ไทยเป็นประเทศที่มีที่ตั้งที่อยู่ในใจกลางของประชาคมอาเซียนที่มีสมาชิก 10 ชาติ ปัจจุบันขนาดเศรษฐกิจของไทยก้าวใกล้ชาติพัฒนาแล้วในอาเซียน10 ชาติ ไทยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 มีรายได้ประชาชาติต่อปี 40 ล้านล้านบาท โดยคนไทยมีรายได้ต่อคนต่อปี ในปี 2561 คนละ 640,000 บาท หรือเฉลี่ยคนละประมาณ 75 บาทต่อชั่วโมง
การพัฒนาประเทศก่อผลให้วิสาหกิจเอกชนของไทยเติบโตมีบริษัทยักษ์ระดับโลกหลายแห่งรูปแบบการพัฒนาประเทศก้าวไปสู่การทำวิสาหกิจเพื่อสังคมสร้างแนวความคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนมีการร่วมมือกันระหว่างภาคธุรกิจเอกชนกับภาคประชาสังคม รวมการประสานงานกับภาครัฐและในขณะนี้ช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม 2561 สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะได้ยกร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise ฉบับแรกของไทยขึ้น
และเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา องค์การมหาชนสังกัดกระทรวงยุติธรรม ได้แก่ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย ที่มีศ.พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ เป็นผู้อำนวยการสถาบัน ได้จัดงานเสวนาในหัวข้อ Thailand Social Enterprise:The Way Forward ขึ้นที่โรงแรมเอทัส ซอยร่วมฤดี ถนนสุขุมวิท เขตปทุมวัน กทม. ในระหว่างเวลา 09.00-14.00 น.
งานเสวนาครั้งนี้ได้แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกเป็นการกล่าวเปิดของศ.พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ในหัวข้อวิสาหกิจเพื่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยกล่าวถึงกฎหมายที่ดีควรจะช่วยส่งเสริมให้เกิดกลไกการทำงานเพื่อสนับสนุนการเติบโตของวิสาหกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืนเพื่อให้นักธุรกิจสร้างความรับรู้และลดช่องว่างทางสังคมที่จริงและได้ผลธุรกิจที่ดีจะมีสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและสังคมอย่างแท้จริง
ช่วงที่ 2 การเสวนาได้ให้แนวความคิดว่าการใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียวยังไม่ใช่คำตอบที่จะทำให้วิสาหกิจสังคมยั่งยืนต่อไปในอนาคตได้อย่างมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนได้เต็มร้อย โดยระบบ EcoSystem จะมีบทบาทเชิงนโยบายและคุณค่าต่อสังคมประเทศชาติในอนาคต
ทุกๆภาคส่วนจะต้องมีการร่วมมือสร้างระบบนิเวศที่มีประสิทธิภาพด้วยโครงสร้างของวิสาหกิจเพื่อสังคมและชุมชนอย่างดี สร้างวิสาหกิจสังคมด้วยกลไกที่มีเมตตาธรรมที่แนบเนียนไปกับความเจริญทางวัตถุที่มีคุณค่าควบคู่ไปกับจิตใจรวมเป็นหนึ่ง โดยผู้นำการเสวนา เช่น ผศ.ดร.พิชญ์วดี กิตติปัญญางาม และสกุณี อาชวานันทกุล เป็นต้น
การเสวนาในช่วงสุดท้ายเป็นหัวข้อกฎหมายวิสาหกิจเพื่อสังคมและทิศทางในอนาคต เป็นการเปิดมุมมองบทบาทของผู้เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายที่ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมด้วยผู้แทนที่มาจากหลายๆ หน่วยงานเช่น นพเก้า สุจริตกุล จากตลาดหลักทรัพย์, จรัญพร เลิศสหกุล, วรมิตร ครุฑโต, สุนิตย์ เชรษฐา, ฎาฎะณี วุฒิภราดร จากกองวิชาการแผนภาษีกรมสรรพากร เป็นต้น
ภายหลังการเสวนาสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดในการแสดงความคิดเห็นจากหลายๆ มุมมองนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาประกอบการพิจารณาร่างกฎหมาย Social Enterprise ฉบับแรกของประเทศไทยต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี