เป็นที่เข้าใจกันดีว่า การเมืองมีอยู่ 2 รูปแบบ หรือ 2 ระบอบเท่านั้น คือ ระบอบเผด็จการ และ ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งในรูปแบบทั้งสองดังกล่าวนี้ ระบอบเผด็จการนั้น ประชาชนจะเป็นฝ่ายถูกปกครอง ส่วนระบอบประชาธิปไตยนั้นประชาชนปกครองตนเอง และมีฐานะเหมือนนายจ้างของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้งจากประชาชน เพราะฉะนั้นในหลักการดังกล่าว รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจึงมีฐานะเป็นลูกจ้างของประชาชน ที่เสียเงินภาษีเป็นค่าจ้างให้เข้ามาทำงาน
การเลือกตั้ง เป็นวิธีการหรือเครื่องมือเลือกลูกจ้างให้เข้ามาทำหน้าที่แทนนายจ้าง เพื่อทำการบริหารแทน
1. ถ้าการเลือกตั้ง มีเนื้อหาสาระในลักษณะเลือกคนมาใช้งาน เพื่อทำหน้าที่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของผู้เป็นนายจ้าง ก็เป็นการเลือกตั้งประชาธิปไตย
2. ถ้าการเลือกตั้ง ที่มีเนื้อหาเลือกนายมาปกครอง การเลือกตั้งนั้นก็เป็นการเลือกตั้งเผด็จการ
3. ถ้าการเลือกตั้ง เป็นสิทธิของนายหรือประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ ก็จะไปเลือกหรือไม่เลือกก็ได้เพราะเป็นสิทธิของประชาชน การเลือกตั้งนั้นก็เป็นประชาธิปไตย
4. ถ้าการเลือกตั้ง ถูกกำหนดให้เป็นหน้าที่ของประชาชน ถ้าไม่ไปเลือกตั้งมีความผิด ต้องเสียสิทธิบางอย่าง การเลือกตั้งนั้นก็เป็นเผด็จการ
5. ถ้าการเลือกตั้ง ที่ประชาชนถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพล หลอกหรือล่อด้วยข้าวของเงินทอง ห้ามวิจารณ์ข้อเท็จจริง เลือกแบบไม่เข้าใจความจริง การเลือกตั้งนั้นก็เป็นเผด็จการ
6. ถ้าการเลือกตั้ง ที่ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ เจ้าของอธิปไตยจะไปเลือกใครหรือไม่เลือกใคร ไม่ตกอยู่ในอิทธิพล หรือถูกข่มขู่จากใคร การเลือกตั้งในลักษณะนี้ก็เป็นประชาธิปไตย
7. ถ้าการเลือกตั้ง ที่มีการซื้อเสียง ขายเสียงถูกบังคับด้วยวิธีการต่างๆ หรือร่วมกันโกงจากเจ้าหน้าที่ การเลือกตั้งอย่างนี้ก็เป็นเผด็จการ
8. การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีพรรคการเมืองใด หรือนักการเมืองคนใดที่ถูกจัดตั้งมาลงรับการเลือกตั้งจากผู้มีอำนาจ การเลือกตั้งดังกล่าวนี้ ก็เป็นประชาธิปไตย
นี่คือหลักง่ายๆในการดูเรื่องการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งกลายเป็นเวทีการช่วงชิงอำนาจรัฐ
เลือกมารับใช้ก็ได้ เลือกมาเป็นนายก็ได้
เวทีการเลือกตั้งในบ้านเราขณะนี้ กลายเป็นเวทีของการช่วงชิงอำนาจทางการเมือง ช่วงชิงอำนาจรัฐมาอยู่ในมือตน เราจึงเห็นกระบวนการในรูปแบบต่างๆของผู้ช่วงชิงอำนาจรัฐผ่านการเลือกตั้งเกิดขึ้นจ้าละหวั่นในขณะนี้ตาดีก็เห็นว่าซ่อนรูปซ่อนตัวอยู่ในรูปแบบใด
คนดีคนเลวที่มีประวัติไม่ดีแห่แหนกันเข้าพรรคโน้นพรรคนี้ เพื่อเตรียมตัวลงเลือกตั้ง ภายใต้บรรยากาศของการมีอำนาจที่ได้มาจากการรัฐประหาร
ในภาคประชาชนขณะนี้ก็ยังเต็มไปด้วยปัญหาในเรื่องของการดำรงชีวิตประจำวัน จากภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยความเหนื่อยยากไม่พอกิน พอใช้ มีหนี้สินท่วมหัว ไม่มีงานทำ เป็นภาวการณ์ที่กำลังอยู่ในบรรยากาศของการเลือกตั้ง
ถูกมอมเมาด้วยผลประโยชน์เฉพาะหน้าในรูปแบบต่างๆ ความรู้ความเข้าใจไม่ค่อยจะทันพวกที่ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการสนับสนุน
บ้านเมืองในยามนี้ โดยเฉพาะในยามที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง จึงเป็นบ้านเมืองที่สามารถจะได้อำนาจรัฐมาใช้โดยผ่านกระบวนการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตย ของการ “จัดตั้งตัวแทนของคนถือปืน” ในการเลือกตั้งพรรคการเมืองขึ้นเพื่อลงเลือกตั้งในครั้งนี้
ใครเป็นใครและมีพรรคไหนบ้างก็เห็นกันอยู่
นักการเมืองดีๆ และพรรคการเมืองดีๆ ทั้งพรรคเก่าและพรรคใหม่ก็มีอยู่บ้างเช่นเดียวกัน ซึ่งคนดังกล่าวนี้หรือพรรคดังกล่าวนี้ย่อมต้องประสบกับคู่แข่ง คู่ต่อสู้ ซึ่งมีอำนาจถืออยู่ในขณะนี้สนับสนุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“รู้ทันการเลือกตั้ง” จึงต้องรู้สิ่งเหล่านี้
ฝากคำสอนของท่านพุทธทาสมาให้ได้อ่านกันเพื่อ “ทำใจ” ในการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้
“จะหาคนที่ดี มีส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยวค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย
ฝึกให้เคย มองคนดี มีคุณจริง”
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี