หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn คึกคักกันทุกพรรค ลงพื้นที่ “หาเสียง” กันตึงตัง “เสือไท” ว่านี่แหละบรรยากาศประชาธิปไตย แต่สงสัยว่า กกต. ท่านเพิ่งจะต่ืนหรือไม่อยู่ไหนมา จะออกระเบียบให้ผู้สมัครสส.ใช้เงินคนละไม่เกิน 2 ล้าน สำหรับพรรคการเมืองใช้ได้ในวง 10-70 ล้านบาท เพราะว่าสถานการณ์ที่แท้จริง เงิน 2 ล้าน ในยุคนี้มันน้อยนิดเดียว เติมน้ำมันรถหาเสียงไม่กี่วันก็หมดแล้ว ท่านทราบหรือไม่ว่า ในพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันสูง สส.หนึ่งคนใช้ 50-60 ล้านบาท และในอดีตเคยมีหัวหน้าพรรคคนหนึ่งใช้เงิน 5,000 ล้านบาท จนได้เป็นนายกฯ ดังนั้นงบที่กกต.ตั้งมามันน่าจะสวนทางความจริง...
nn ที่พูดเนี่ย “เสือไท” ไม่ได้ส่งเสริมให้มีการใช้เงินในทางที่ผิดกฎหมาย อาทิ การจ้างคนไปฟังปราศรัยจนถึงการซื้อเสียง เพราะหากพูดถึงการซื้อเสียง บอกเลยว่าคนหนึ่ง 100 ล้านบาทยังไม่พอ คิดดู แค่เลือกตั้งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านหัวละ 500 บาท เลือกตั้งนายกอบต.-นายกเทศมนตรี หัวละ 1,000 บาท เลือกตั้งนายกอบจ.ก็พันบาทขึ้นไป แล้วสส.ละ เลือกตั้งระดับชาติเชียวนะ แค่ 2 ล้านจะพอยาไส้อะไร....
nn ในทางตรงข้าม ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องไม่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง กกต.ควรจะจับมือกับองค์กรภาคประชาชน รณรงค์ให้มีการเลือกตั้งที่โปร่งใสปราศจากการซื้อเสียง เราจะได้นักการเมืองที่เป็นตัวแทนประชาชนมีความรู้จริงๆ เข้ามาบริหารประเทศ ไม่ใช่ประเภทหิ้วกระเป๋า “เจมส์บอนด์” เอาเงินไปฟาดหัวชาวบ้าน และมานั่งเสวยสุขโกงกิน เราไม่ต้องการแบบนี้...
nn แต่ก็มีบางพรรคที่ได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น นั่นก็คือพรรคการเมืองของรัฐบาล ที่ไม่มีข้อห้ามว่า เป็นรัฐบาลรักษาการ ก็เลยทำให้ได้เปรียบชาวบ้าน อาทิ จะย้ายข้าราชการก็ได้ จะออกนโยบายที่มันต้องใช้เงินพัวพันกับรัฐบาลหน้า หรือจะผันเงินไปลงที่ไหนก็ได้ ยกตัวอย่างบัตรเติมเงินทั้งหลายทั้งปวง ที่รัฐบาลใช้เงินงบประมาณ เป็นเงินภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศ ไปประเคนให้กับคนจน 11 ล้านคน โดยหวังว่าจะได้คะแนนเสียงจากคนเหล่านี้ “เสือไท” ขอบอก คน 11 ล้านคนจนจริง แต่ไม่โง่ที่จะหลับหูหลับตาเลือกตั้งนะ ไม่เชื่อก็คอยดู...
nn การเมืองไทย ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ใช้กลไกทุกอย่างของราชการ เพื่อให้เกิดความได้เปรียบพรรคอื่น อย่างกองทุนหมู่บ้าน หลังจากเรื่อง “พักหนี้กองทุน 3 ปี” หายเข้ากลีบเมฆเพราะว่าชาวกองทุนพากันออกมาต่อต้าน ล่าสุดฝ่ายรัฐบาล ยังไม่ละความพยายามในการที่จะ “หาเสียง” กับพี่น้องสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ด้วยการเปิดการ “อบรม” โดยอ้างว่าเป็นการอบรม หลักสูตร “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน” ด้วยการออกหนังสือไปถึงกองทุนหมู่บ้านทั้งประเทศในแต่ละภาค ให้จัดหาตัวแทนสมาชิกกองทุนละ 1 คน มาอบรม โดยเบิกค่ารถ ค่าที่พักค่าเบี้ยเลี้ยงได้นั้น ไม่ทราบว่ามีวัตถุประสงค์ใด เพราะเนื้อหาในการอบรมกับหัวข้อนั้นไม่ตรงกัน พี่น้องกองทุนหมู่บ้าน ฝากมาถามว่า ที่ระดมให้มีการอบรมช่วงนี้ต้องการอะไร ต้องการคะแนนเสียง หรือต้องการหาเสียงใช่หรือไม่ ฝากไปถึง นที ขลิบทอง ผอ.สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ตอบด้วย หรือว่า สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.สำนักนายกฯทราบเรื่องนี้หรือไม่ กอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.สำนักนายกฯทราบเรื่องนี้หรือไม่...
nn ฮัดเช้ย!!!ได้ยินเสียงบ่นตามหลัง สุวพันธ์ุ วันไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านที่จังหวัดหนองบัวลำภู ช่วงครม.สัญจรที่บึงกาฬ-หนองคาย ท่านทราบไหมว่าก่อนท่านจะไป สมาชิกกองทุนที่นี่ถูกบังคับให้ “ปลูกผักชี” รอท่านล่วงหน้า 2 สัปดาห์ ทุกคนบ่น ไม่มีใครดีใจที่ท่านไปเยี่ยมเลย ที่เห็นดูดีนั้นก็ “ดราม่า” กันทุกคน นี่คือเสียงสะท้อนที่ว่า รัฐบาลพุ่งเป้าไปที่กองทุนหมู่บ้าน เพื่อหวังคะแนนเสียง แต่สุดท้ายอาจไม่ได้ดังหวัง ได้ยินแว่วๆ ว่าเลือกตั้งหนนี้อาจมีการ “สั่งสอน” กันว่างั้น จบข่าว...nn
เสือไท
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี