เวลาเราไปจ่ายตลาดซื้อผลไม้ ไม่ว่าจะไปที่ตลาดสด หรือซูเปอร์มาร์เก็ต ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องการผลไม้ที่สด สะอาด และสนนราคาตามขนาดน้ำหนัก จำนวน หรือเรียกอีกอย่างว่าต้องการสินค้าคุณภาพนั่นเอง
และแน่นอนว่า เราจะไม่เลือกซื้อผลไม้ที่ช้ำ เป็นรอย หรือเน่าเสียเป็นอันขาด จึงถือเป็นหน้าที่ของพ่อค้าแม่ค้า หรือเจ้าของกิจการซูเปอร์มาร์เก็ต ในการที่จะต้องคัดเลือก และนำเฉพาะสินค้าที่ดีมาเสนอให้ลูกค้าเลือกซื้อ
นอกจากพ่อค้าแม่ค้าจะต้องแข่งขันกันด้วยคุณภาพสินค้าแล้ว ยังต้องแข่งขันกันในแง่ราคาที่ผู้ซื้อจะรับกันได้อีกด้วย
ฉันใดฉันนั้น เช่นเดียวกับการเลือกผู้แทนราษฎร ประชาชน เช่นเราๆ ท่านๆ ก็ย่อมต้องการจะได้คนดีไปเป็นผู้แทนราษฎร ไปทำหน้าที่ในรัฐสภา และในคณะรัฐบาล กันเป็นเรื่องปกติ
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว มันก็จะต้องเป็นหน้าที่ที่หลีกเลี่ยงมิได้ของบรรดาพรรคการเมือง ที่จะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันกับพ่อค้าแม่ค้าผลไม้ในการคัดเลือก และนำผู้สมัครดีๆ มาให้เราเลือกเช่นกัน
ซึ่งถ้าหาก ทุกพรรคการเมืองทำหน้าที่เยี่ยงพ่อค้าแม่ค้าที่ดี มีจริยธรรม คือเสนอแต่ผู้สมัครที่เป็นคนดีเท่านั้น การเมืองโดยรวมก็จะดีได้โดยอัตโนมัติ และประชาธิปไตยไทยจะก้าวไกลไปได้ด้วยตัวของมันเอง
แต่หากเกิดพรรคไหน เอาคนไม่ดีมาเสนอให้เราเลือก ก็เข้าใจได้ว่า พรรคนั้นเป็นพรรคหลอกลวง คิดจะ “ย้อมแมว” เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าด้อยคุณภาพ ซึ่งการกระทำเช่นนั้น เป็นการกระทำที่เลวร้าย สมควรถูกตราหน้าว่าไม่ซื่อสัตย์ หรือขี้โกงประชาชน พวกเราก็จะต้องแยกแยะ และจดจำเอาไว้ว่าพรรคดังกล่าวไม่สามารถเชื่อถือได้ ฝากอนาคตประเทศไว้ในมือพวกเขามิได้
เช่นเดียวกับเมื่อพบพ่อค้าแม่ค้าคนใด เอาของไม่ดีมาขายเรา เรานอกจากจะปฏิเสธที่จะไม่ซื้อ เราก็ต้องจำว่าเจ้านี้ไม่ควรได้รับการอุดหนุนจากเราอีก
ในกรณีแย่ที่สุด คือไม่มีพรรคการเมืองใดเลยเสนอคนดีมาให้เราเลือก เราควรทำเช่นไร?
ในฐานะของประชาชนแล้ว เราสามารถแสดงออกถึงการปฏิเสธได้สองรูปแบบ โดย 1.ทำให้บัตรเสีย หรือ 2.กาที่ช่องไม่เอา หรือไม่เห็นด้วย
แต่อย่าลืมว่าการทำให้บัตรเสียส่งผลได้แค่ระบายความไม่พึงพอใจเท่านั้น แตกต่างกับการกาบัตรช่อง ไม่เลือกผู้ใดนั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองโดยตรง เพราะถ้าหากจำนวนกาไม่เอานั้นถูกนับรวมในจำนวนผู้ลงคะแนน ซึ่งหากผู้ได้คะแนนสูงสุด ได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 ของจำนวนผู้ลงคะแนน ผู้ที่ได้ที่หนึ่งนั้นก็หมดสิทธิ์เป็นผู้ชนะ ผลการเลือกตั้งจะกลายเป็นโมฆะทันที และจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เป็นรอบที่สอง นอกจากนั้นกติกาผู้ชนะที่ได้คะแนนสูงสุด จะต้องสูงกว่าคะแนนรวมของการกาบัตรไม่เอาผู้ใดด้วย ก็ยังคงถูกบังคับใช้อยู่
ที่เล่าให้ฟังวันนี้ ประเด็นก็คือ เราประชาชนนั้น สามารถบอกกล่าวพรรคการเมืองต่างๆ ถึงความด้อยคุณภาพของผู้สมัครที่พรรคคัดมา ว่าไม่มีใครผ่านเกณฑ์ของเรา ผ่านทางการกาบัตรช่องไม่เลือกใคร
และนอกจากนั้น หากฝ่ายบ้านเมือง แวดวงวิชาการ สื่อ จะช่วยเผยแพร่ “ความรู้” ต่อประชาชนในเรื่องนี้ ก็จะเป็นประโยชน์ในการเตือนสติบรรดาพรรคการเมืองว่า จะทำการตามอำเภอใจตนเองด้วยการเอาใครมานำเสนอต่อประชาชนก็ได้ โดยไม่ต้องคำนึงว่าเป็น “ผลไม้เน่าๆ” นั้นเป็นเรื่องที่ทำมิได้อีกต่อไป
เพราะประชาชนจะไม่ยอม และร่วมกันเรียกร้องให้พรรคการเมืองเสนอแต่คนดี
ซึ่งหากพรรคการเมืองตระหนักถึงประเด็นนี้จริงๆ ก็จะต้องมีการตรวจสอบประวัติของผู้สมัครอย่างเข้มข้น โดยเปิดโอกาสให้มีการวิพากษ์วิจารณ์คุณสมบัติ คุณค่าความเป็นมนุษย์ ได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งจะต้องไม่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแต่อย่างใด ในเมื่อเสนอตนเองมาทำหน้าที่ให้กับสาธารณชน ถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะที่ต้องยอมรับการตรวจสอบ และวิพากษ์วิจารณ์ได้
อย่างไรก็ดี การวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมนั้น ก็ควรเป็นไปในทางสร้างสรรค์ และอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง โดยปราศจากลักษณะใส่ร้าย ป้ายสี หรือประสงค์ร้าย (Hate Speech) ซึ่งถือเป็นการหมิ่นประมาท หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
หากทั้งสองสิ่งเกิดขึ้นคู่ขนานกันไป ประชาชนก็จะสามารถรู้ซึ่งเนื้อแท้ของผู้สมัคร และเปิดโอกาสให้เกิดการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นในการลงคะแนนให้ผู้สมัครท่านใด และเพิ่มโอกาสที่จะได้คนดีๆ มารับใช้บ้านเมือง
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี