เป็นเรื่องที่ท้าทายหลักการด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ รายงานว่า องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติเรียกร้องให้ประเทศไทยยุติการควบคุมตัว Hakeem al-Araibi อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ที่ถูกจับกุมในประเทศไทยเมื่อ 27 พ.ย. 2561 หลังเดินทางมาจากประเทศออสเตรเลีย ตามหมายจับที่รัฐบาลบาห์เรนร้องขอไปยังตำรวจสากล (Interpol)
รายงานข่าวระบุว่า ทางการบาห์เรนได้กล่าวหาเขาว่าร่วมกับพี่ชายทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลุกฮือประท้วงของประชาชนต่อรัฐบาลชาติต่างๆ ในตะวันออกกลาง หรืออาหรับ สปริง (Arab Spring) ช่วงปี 2554 และเขาก็ถูกควบคุมตัวซึ่งมีรายงานว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่รัฐทรมาน จากนั้นในปี 2557 Araibi ในวัย 25 ปี ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ในคดีทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ทำให้เขาตัดสินใจหลบหนีไปพักอาศัยในออสเตรเลียและได้สถานะผู้ลี้ภัยในประเทศดังกล่าว
ทั้งนี้ Araibi มักจะวิพากษ์วิจารณ์ Sheikh Salman Al Khalifa ประธานสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ซึ่งเป็นพระญาติของกษัตริย์บาห์เรนอยู่บ่อยครั้ง ขณะที่กลุ่ม The Americans for Democracy and Human Rights in Bahrain group (ADHRB) เรียกร้องให้ตำรวจสากลยกเลิกหมายจับ Araibi เพราะเป็นการละเมิดต่อนโยบายขององค์กรเอง
Brad Adams ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) กล่าวว่า รัฐบาลไทยควรรับรู้ว่าหากส่งตัวอดีตนักเตะบาห์เรนรายนี้กลับบ้านเกิดย่อมหมายถึงส่งกลับไปเผชิญอันตรายร้ายแรง ดังนั้นทางการไทยต้องปล่อยตัว Araibi เพราะเป็นผู้ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยของออสเตรเลีย ด้านกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลียออกแถลงการณ์ว่าได้มีการประสานโดยตรงกับทางการไทย แต่ไม่ระบุรายละเอียด
รายงานของอัลจาซีรา ระบุว่า กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนยืนยันการทรมานนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ประท้วงต่อต้านรัฐบาลบาห์เรนเมื่อปี 2554 ส่วนไทยนั้นแม้ไม่ยอมรับผู้ลี้ภัยอย่างเป็นทางการ แต่หลายครั้งกลับต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาการเมืองของต่างประเทศ เช่น ในปี 2558 ไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีส่งชาวอุยกูร์จำนวน 100 คนกลับไปจีนซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงชาวคริสต์ที่ลี้ภัยการถูกเข่นฆ่าจากปากีสถานก็อยู่ในสถานะสุ่มเสี่ยงเพราะถูกจับฐานอยู่ในประเทศเกินกำหนด
เราเห็นว่าเรื่องนี้ยังมีขั้นตอนอีกยาวไกล รัฐบาลไทย กระทรวงต่างประเทศ ต้องคิดให้รอบคอบและยึดกฎหมายไทยระเบียบธรรมเนียมปฏิบัติเป็นหลัก เนื่องจากปัญหาประเภทนี้ยังต้องเกิดขึ้นอีกต่อเนื่อง ตราบใดที่สังคมมนุษย์สังคมโลกยังมีความขัดแย้ง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี