การเล่นการเมือง หรือถ้าหากจะพูดให้ไพเราะเสนาะหูว่า การทำงานการเมือง เป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะดำเนินไปได้โดยปราศจากเงินทุนก้อนมหึมา เพราะนักการเมืองทุกคนย่อมต้องลงทุนไปก่อน แล้วค่อยกลับมาถอนทุนคืนในภายหลัง โดยเฉพาะในยามที่ได้ครอบครองอำนาจรัฐ ส่วนจะถอนทุนมากกว่าเงินที่ลงทุนไปแล้ว มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความหนา-บางของผิวหน้า และต่อมจริยธรรมของแต่ละบุคคล
แต่ทว่า มิใช่แค่เพียงนักการเมืองที่ได้ลงทุนไปแล้วจะกลับมาถอนทุนคืนเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มนายทุนใหญ่ระดับชาติ และข้ามชาติที่ให้การสนับสนุนนักการเมืองกลุ่มต่างๆ เข้ามาร่วมถอนทุนคืนอีกด้วย สาเหตุที่ต้องย้ำว่านายทุนใหญ่ระดับชาติและข้ามชาติ ก็เพราะว่านายทุนกลุ่มนี้มีสายสัมพันธ์โยงใยอย่างซับซ้อนกับนักการเมืองทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกับกลุ่มที่มีอำนาจรัฐ เนื่องจากนายทุนเหล่านั้นรู้ดีว่าไม่มีรัฐบาลใดอยู่ในอำนาจได้อย่างจีรังยั่งยืน รัฐบาลทุกชุดมาแล้วก็ไป ไปแล้วก็อาจจะกลับมา ผลัดกันขึ้น ผลัดกันลง ผลัดกันเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ของแผ่นดิน ดังนั้นนายทุนจึงจำเป็นต้องยอมลงทุนกับนักการเมืองที่มีโอกาสได้ครอบครองอำนาจรัฐ เพราะจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลกลับคืนมา
เมื่อพูดถึงการจ่ายเงินหลักล้าน หรือหลักสามล้าน หรือจะกี่สิบกี่ร้อยล้านก็ตาม เพื่อซื้อโต๊ะในงานระดมทุนการเมือง จึงไม่สามารถมองข้ามนักธุรกิจระดับอภิมหาเศรษฐีไปได้ ส่วนเมื่อมองไปแล้วจะพบหน้าของมหาเศรษฐีรายใด ตระกูลไหนในงานเลี้ยงเหล่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการค้นหาความจริงของสื่อมวลชน และสาธารณชน
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องหวังว่าจะได้พบหน้าค่าตาของนายทุนระดับอภิมหาเศรษฐีในงานเลี้ยงดังว่านั้น เพราะคนจำพวกนี้จะไม่ยอมปรากฏตัวในที่แจ้งเป็นอันขาด แต่ก็ยินดีจะทุ่มเงินที่เรียกได้ว่าเพียงแค่เศษเงินให้กับนักการเมืองได้โดยไม่จำกัดกลุ่ม ถ้าหากเขาคิดคำนวณบนลูกคิดรางแก้วเบ็ดเสร็จ แล้วเห็นว่าคุ้มค่ากับการลงทุน
นอกจากนักการเมืองที่มีอำนาจรัฐ หรือมีโอกาสได้ครอบครองอำนาจรัฐ จะได้รับแค่เพียงเศษๆ เงินจากอภิมหาเศรษฐีแล้วในการระดมทุนแล้ว ก็ยังได้รับเงินจากการไล่ล่าถอนขนห่านจากหน่วยงานราชการ และหน่วยงานที่มีส่วนราชการเข้าไปผสมอยู่ด้วย ซึ่งก็หมายความว่าหน่วยงานอาจจะเจียดเงินจากหน่วยของตนเอง หรืออาจจะต้องไปอ้อนวอน ขอร้อง หรือบังคับขู่เข็ญเอาเงินมาจากพ่อค้านักธุรกิจระดับใหญ่ในจังหวัดต่างๆ มาให้กับนักการเมืองให้จงได้
เราต้องยอมรับความจริงว่า การเล่นการเมืองในประเทศไทยนั้น จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ซึ่งเงินที่ใช้ก็มิใช่แค่เพียงหลักสิบหรือร้อยล้านบาท แต่ต้องใช้เงินอย่างน้อยๆ เป็นหลักหลายๆ พันล้านบาท และอาจจะถึงหลักหมื่นล้านบาท
ถามว่าทำไมนักการเมืองและนายทุนระดับอภิมหาเศรษฐีต้องลงทุนมากมายถึงเพียงนี้ ตอบว่า ก็เพราะเมื่อมีอำนาจรัฐในกำมือแล้ว ผลประโยชน์มหาศาลจะกลับมาสู่ตนเองอย่างมากมายเหลือคณานับ ยิ่งเงินงบประมาณแผ่นดินสูงมากเพียงใด ก็หมายถึงผลประโยชน์มากมายมหาศาลจะไหลเข้ากระเป๋าของผู้มีอำนาจรัฐและนายทุนกลุ่มอภิมหาเศรษฐีอย่างสะดวกสบาย ไร้สิ่งใดขัดขวางได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี