ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของบรรดาประเทศทั้งหลายในสุวรรณภูมิมาตั้งแต่บรรพกาล คือสภาพทั้งภูมิศาสตร์ ภูมิยุทธศาสตร์ ภูมิเศรษฐกิจ ภูมิประชากร ภูมิคมนาคม และภูมิวัฒนธรรมนั้น ประเทศไทยล้วนเป็นศูนย์กลางและเป็นศูนย์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคนี้และเป็นพื้นที่สำคัญที่ทำให้ภูมิภาคนี้ถูกเรียกว่าสุวรรณภูมิ
เมื่อเอ่ยคำว่าสุวรรณภูมิก็สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ในทุกด้านของพระราชอาณาจักรไทย สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ในทางประวัติศาสตร์และความรุ่งเรืองไพบูลย์ที่เป็นหนึ่งอยู่ในดินแดนแห่งนี้มาช้านาน
ประเทศไทยมีฝั่งทะเลยาวเหยียดที่สามารถเชื่อมต่อทั้งมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีน่านน้ำทะเลอันดามันและอ่าวไทยเป็นน่านน้ำเชื่อมต่อ ทำให้ประเทศไทยมีสภาพเป็นประเทศ Ocean link คือประเทศเชื่อมสองฝั่งฟากมหาสมุทรเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับ 180 องศา และเป็นรากฐานของความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืน
นอกจากประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางและจุดเชื่อมสองฝั่งฟากมหาสมุทรแล้ว บนพื้นดินประเทศไทยก็เป็นจุดเชื่อมสำคัญกับประเทศสุวรรณภูมิ รวมทั้งประเทศอาเซียนในปัจจุบัน เราสามารถเชื่อมโยงไปยังพม่า จีน ลาว กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ได้อย่างง่ายดาย
ด้วยเหตุนี้ประเทศไทยจึงได้สมญานามว่าเป็นประเทศแลนด์ลิ้งค์ (Land link) คือเป็นประเทศจุดเชื่อมสองฝั่งฟากมหาสมุทรอย่างหนึ่ง และเป็นประเทศที่เป็นจุดเชื่อมการคมนาคม การค้า การท่องเที่ยวทางบกอีกอย่างหนึ่ง
สภาพเช่นนี้ล้ำเลิศที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สามารถเป็นที่ตั้งแห่งความเป็นชาติมหาอำนาจ ทั้งทางการทหาร เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมได้อย่างเต็มภาคภูมิ รอวันเวลาที่คนดีมีฝีมือเข้ามาดูแลบ้านเมืองเท่านั้น ความรุ่งเรืองไพบูลย์ก็จะฟื้นคืนมาโดยมิพักต้องสงสัยใดๆ เลย
ตรงกันข้ามกับประเทศลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านอยู่ติดกับประเทศไทย เป็นดินแดนที่ไม่ติดกับทะเล สามารถติดต่อทางน้ำได้เฉพาะทางแม่น้ำโขงเท่านั้น ซึ่งอดีตก็ใช้เส้นทางนี้ได้เพียงปีละ 3 เดือน และด้วยความยากลำบากอันตรายอย่างยิ่ง เหตุนี้ลาวจึงได้ชื่อว่าเป็นประเทศแลนด์ล็อก
ทว่าพรรคประชาชนลาวและผู้นำลาวมีสติปัญญาความสามารถสูงมาก สามารถคิดค้นยุทธศาสตร์ที่อำนวยประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศลาวได้ และได้กำหนดเป็นยุทธศาสตร์ชาติสองแนวทาง ทำนองเดียวกันกับยุทธศาสตร์ชาติในสมัยรัชกาลที่ 5
ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ประเทศไทยกำหนดยุทธศาสตร์ชาติสองแนวทาง คือสร้างชาติเป็นมหาอำนาจทางเกษตรอุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมแปรรูปภาคเกษตรอย่างหนึ่ง กับสร้างชาติเป็นมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมบริการ หรือด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งมวลอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งได้นำพาประเทศไทยให้ยิ่งใหญ่ไพบูลย์ประจักษ์ชัดมาแล้วในอดีต
ประเทศลาวได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติสองแนวทางในปัจจุบันคือ สร้างชาติให้เป็นแบตเตอรี่แห่งเอเชีย คือเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่ทั่วทั้งภูมิภาคนี้ขาดแคลนไม่พอใช้ โดยใช้พลังงานน้ำธรรมชาติเป็นหลักอย่างหนึ่งและการแปรเปลี่ยนสภาพประเทศจากประเทศแลนด์ล็อกให้เป็นประเทศแลนด์ลิ้งค์
ลาวได้ดำเนินแผนการเปลี่ยนสภาพประเทศเป็นประเทศแลนด์ลิ้งค์ทั้งทางบก ทางน้ำ คือ
ทางบก ได้เชื่อมต่อเส้นทางรถไฟคุนหมิง-เวียงจันทน์ เพื่อเชื่อมต่อรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงตามโครงการเส้นทางสายไหมที่เชื่อมต่อประเทศต่างๆ ทั่วโลกตั้งแต่ยุโรป ยูเรเซีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา จีน เกาหลีเหนือ ซึ่งมีปลายทางอยู่ที่คุนหมิงแล้วเชื่อมมายังประเทศลาว โดยเส้นทางรถไฟจะแล้วเสร็จในปลายปี 2563
เส้นทางรถไฟลาว-จีน เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมของโลกจึงทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกสามารถเดินทางมายังประเทศลาวได้อย่างสะดวกสบาย จะสร้างรายได้ท่องเที่ยวมหาศาลให้กับลาวเพราะได้เชื่อมต่อลาวเข้ากับประเทศทั่วโลกได้ด้วย โดยใช้เงินลงทุนเพียง 323,000 ล้านบาท
นอกจากเชื่อมต่อไปทางจีนแล้ว ลาวยังเชื่อมต่อกับเวียดนาม กัมพูชา และลาว โดยเส้นทางบกอย่างคึกคักและขยายจุดเชื่อมต่อมากขึ้นมุ่งมั่นให้ประเทศลาวเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อทางบก คือลาว-จีน, ลาว-พม่า, ลาว-ไทย, ลาว-กัมพูชา และลาว-เวียดนาม
ส่วนเส้นทางน้ำนั้น ลาวประสบความสำเร็จและรับผลประโยชน์จากการที่ประเทศไทยไม่ได้ลงนามเข้าร่วมแผนปฏิบัติการสนธิสัญญาซันย่าซึ่งเป็นปฏิญญาของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ คือ จีน พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ขณะนี้เมื่อไทยไม่เข้าร่วม การพัฒนาจึงเหลืออยู่ 5 ประเทศ และได้รุดหน้าพัฒนาไปแล้ว เพื่อทำให้แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำแห่งการท่องเที่ยวและการเดินเรือสินค้าแทนสภาพเก่าที่เป็นแม่น้ำแห่งยาเสพติดและอาชญากรรม โดยลาวจะเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงแทนประเทศไทย ซึ่งคงได้แต่ยืนชะเง้อดูอยู่ไกลๆ ที่ริมแม่น้ำโขง และจะเสียเปรียบทั้งในด้านการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างประเทศอย่างย่อยยับ
แม้ว่าประเทศไทยจะมีสภาพเป็นศูนย์กลาง แต่ก็ได้ตัดรอนความเป็นศูนย์กลางนั้นอย่างน่าอนาถใจนักและอาจทำให้ประเทศไทยสูญเสียสถานะล้ำเลิศในทางภูมิยุทธศาสตร์จนยากที่จะแก้ไขกลับคืนได้
ที่สำคัญคือเมื่อประเทศไทยไม่ร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการซันย่า ประเทศไทยก็สูญเสียศักยภาพในการเชื่อมต่อทางแม่น้ำโขงกับกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงอีก 5 ประเทศ ซึ่งมีประชากรรวม 2,000 ล้านคน โดยผลประโยชน์จะไปตกอยู่กับลาว พม่า และเวียดนาม หมดสิ้น ประเทศไทยจึงเสียสภาพแลนด์ลิ้งค์กับกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงอย่างน่าใจหาย
แม้ว่าประเทศไทยจะลงนามในข้อตกลงระหว่างประเทศกับจีน ตามที่ สนช. ได้อนุมัติข้อตกลงตามรัฐธรรมนูญ แต่การปฏิบัติตามข้อตกลงนั้นถูกเปลี่ยนแปลงไปจนคล้ายสภาพเริ่มต้นเป็นลำไม้ไผ่ แล้วกลายไปเป็นบ้องกัญชาฉะนั้น
คือแทนที่ประเทศไทยจะรีบเชื่อมทางรถไฟเข้ากับทางรถไฟสายหลักของโลกตามเส้นทางสายไหม เพื่อรองรับให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยโดยทางรถไฟ กลับไม่เป็นไปตามข้อตกลงโดยจะมีการก่อสร้างเพียงช่วงกรุงเทพฯ-โคราช ก่อน ซึ่งกว่าจะแล้วเสร็จก็ปี 2564 ในขณะที่เส้นทางรถไฟเส้นทางสายไหมมายังลาวเปิดเดินไปก่อนแล้ว 1 ปี
แม้เส้นทางกรุงเทพฯ-โคราช แล้วเสร็จก็มีฐานะเป็นแค่เส้นทางในประเทศ เชื่อมต่อกับใครไม่ได้ ยังจะต้องเชื่อมทางรถไฟยังหนองคายก่อน และต้องเชื่อมให้เป็นรถไฟระหว่างประเทศระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ จึงจะสามรถเชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหมของโลกได้
ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อใดจึงจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ ประเทศไทยจึงกลายเป็นประเทศแลนด์ล็อกทางบก อย่างน้อยจนกว่าเส้นทางรถไฟจะเชื่อมต่อไปยังหนองคายและเชื่อมไปยังเวียงจันทน์ได้
สภาพเช่นนี้หากผู้ใดมีสติปัญญาความสามารถก็ย่อมเล็งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์แห่งชาตินั้นจะต้องเร่งเชื่อมต่อรถไฟหนองคาย-เวียงจันทน์ ก่อนเพื่อเชื่อมประเทศไทยเข้ากับเส้นทางสายไหมของโลก จากหนองคายจึงค่อยๆ เชื่อมต่อลงมายังโคราช กรุงเทพฯ และไปยังภาคใต้เชื่อมกับมาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน และอินโดนีเซียต่อไป
ส่วนทางทะเลนั้น ดูเหมือนว่าจะเห็นกันแต่ EEC ซึ่งลึกเข้ามาในแผ่นดินใหญ่ ไม่สามารถใช้ศักยภาพอันเลิศล้ำของสองฝั่งทะเลภาคใต้ได้เลย ทำให้การส่งสินค้าไปยังด้านตะวันตกด้อยกว่าทางพม่า และที่จะไปทางด้านตะวันออกด้อยกว่าเวียดนามและท่าเรือใหญ่สีหนุวิลล์ในอนาคต
สภาพแลนด์ล็อกจึงเป็นหายนะของประเทศไทย ที่จะต้องเร่งรีบแก้ไขโดยเร็วที่สุด
ก็อยากจะคอยดูว่ามีพรรคการเมืองใดที่มีวิสัยทัศน์ก้าวออกไปจากประชานิยม สู่การพัฒนาประเทศชาติให้ยิ่งใหญ่ในบูรพาทิศสืบไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี