ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองแต่ละพรรคเริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆ ปรากฏว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งในเว็บไซต์ของคณะกรรมการว่ามีพรรคการเมืองส่งผู้แทนมาร่วมประชุมกับคณะกรรมการรวม 77 พรรค จากจำนวนพรรคการเมืองที่ยังไม่หมดสิทธิส่งสส.ลงเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ได้รวมทั้งหมด 140 พรรค
คณะกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 7 คนที่มีนายอิทธิพรบุญประคอง เป็นประธาน ได้กำหนดระเบียบการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ออกมาดังนี้คือ ระเบียบเบื้องต้นที่สำนักงาน กกต.ได้ยกร่างเสร็จมีสาระสำคัญนอกจากเรื่องการติดป้ายหาเสียงของผู้สมัคร พรรคการเมือง ที่กกต. กำหนดได้แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ประกาศการโฆษณาให้ผู้สมัครทำได้ขนาด กระดาษเอ3 จำนวนไม่เกิน 10 เท่า ของหน่วยเลือกตั้งในเขตนั้นๆ
แผ่นป้ายการโฆษณาขนาด 1.30 ม.X 2.45ม. ผู้สมัคร ทำได้ไม่เกิน 2 เท่า ของจำนวนหน่วยเลือกตั้งและพรรคทำได้ไม่เกิน 1 เท่า ของจำนวนหน่วยเลือกตั้งในเขตที่พรรคส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขต และระเบียบ ระบุสามารถมีข้อความ รูป เช่น ชื่อสกุล รูป หมายเลขผู้สมัคร รูปคู่หัวหน้าพรรค บุคคลที่พรรคมีมติเสนอเป็นนายกฯ ข้อความอื่นเท่าที่จำเป็น โดยต้องติดประกาศ และแผ่นป้ายในสถานที่ หัวหน้าส่วนราชการในเขตและตามกำหนด ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ต่อประชาชนหรือยานพาหนะ กีดขวางการสัญจร การจราจร ซึ่งผู้สมัครและพรรคจะติดแผ่นป้ายนอกบริเวณที่กำหนดไม่ได้
ป้ายสนับสนุนการโฆษณา ส่วนนี้สำนักงาน กกต.จังหวัด จะดำเนินการจัดทำให้กับผู้สมัครทุกคน และพรรค ในแต่ละเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น โดยอาจจะเป็นป้ายไวนิล แผ่นผ้าจำนวน 2 ขนาด คือ ขนาดกระดาษเอ4 และกระดาษเอ 3 ขนาดละ 1 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น โดยจะมีรายละเอียด ชื่อผู้สมัคร เขตเลือกตั้ง จังหวัด รูปถ่าย ชื่อโลโก้พรรค และข้อความรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ซึ่ง ผอ. กกต.จังหวัด จะขอความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนในการสนับสนุนการติดตั้ง
ส่วนเรื่องของการหาเสียงทางวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐ กำหนดให้นับแต่ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใช้บังคับจนถึงก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน วิทยุ โทรทัศน์ของรัฐต้องจัดสรรเวลาให้ทุกพรรคการเมืองออกอากาศโฆษณาข้อความสั้นๆ เกี่ยวกับนโยบายพรรค อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 30 วินาที และออกอากาศ เพื่อแถลงนโยบายของพรรค พรรคละ 3 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 10 นาที หมุนเวียนจนกว่าจะครบทุกพรรค โดยพรรครับผิดชอบเนื้อหาการออกอากาศ ต้องไม่ใส่ร้าย เสียดสีบุคคล หรือพรรคการเมืองใด หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดี
ขณะที่ สถานีวิทยุและโทรทัศน์ สามารถเชิญพรรคการเมือง มาออกรายการเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ อภิปรายเชิงนโยบายได้ รวมถึงเสนอรายการข่าว บทวิเคราะห์ได้ตามหลักวิชาชีพด้วยความเป็นกลาง แต่ห้ามผู้จัดรายการผู้ดำเนินรายการกระทำการอันเป็นคุณ หรือโทษ ต่อผู้สมัครและพรรคการเมือง
ส่วนการโฆษณาหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ หัวหน้าพรรคต้องยื่นความประสงค์ต่อ กกต.ก่อน ไม่แจ้งถือว่าสละสิทธิ์ โดยพรรคต้องรับผิดชอบข้อมูลข้อความในการโฆษณา ซึ่งต้องไม่ขัดต่อกฎหมายความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง หรือก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกระหว่างชนในชาติ ไม่ใช้ถ้อยคำก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หากพบการกระทำดังกล่าว กกต. สามารถสั่งแก้ไข ลบหรือระงับ ไม่ดำเนินการกกต. สามารถลบ ได้เอง และการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หาเสียงของพรรคทำได้จนถึงเวลา 18.00 น. ก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน
การจัดเวทีดีเบต กกต. จะจัดเวทีประชันนโยบายบริหารประเทศ กำหนดเป็น 3 กลุ่ม ตามจำนวน การส่งผู้สมัคร กลุ่ม 1 พรรคที่ส่งผู้สมัครตั้งแต่ 300-350 เขต กลุ่ม 2 พรรคที่ส่งผู้สมัครตั้งแต่ 200 ถึง 299 เขต และกลุ่ม 3 พรรคที่ส่งผู้สมัครน้อยกว่า 200 เขต บุคคลที่จะดีเบต อาจเป็นหัวหน้าพรรค หรือคนที่พรรคมีมติเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งนี้ยังไม่มีการกำหนดว่า จะเป็นการดีเบตสด หรือบันทึกเทปแล้วออกอากาศทางวิทยุโทรทัศน์
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครแบบแบ่งเขต กกต. กำหนดเบื้องต้นคนละไม่เกิน 2 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายของพรรคการเมือง กกต. เสนอคิดจากจำนวนการส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขต 1-50 คน ไม่เกิน 10 ล้านบาท 51-100 คน ไม่เกิน 20 ล้านบาท 101-150 คน ไม่เกิน 30 ล้านบาท 201-250 คน ไม่เกิน 50 ล้านบาท 251-300 คน ไม่เกิน 60 ล้านบาท และ 301-350 คน ไม่เกิน 70 ล้านบาท
พรรคการเมืองที่จะชูพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี คือ พรรคพลังประชารัฐได้จัดเลี้ยงหาทุนแสดงหน้าตักเบื้องต้นให้คนอิจฉาเล่นจำนวน 650 ล้านบาท เล่นเอาพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามอิจฉาตาร้อนกันเป็นทิวแถวแต่ที่จริงเงินจำนวน 650 ล้านบาท ก็ไม่ได้มากเกินกว่ากฎหมายกำหนดแต่อย่างใดถ้าฝ่ายใดสงสัยก็สามารถสอบถามท่านเลชาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ได้ทุกกรณีว่าระเบียบเป็นอย่างไร ผิดหรือไม่ผิดกฎหมายเพราะหากส่งสส.ลงทุกเขตจะต้องใช้เงินรวม 770 ล้านบาทต่อพรรค ดังนั้นเงิน 650 ล้านบาทยังไม่เกินกำหนดของ กกต.แต่อย่างใด
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี