คนสูงวัยมักหนีไม่พ้นโรคยอดนิยมแพร่หลาย ได้แก่ เบาหวาน ความดัน ไขมันในเส้นเลือด โรคไต หรือไม่ก็มะเร็งต่อมลูกหมาก ในฐานะเป็นหนึ่งในกว่า 12.6 ล้านคน ของสมาชิกสังคมสูงวัยจึงหลีกไม่พ้น โรคเบาหวาน ไขมัน ความดันและเกาต์
เกาต์เป็นสิ่งแรกที่ค้นพบเมื่ออายุย่างเข้าวัย 60 ปี ใช้เวลารักษาด้วยยาแผนปัจจุบันประกอบกับงดอาหารที่มีสารพิวรีน (purine) สูง อาทิ สัตว์ปีก เครื่องใน ถั่ว แตง และผักทอดยอดต่างๆ ตามที่หมอแนะนำ ใช้เวลาห้าปีโรคเกาต์ก็ทุเลาลงตามลำดับ แต่กลับพบโรคใหม่คือเจ็บเข่า เป็นเบาหวาน ความดัน ไขมันในเม็ดเลือดสูง เคยออกกำลังด้วยการเล่นเทนนิสอาทิตย์ละ 3-4 ชั่วโมง ต้องเลิกเด็ดขาดปวดเข่าเล่นต่อไม่ได้
ในวัยที่ย่างเข้า 65 ปี เบาหวานอยู่ขั้นอันตราย คือน้ำตาลในเม็ดเลือดสูงถึง 250 (ไม่รู้ว่าเป็นเกณฑ์อะไร) แต่ต้องทานยาวันละเป็นกำ ก่อนอาหาร 1 เม็ด หลังอาหารทันที 1 เม็ด กับหลังอาหารสิบห้านาที 2 เม็ด หลังอาหารเย็น 1 เม็ด นอกจากนั้นยังมียาความดันหลังอาหารเช้าอีกวันละ 1 เม็ด และยาลดไขมันก่อนนอนอีก 1 เม็ด ทุกๆ สองเดือนรับยาจากหมอมาประมาณครึ่งกิโลกรัม
และทุกครั้งที่ไปรับยา ได้พบกับคนสูงวัยที่มีโรคเหมือนหรือคล้ายกันหลายราย เพื่อนร่วมโรคยอดนิยมล้วนมีน้ำใจแนะนำให้ทานสมุนไพรนั้นโน้นนี้ ในห้วงเวลาห้าปีที่เดินเข้าออกไปรับยา พบว่าเพื่อนๆ ที่แนะนำให้กินยาสมุนไพรและอาหารเสริมรักษาที่มีคุณสมบัติพิเศษรักษาหายทุกโรค เป็นไตวายตายไปก่อนเวลาอันสมควร 3 ราย ไม่นับรวมกับที่ได้เห็นคนในหมู่บ้านเดียวกันเป็นไตวาย ตายเพราะสมุนไพรและอาหารเสริมอีก 4-5 ราย
ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย แต่มีคนจำนวนมากมีความเชื่อผิดๆ เรื่องสมุนไพร จนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไต ต้องเปิดรายชื่อสมุนไพรที่มีผลต่อไตว่า “เห็ดหลินจือ ทำให้ผู้ป่วยฟอกเลือดยิ่งเสี่ยงเป็นไตวาย มะเฟือง ตะลิงปลิง ปวยเล้ง อาจทำให้ไตวายเฉียบพลัน แครนเบอร์รี อาจทำให้เกิดนิ่ว นพ.เกรียงศักดิ์ วารีแสงทิพย์ นายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยป่วยไตวายเรื้อรัง 17% หรือประมาณ 11 ล้านคน นับว่าเป็นจำนวนมาก ที่หากไม่ลดความเจ็บป่วย ต่อให้ผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากเท่าไร ก็รักษาไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะปัจจุบันมีการโฆษณาสมุนไพรต่างๆ ที่ใช้รักษาโรคไตได้ ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อจำนวนมาก จึงขอยืนยันว่า ยังไม่มีสมุนไพรตัวใดหรือตำรับใดที่มีข้อมูลทางวิชาการเพียงพอว่าสามารถรักษาโรคไตได้อย่างมั่นใจ..การใช้สมุนไพรจึงต้องระวัง...”
ผู้เขียนไม่เชื่อเรื่องอาหารเสริมและสมุนไพรดังที่ผู้หวังดีแนะนำ จึงอยู่รอดปลอดภัยสุขใจสภาพร่างกายสมบูรณ์ ตามวัยมาได้จนวันนี้ เคล็ดลับรักษาสุขภาพง่ายๆ คือออกกำลังกายให้เหมาะกับวัย ห้าปีก่อนลูกชายเห็นว่าพ่อออกกำลังกายหนักๆ เช่น เล่นเทนนิสต่อไป
ไม่ได้ จึงซื้อจักรยานสำหรับปั่นออกกำลังกายให้ ระยะแรกปั่นจักรยานเจ็บทั้งก้น แขนขาเมื่อยล้าไปทั่วร่างกาย ปั่นไปได้ 10 กม. ก็เหลือทน แต่ปั่นไปปั่นมารู้สึกว่าร่างกายเริ่มกระปรี้กระเปร่า อาการปวดเข่าทุเลาลงตามลำดับ เมื่อค้นดูวิธีการปั่นจักรยานให้เข้ากับสภาพร่างกาย กูรูนักปั่นทั้งหลายแนะนำว่าให้เพิ่มระยะการปั่นวันละ 1 กม. นั้นหมายความว่าถ้าปั่นอาทิตย์ละห้าวัน จะเพิ่มระยะจาก 10 กม. เป็นวันละ 30 กม. ได้ภายในหนึ่งเดือน และเมื่อปั่น 30 กม.ต่อวันประมาณหนึ่งปี พบว่าเบาหวานลดจาก 250 เหลือ 150 ความดันลดลงเป็นปกติ ไขมันในเม็ดเลือดก็ลดลง อาการปวดเข่าหายเป็นปกติ
ที่โชคดี คือที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระปณิธานจัดกิจกรรม “ปั่นเพื่อแม่” ให้พสกนิกรได้ร่วมแสดงความจงรักภักดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 และให้ประชาชนได้ปั่นออกกำลังกายไปในตัว
จากแรงดลใจที่ต้องเตรียมกำลังกายให้พร้อมร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อแม่” จึงมุ่งมั่นฝึกซ้อมปั่นจากวันละ 30 กม. เป็น 40-50 กม. ตามลำดับ หลังจากร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ ได้ร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ ต่อในปีเดียวกัน อานิสงส์จากแรงดลใจที่ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมกับกิจกรรมปั่น เฉลิมพระเกียรติในสองครั้งนั้น ทำให้ผู้เขียนมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์มากขึ้น ทุกวันนี้ตั้งเป้าหมายปั่นให้ได้ปีละ 10,000 กม.
วันนี้ในวัย 70 ปี 3 เดือน ผู้เขียนปั่นออกกำลังได้วันละ 60 ถึง 70 กม. สิ่งสำคัญมากกว่านั้นที่ได้มาคือสุขภาพกาย โรคเกาต์ เจ็บหัวเข่า หายขาด ความดันเป็นปกติ น้ำตาลในเม็ดเลือดลดลงเหลือ 114 ไขมันในเม็ดเลือด จากตรวจล่าสุดหมอบอกว่าดีมาก (ไม่รู้เท่าไหร่) ไต 70 เปอร์เซ็นต์ (ไม่รู้เท่ามาตรฐานอะไรอีกเหมือนกัน) แต่หมอบอกว่าดีมากสำหรับคนวัยนี้
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้ร่วมกิจกรรม “ปั่นอุ่นไอรัก” ซึ่งเป็นอีกวันหนึ่งที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทยเมื่อ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปั่นเลียบพระนคร ที่มีพสกนิกรนับแสนนับล้านคนทั่วประเทศปั่นจักรยานตามรอยพระบาท เส้นทางปั่นจักรยานที่สำคัญครั้งนี้ อยู่ที่ จากพระลานพระราชวังดุสิต สู่คลองลัดโพธิ์
คลองลัดโพธิ์ เป็น 1 ใน 4,685 โครงการ ในพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงจัดตั้งขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและเป็นหนึ่งในโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ โดยการเบี่ยงน้ำเพื่อช่วยย่นระยะทางการระบายไปสู่อ่าวไทยเมื่อเกิดน้ำล้น และปิดกั้นน้ำไม่ให้น้ำทะลักเข้าไปยังพื้นที่ในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง
คลองลัดโพธิ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ในอดีตคลองลัดโพธิ์เป็นที่สัญจรทางเรือ และระบายน้ำสู่ทะเลอ่าวไทย แต่เมื่อความเป็นเมืองพัฒนามากขึ้น แนวคลองจึงถูกถมเพื่อการพัฒนาสร้างที่อยู่อาศัย สร้างถนนต่างๆ ทำให้จากเดิมที่คลองมีความกว้าง 5-10 เมตร ลดเหลือเพียง 1-2 เมตรเท่านั้น
ในปี พ.ศ. 2538 เกิดน้ำท่วมใหญ่ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเล็งเห็นว่า หากปล่อยไปแบบนี้ จะทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นอีกเรื่อยๆ จึงทรงมีรับสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขุดลอกคูคลองให้มีความกว้าง 7 เมตร ยาว 80 เมตร เพื่อช่วยให้น้ำระบายออกสู่อ่าวไทยได้เร็วขึ้น ซึ่งแต่เดิมกว่าน้ำจะระบายออกสู่อ่าวไทยนั้นใช้เวลามากกว่า 5 ชั่วโมง แต่หลังจากที่มีการขุดลอกคลองลัดโพธิ์ จะใช้เวลาในการระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยเพียง 10 นาทีเท่านั้น
“กิจกรรมปั่นอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงจักรยานเลียบพระนครผ่านแม่น้ำ และแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยและคนทั่วโลกได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งมีพระเนตรอันยาวไกลและพระปรีชาสามารถ ในด้านการบริหารจัดการน้ำและพลังงานบริสุทธิ์ที่ได้จากแหล่งน้ำ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีพระปณิธานให้พสกนิกรชาวไทยได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 และให้พสกนิกรของพระองค์ท่านได้ปั่นออกกำลังกายในโอกาสเดียวกัน
ผู้เขียนเป็นหนึ่งในหลายล้านคน ที่ได้แรงดลใจให้ปั่นเตรียมกำลังใจ กำลังกายให้พร้อมเพื่อร่วมกิจกรรมน้อมรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณสถาบันพระมหากษัตริย์และเพื่อสุขภาพพลานามัยทั้งสามครั้งที่ผ่านมา ตั้งแต่ ปั่นเพื่อแม่ ปั่นเพื่อพ่อและปั่นอุ่นไอรัก ซึ่งเป็นผลให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ จึงอยากแนะนำผู้สูงวัยว่า สิบอาหารเสริม ร้อยสมุนไพร ไม่เท่าหนึ่งออกกำลังกาย เช่น การร่วมกิจกรรมปั่นในงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี