชง และกระท่อม ในการรักษาพยาบาลได้เป็นการทั่วไปโดยชอบด้วยกฎหมายได้แล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ซึ่งสรุปได้ในเบื้องต้นนี้ว่ายุคศิวิไลซ์ของประเทศไทยจะปรากฏขึ้น พี่น้องเกษตรกรและประชาชนไทยทั่วประเทศจะอยู่ดีมีสุขมั่งคั่งร่ำรวยถ้วนหน้ากัน
ในกรณีทำให้กัญชา กัญชง และกระท่อม ไม่ใช่ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย และสามารถใช้เป็นอาหารและยาได้เป็นการทั่วไปแล้ว จะเกิดสภาพการณ์ดังต่อไปนี้ขึ้นในประเทศไทย
ประการแรก พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ รวมทั้งภาคกลางตอนบนที่มีพื้นที่เหมาะสม จะหันมาปลูกกัญชาแทนพืชอย่างอื่นที่ปลูกไม่ได้หรือที่มีราคาตกต่ำ และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นนับร้อยเท่า เพราะถ้าปลูกกัญชาได้และใช้กัญชาพันธุ์ดีที่สุดในโลกของประเทศไทยก็จะมีรายได้ต่อไร่หลายแสนบาท
ในประการนี้มีผู้อ้างว่าจะมีรายได้ไร่ละล้านกว่าบาท แต่เห็นว่ามากเกินไป คิดเอาแต่เพียง 1 ใน 3 ก็พอแล้ว จึงแทนที่จะปลูกมันสำปะหลังขายได้ไร่ละ 6,000-7,000 บาท และต้องพึ่งเงินชดเชยจากรัฐบาลเป็นภาระของชาติตลอดมา พี่น้องเกษตรกรก็จะมีรายได้ชนิดที่สร้างฐานะให้อยู่ดีกินดีไปตลอดชีวิตทั้งครอบครัว มีความมั่งมีศรีสุขโดยถ้วนหน้ากัน จะสามารถยกเลิกบัตรคนจนที่ประจานคนไทยถึง 15 ล้านคน อยู่ในขณะนี้ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้เสียทีหนึ่ง
ประการที่สอง ประชาชนที่ป่วยเจ็บด้วยโรคร้ายแรงสารพัดชนิดก็จะหันมาใช้ยา ไม่ว่าแผนไทยหรือแผนปัจจุบันที่ใช้สารสกัดจากกัญชา กัญชง และกระท่อม ได้อย่างสมบูรณ์ตามหลักวิชาการและด้วยการผลิตที่ทันสมัย ซึ่งการรักษาย่อมได้ผลดีอย่างแน่นอน ในที่สุดประชาชนก็จะเลิกใช้คีโมและมอร์ฟีนที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศปีละหลายแสนล้านบาท
ประการที่สาม ตำรับยาแพทย์แผนไทยก็จะฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และใช้ในการรักษาโรคร้ายแรงต่างๆ ได้อีกหลายโรค ไม่ว่าพาร์กินสัน ลมชัก โรคเครียด โรคซึมเศร้า โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคนอนไม่หลับ ซึ่งจะประหยัดเงินตราต่างประเทศปีละหลายแสนล้านบาท และที่สำคัญจะไม่ต้องหลงผิดกินยาเคมีที่มีสารก่อมะเร็งเจือปน หรือมีสารเคมีที่มีผลข้างเคียง เช่น ทำให้เป็นโรคหัวใจ ทำให้เป็นโรคไต โรคเบาหวาน ดังที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้
ประชาชนชาวไทยก็จะมีสุขภาพดีถ้วนหน้า
ประการที่สี่ ยาแผนไทยที่ใช้กัญชา กัญชง และกระท่อม เป็นตัวยา ก็จะเป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลก ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางสำคัญในการส่งออกยารักษามะเร็ง พาร์กินสัน ลมชัก ยาแก้เครียด แก้ซึมเศร้า ยานอนหลับ และยาที่ทำให้มีอารมณ์สดชื่น ร่าเริม แจ่มใส รวมทั้งเป็นยาแก้ปวดสำหรับคนป่วยระยะสุดท้าย แพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยก็จะเลื่องชื่อลือชาในการรักษาพยาบาลของโรค และเพราะเหตุที่คนไทยมีอัชฌาสัยโอบอ้อมอารีเอาใจใส่ดูแลผู้คนเป็นอย่างดี ก็จะมีผู้ป่วยจากทั่วโลกเดินทางมารักษาพยาบาลในประเทศไทย กิจการพยาบาลและการท่องเที่ยวในประเทศไทยก็จะเฟื่องฟูตามๆ กัน
ประการที่ห้า ทันทีที่ทำให้กระท่อมเป็นของถูกกฎหมาย ยาบ้าก็จะหายไปจากประเทศไทย เพราะกระท่อมนั้นเป็นพืชที่เป็นยา ทำให้ร่างกายมีความกระชุ่มกระชวยตามธรรมชาติ กล่าวสรุปก็คือกินแล้วขยัน ซึ่งปัจจุบันเป็นคุณสมบัติของยาบ้าที่กินแล้วบ้า ขยันจนบ้า และบ้าจริงๆ ในที่สุด ประเทศจะไม่ต้องจ่ายค่าสินบนนำจับที่คิดค่าสินบนมากกว่าค่าผลิตยาบ้านับสิบเท่า บรรดาอาชญากรรมและเหตุร้ายต่างๆ ที่เป็นพิษภัยจากยาบ้าก็จะมลายหายไป เพราะคนกินกระท่อมนั้นจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับใคร มีแต่ตั้งใจทำการงานด้วยความขยันขันแข็งและมีสุขภาพดี จะมีจุดเสียอยู่บ้างก็ตรงกลัวฝน ซึ่งไม่ใช่ปัญหาหนักหนาอะไรนัก
ประการที่หก ทันทีที่ทำให้กัญชา กัญชง และกระท่อม เป็นของถูกกฎหมาย คดียาเสพติดจะหายไปถึง 90% ผู้ต้องขังจะหมดไปจากเรือนจำ และเหลือผู้ต้องขังในคดีอื่นๆ ไม่ถึง 20% ลดภาระของรัฐ ลดความเสื่อมโทรมเน่าเฟะในกระบวนการยุติธรรมได้อย่างถึงแก่นแกน ตำรวจทั้งหลายจะไม่ต้องเสียเวลาทำสำนวนเรื่องยาเสพติดให้รกโรงพักอีกต่อไป อัยการก็ไม่ต้องเสียเวลาทำสำนวนฟ้องที่ไม่รู้จักจบสิ้น ผู้พิพากษา ตุลาการ ก็ไม่ต้องหมกมุ่นอยู่กับคดียาเสพติดที่ไม่มีวันจบสิ้น และสามารถอำนวยความยุติธรรมได้อย่างถ่องแท้มากขึ้น
เหล่านี้เป็นอาณาประโยชน์ยิ่งใหญ่ที่ใครๆ ก็เห็นได้โดยง่าย มีแต่คนขายชาติเท่านั้นที่ไม่นำพา ไม่เห็นและไม่ได้ยินและไม่ยอมรับรู้ ตั้งหน้าทำโง่อยู่ท่าเดียว ซึ่งนั่นแหละคือสภาพที่พระพุทธเจ้าเรียกว่า วินาศกาเล วิปริตตะพุทธิ คือถึงแล้ว ซึ่งกาลวินาศ พุทธิปัญญาจึงวิปริตแปรปรวนไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี