๑.ข้อความทั่วไป
การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นรูปแบบการปกครองที่เกิดขึ้นจากหลักการกระจายอำนาจการปกครองทางพื้นที่โดยรัฐจะจัดตั้งองค์กรปกครองขึ้นมา ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดทำบริการสาธารณะบางอย่างตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นโดยการดำเนินการดังกล่าวจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของส่วนกลาง ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนในการปกครองตนเองตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และองค์กรใดจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลักการกระจายอำนาจดังกล่าวต้องมีองค์ประกอบดังนี้ (๑) การมีอิสระในการปกครองตนเองของท้องถิ่น คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมีสถานะเป็นนิติบุคคล มีเขตพื้นที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน มีองค์กรของตนเองซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยเสรีของประชาชนในท้องถิ่น มีขอบเขตอำนาจหน้าที่ของตนเอง ในกิจการท้องถิ่นแยกต่างหากจากรัฐ และมีการคลังของตนเอง และ (๒) การอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรการปกครองที่สูงกว่าโดยการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าวรัฐอาจกำกับดูแลโดยตรงโดยการกำกับดูแลตัวบุคคลหรือองค์กรหรือกำกับดูแลการกระทำหรือกำกับดูแลโดยอ้อมโดยการใช้เงินอุดหนุนหรือสัญญามาตรฐานก็ได้
จากองค์ประกอบของการเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าว จะเห็นได้ว่า การมีการคลังของตนเองเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลักการกระจายอำนาจการปกครอง เพราะแม้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากรัฐ มีเขตพื้นที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน มีองค์กรที่มาจากการเลือกตั้งโดยเสรีของประชาชนในท้องถิ่น และมีอำนาจหน้าที่ในกิจการท้องถิ่นแยกต่างหากจากรัฐก็ตาม แต่หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีเงินหรือการคลังเป็นของตนเองแยกต่างหากจากรัฐและยังต้องพึ่งพารายได้จากรัฐหรือส่วนกลางเป็นสำคัญ การจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็จะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ คือ การจัดทำบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะไม่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นแต่จะเป็นไปตามความต้องการของรัฐหรือส่วนกลางเพราะรัฐหรือส่วนกลางจะเข้ามาควบคุมสั่งการการใช้จ่ายรายได้นั้นว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้นำไปใช้จ่ายอย่างเหมาะสมตามความต้องการของรัฐหรือส่วนกลางหรือไม่ และมีผลทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีความเป็นอิสระในการปกครองตนเองอย่างแท้จริงแม้จะมีการบัญญัติรับรองความเป็นอิสระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไว้ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศก็ตาม
การมีการคลังของตนเอง คือ การที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้ของตนเองและสามารถใช้จ่ายรายได้นั้นเพื่อจัดทำบริการสาธารณะตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างอิสระหรือเรียกว่ามีความเป็นอิสระทางการเงินการคลังนั่นเอง
๒.หลักความเป็นอิสระทางการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
๒.๑ ความหมาย เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่ในการจัดทำบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์และตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นและเพื่อให้สามารถบรรลุภาระหน้าที่ดังกล่าว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงจำเป็นต้องมีรายได้มาเพื่อใช้จ่ายและดำเนินการจัดทำบริการสาธารณะตามอำนาจหน้าที่ของตนและการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องรอรับเงินจัดสรรจากส่วนกลางแต่เพียงอย่างเดียว องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นก็จะไม่สามารถดำเนินกิจการต่างๆ ได้ด้วยตนเองหรือไม่มีประสิทธิภาพเพราะต้องรองบประมาณจากส่วนกลางซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดและถูกควบคุมตรวจสอบการใช้จ่ายเงินจากส่วนกลางซึ่งเป็นการขัดกับหลักการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถพึ่งพาตนเองได้และมีผลกระทบต่อสถานภาพความเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลักการกระจายอำนาจการปกครองดังนั้น เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินกิจการต่างๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นได้ด้วยตนเองและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงจำเป็นต้องกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเป็นอิสระทางการเงินการคลังแยกต่างหากจากส่วนกลาง
ความเป็นอิสระทางการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมายถึง การที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดหารายได้และการจัดการรายจ่าย (จัดทำงบประมาณ) ของตนเองเพื่อจัดทำบริการสาธารณะตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรัฐจะต้องกระจายอำนาจทางการคลังให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน ๒ ด้าน คือ การกระจายอำนาจในการจัดเก็บภาษีและการแสวงหารายได้อื่นๆ และการกระจายอำนาจในการจัดทำงบประมาณและการเบิกจ่าย โดยการบัญญัติรับรองไว้ในบทบัญญัติแห่งกฎหมายโดยชัดแจ้ง และเมื่อท้องถิ่นมีความสามารถในการจัดหารายได้ด้วยตนเองดังกล่าว ท้องถิ่นก็จะต้องจัดหารายได้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการจัดเก็บภาษีอากรและค่าธรรมเนียมตามที่กฎหมายกำหนดให้อย่างเต็มกำลังความสามารถและพึ่งพาเงินอุดหนุนจากรัฐให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ เพื่อความเป็นอิสระในการดำเนินงานต่างๆ ของท้องถิ่น เพราะเมื่อท้องถิ่นมีรายได้เป็นของตนเองแล้วท้องถิ่นก็ย่อมมีความเป็นอิสระในการกำหนดการใช้จ่ายของตนเองและสามารถดำเนินการหรือริเริ่มงานอื่นๆ ได้ตามที่ตนเห็นว่าเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นโดยที่ส่วนกลางไม่สามารถเข้ามาควบคุมสั่งการให้ท้องถิ่นดำเนินกิจการต่างๆ ได้ตามใจชอบดังเช่นกรณีที่ท้องถิ่นได้รับเงินจากรัฐ อย่างไรก็ตาม หากท้องถิ่นมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการจัดทำบริการสาธารณะพื้นฐานให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นหรือเป็นบริการสาธารณะที่เกินขีดความสามารถที่ท้องถิ่นจะดำเนินการได้ด้วยงบประมาณของท้องถิ่นเอง รัฐต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือท้องถิ่นโดยการให้เงินอุดหนุนตามความจำเป็นเพราะรัฐยังมีหน้าที่ในการจัดทำบริการสาธารณะโดยรวมของประเทศแม้จะมีท้องถิ่นดำเนินกิจการนั้นแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แม้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีความเป็นอิสระทางการเงินการคลัง แต่ความเป็นอิสระดังกล่าวยังต้องอยู่ภายใต้กรอบอำนาจของรัฐ คือ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยองค์กรหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจากส่วนกลางว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้จัดเก็บรายได้และใช้จ่ายรายได้นั้นโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
(โปรดติดตามตอนต่อในวันศุกร์หน้า)
นางสาวกฤฏิฎีกา ทองเพ็ชร
นิติกรปฏิบัติการ สำนักงานคดีปกครองระยอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี