l เจี๊ยบ & โจ๊ก ลูกรัก
“ให้เราบรรลุการสถาปนาชาติได้สำเร็จ
นี่ คือ การเฉลิมฉลองกับใจกายของตนเอง ในการเริ่มต้นก้าวบนอย่างก้าวที่ 70 ของชีวิต
นี่ เป็นคำอธิฐานของพ่อ”
@ หลักการทั่วไป ที่ทั่วโลกประสบความสำเร็จในการสร้างชาติ คือ
1. เริ่มต้น จาก “คนธรรมดาสร้างชาติ” ที่ต้องสร้างต้องพัฒนาตน ให้เป็นคนดีมีความคิดที่ถูกต้อง เพราะ
“ความคิดเปลี่ยนคน และคนเปลี่ยนโลก”
2. สร้างสถาบันสร้างชาติ
3. สร้างพรรคการเมืองของประชาชน สร้างชาติ
นี่คือ หลักการ ทิศทาง ที่มีโอกาสที่จะนำประเทศไทย ออกจากถ้ำแห่งวิกฤติที่สังคมไทยติดมา 86 ปี
l คนธรรมดา สร้างชาติ
คนธรรมดา หมายถึง “คน” ที่มิใช่เทวดา แต่มนุษย์ที่มีชีวิต มีลมหายใจ เหมือนคนทั่วๆ ไปในทุกสังคมแต่เป็น “คน” ที่เริ่มต้น มีจิตสำนึก คิดถึง “ผู้อื่น” นอกจากตัวเอง และก้าวเลยไปถึง บ้านเมืองแผ่นดินเกิด
l การเกิดจิตสำนึกสร้างชาติ อาจจะเกิดจาก “ภายในจิตใจของตนเอง” จากผลกระทบของสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันซึ่งปกติ เราก็รู้สึกเฉยๆ หรือ อาจจะมีความรู้สึกบ้างเล็กน้อย ยังไม่มีปริมาณมากพอที่จะเปลี่ยนไปสู่คุณภาพ จึงยังไม่แสดงออก อาจจะรู้สึกว่า “มันไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม” แต่ยังมิใช่หน้าที่เราหรือมีคนทำหน้าที่อยู่แล้ว
แต่เมื่อเหตุการณ์เริ่มหนักและรุนแรงมากขึ้น คนที่มีหน้าที่ทำ แต่ไม่สามารถทำหน้าที่ให้ได้บรรลุ
เพราะทำน้อยไป ไม่ทุ่มเท เสียสละ กล้าหาญมากกว่านี้เท่านี้ยังไม่พอ แต่ก็ยังไม่มีใครออกมาร่วมด้วยช่วยกัน
ตัวเรา ที่ได้มีการสะสม “ความรู้สึก และจิตสำนึกว่า นี่คือ หน้าที่ของพลเมืองไทย”
โดยส่วนใหญ่ อาจจะต้องรอคอยให้มีเหตุการณ์ที่ค่อนข้างแรงเกิดขึ้นหรือการได้รับการชักชวน ชักจูงให้เข้ามาร่วม และเดินก้าวเข้ามา ฟังคนพูด คนที่ใช่ จึงเข้ามาร่วมเต็มตัว
@ แต่คนที่มีลักษณะผู้นำ เป็นผู้นำ ผู้มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลง มักจะมีลักษณะเฉพาะบางอย่างเริ่มต้นที่ตัวเอง มีลักษณะของความสนใจ ศึกษาเรียนรู้ หนังสือตำรา “บทบาทผู้นำของประเทศ ของโลก” จะอ่านมาก ศึกษามาก
และต่อมา จะไปร่วมฟัง หรือร่วมแลกเปลี่ยนกับผู้นำการชุมนุม ผู้นำที่โดดเด่นและก้าวเข้าไปสู่ การเข้าร่วมกลุ่ม และพัฒนาตนเองขึ้นมาเป็นผู้นำ จากเหตุการณ์ที่พัฒนาความแหลมคมฯ
โดย ผู้นำที่โดดเด่น นอกจากมีความรู้ประสบการณ์ ความรักความเป็นธรรม ความรักชาติรักประชาธิปไตยฯจะเป็นคนที่มีการพัฒนาปรับปรุงและยกระดับตัวเองอยู่ตลอดเวลา จากการสรุปบทเรียนอย่างจริงจัง
ฝากให้ “คนธรรมดาสร้างชาติ” ได้ศึกษาประวัติศาสตร์การต่อสู้ของประชาชนไทย (โลก) และที่สำคัญที่สุด คือ การเข้าร่วมการชุมนุม การต่อสู้ และพัฒนาตัวเอง ก้าวขึ้นอยู่แนวหน้าของการต่อสู้
ผู้นำที่โดดเด่นของโลก และของประเทศ มักผ่านปริญญา “บางเขน บางขวางฯ” (เคยติดคุกติดตาราง) คือ มันแสดงถึง การพัฒนาการต่อสู้ หรือมีการต่อสู้ที่แหลมคมขึ้น ถึงขั้น เอาเป็นเอาตายกัน ที่ยอมกันไม่ได้ซึ่งเรื่องเหล่านี้ แค่เป็นขั้นปฐมภูมิ ส่วนขั้นที่สูงขึ้น แต่ละคน ที่สนใจ ต้องไปศึกษากันต่อไป
แต่มีข้อสังเกต และข้อเตือนกันว่า “แต่ละสถานการณ์ เหตุและปัจจัย ก็จะเปลี่ยนแปลงไป ไม่เหมือนเดิม” เช่น การต่อสู้ในสภา นอกสภา ชุมนุม ปะทะ ติดคุก การถูกดำเนินคดี การสร้างกลุ่มรณรงค์ผลักดัน แทนฯ
l ต่อไปนี้ จะขอกล่าวถึง หลักการ การสร้างและพัฒนา “คนธรรมดาสร้างชาติ” ให้คิดเป็น ทำเป็น ด้วยตนเองเพราะปัญหาใหญ่ของสังคม ผู้ที่เข้าร่วม มีน้อยกว่า ผู้ต้องการเปลี่ยนแปลง (ผู้เฝ้าดู ผู้ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น)เพราะ “คนส่วนใหญ่ ทำตามเขา เชื่อผู้นำ แบบไม่คิด ไม่ติดตาม ไม่ตรวจสอบ” เพราะ “คิดและทำ” ไม่เป็น
l ผู้รู้ โยงไปถึงระบบการศึกษาของไทย ที่ไม่ได้สอนให้เด็ก (ผู้ใหญ่) คิดเป็นทำเป็น สอนแต่ความเชื่อความจำตำราโดยนำเสนอว่า ต้องมี
1 หลักคิด Critical_Thinking การคิดวิเคราะห์, การคิดเชิงวิพากษ์ หรือ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็น
กระบวนการทางจิตสำนึกเพื่อวิเคราะห์ หรือ ประเมินข้อมูล ในคำแถลง หรือ ข้อเสนอที่มีผู้แถลงหรืออ้างว่าเป็น
ความจริง การคิดวิเคราะห์เป็นรูปแบบของกระบวนการที่สะท้อนให้เห็นความหมายของคำแถลง และการตรวจสอบหลักฐานที่ได้รับการไต่ตรองด้วยเหตุและผล : วิกิพีเดีย
2 creative thinking การสร้างสรรค์ หมายถึงการสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่มีคุณค่า โดยสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นอาจมีการอ้างถึงบุคคลผู้สร้างสรรค์ หรือสังคมหรือขอบเขตภายในที่ได้สร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ขึ้นมา ซึ่งการวัดคุณค่าดังกล่าวอาจใช้ได้หลายวิธี : วิกิพีเดีย
3 collaboration การทำงานร่วมกันเป็นกระบวนการของบุคคลหรือองค์กรสองคนหรือมากกว่าที่ทำงานร่วมกันเพื่อทำภารกิจหรือบรรลุเป้าหมาย ความร่วมมือมีความคล้ายคลึงกับความร่วมมือ การทำงานร่วมกันส่วนใหญ่ต้องมีภาวะผู้นำ แม้ว่ารูปแบบของการเป็นผู้นำอาจเป็นสังคมภายในกลุ่มที่มีการกระจายอำนาจและเท่าเทียมกัน : วิกิพีเดีย
4 communication การสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน ในหมู่คน และสังคม ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จร่วมการสื่อสาร คือกระบวนการสำหรับแลกเปลี่ยนสาร รูปแบบอย่างง่ายของสาร คือ จะต้องส่งจากผู้ส่งสารหรืออุปกรณ์เข้ารหัส ไปยังผู้รับสารหรืออุปกรณ์ถอดรหัส อาจอยู่ในรูปแบบของท่าทางสัญลักษณ์ บางอย่างอยู่ในรูปแบบของภาษา การสื่อสารเกิดจากความต้องการที่คนจะส่งข้อมูลหากันการศึกษาเกี่ยวกับการสื่อสารอาจจำแนกได้หลายหมวดหมู่ : วิกิพีเดีย
l ลองนำไปคิด และทำการศึกษาให้เข้าใจ และทำตามให้ได้ น่ะ แล้วในการแลกเปลี่ยนครั้งต่อไป จะเข้าใจจริง
ประเด็นสำคัญ คือ
1. ต้องมีหลักคิด หลักการ วิธีการ กระบวนการ จังหวะก้าวขั้นตอน ที่ถูกต้อง สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง
2. ต้องมีข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ซึ่งจะต้องมีการ “ลงทุน” คิด หาข้อมูล แหล่งข้อมูล ทั้งตัวเองและกลุ่มฯ
3. ต้องมีการสรุปบทเรียน การประเมินผล การแก้ไข ปรับปรุง ทั้งเรื่องของตนเอง และในกลุ่มของผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง ที่จะทำให้เรา และ กลุ่มของเราพัฒนาก้าวหน้าขึ้น จนก้าวไปสู่ความสำเร็จได้จริง
4. ต้องมีการกำหนด มิตร แนวร่วม ที่จะร่วมในการเปลี่ยนแปลง และต้องประเมินกำลังของทุกฝ่ายให้ถูกต้อง
5. การเอาจริง จิตใจแน่วแน่ มุ่งมั่น ทำไม่หยุดไม่ยอมแพ้ จนกว่าจะบรรลุชัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี