ถือว่าเป็นข่าวดีครับ!!!
เพราะมีการกดปุ่มปล่อยเงินลอตแรกบาทแรกช่วยนักเรียนยากจนพิเศษ 4 แสนคน โดยจะเริ่มโอนเงินก้อนแรกในพื้นที่ 11 จังหวัด ที่เป็นพื้นที่ยากจนที่สุดก่อนตั้งเป้าเด็กยากจนพิเศษทั้งหมดจะได้รับเงินครบภายในเดือนมกราคม 2562 นี้ ซึ่งเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลที่ประกาศชัดเจนว่า “จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้นำร่องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ “iSEE App” ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ลงในไอแพดของนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้เรียกดูข้อมูลรายงานสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำและจำนวนนักเรียนยากจนพิเศษได้ทุกสถานที่และทุกเวลา ทั้งในรูปแบบกราฟิกตารางสรุปข้อมูลสถิติข้อมูลภูมิสารสนเทศของสถานศึกษาทั้ง 30,000 แห่ง รวมถึงผลการเบิกจ่ายงบประมาณของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ทั้งในระดับภาพรวมของประเทศจังหวัด สถานศึกษาไปจนถึงระดับผู้เรียนมากกว่า 500,000 คน
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) อธิบายว่ากสศ.วิจัยพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Information System for Equitable Education) หรือ iSEE ระบบนี้ถือเป็นเครื่องมือช่วยให้รัฐบาล “มองเห็น” และ “ติดตาม” ข้อมูลสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้อย่างชัดเจนทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยเพื่อมอบนโยบายบูรณาการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำให้แก่หน่วยงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ให้มีเด็กเยาวชนคนใดถูกทอดทิ้งจากความช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกต่อไปโดยช่วงแรกระบบ iSEE จะทำหน้าที่รายงานข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ภายใต้โครงการเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษอย่างมีเงื่อนไขที่กสศ. และสพฐ. เริ่มดำเนินงานในปีการศึกษา 2561
ดร.ประสารกล่าวว่าโครงการเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษอย่างมีเงื่อนไข (Conditional Cash Transfer) หรือโครงการ CCT ของกสศ.ได้นำแนวทางดังกล่าวมาใช้เพื่อวางแผนดำเนินงานอย่างรัดกุมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการจัดสรรเงินอุดหนุนของกสศ.สามารถป้องกันนักเรียนยากจนพิเศษไม่ให้หลุดออกจากการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการจัดสรรงบประมาณตรงตามข้อมูลความต้องการของผู้เรียนเป็นรายบุคคลอย่างแท้จริง (Demand-side Financing) มิใช่การจ่ายแบบรายหัวทุกคนเท่ากันดังเช่น การถัวเฉลี่ยจ่ายหรือการกำหนดโควตาจัดสรรแบบในอดีตที่ผ่านมา
“ล่าสุดกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทย และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้ประสานงานมาที่กสศ. เพื่อขอจัดทำความร่วมมือเพื่อนำระบบข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)และแอพพลิเคชั่นดังกล่าวรวมทั้งนวัตกรรมการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนอย่างมีเงื่อนไขนี้ไปสนับสนุนมาตรการดูแลนักเรียนในสถานศึกษาสังกัดของตนอีกราว 2,000 แห่ง ในปีการศึกษา 2563 ต่อไป” ดร.ประสารทิ้งท้าย
ขณะที่นายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาระบุว่าผลการบันทึกข้อมูลนักเรียนยากจนพิเศษที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2561 พบว่ามีจำนวนนักเรียนที่จะได้รับเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนพิเศษอย่างมีเงื่อนไขในรอบแรกจำนวน 397,493 คน ขณะที่อีก 75,363 คน จาก 416 โรงเรียน ยังยื่นเอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
“ทุกกระบวนการกสศ.ใช้เทคโนโลยีช่วยพิสูจน์ยืนยันตั้งแต่การค้นหาตรวจสอบการโอนเงิน การติดตามผลตามเงื่อนไขและยังผ่านการรับรองอย่างมีส่วนร่วมจากคณะกรรมการสถานศึกษาชุมชนท้องถิ่นและผู้ปกครองรวมแล้วกว่า150,000 คน เพื่อให้สังคมเชื่อมั่นในความโปร่งใสและประสิทธิภาพของการทำงานล่าสุด กสศ.ได้ประสานไปยังสพฐ.เพื่อส่งรายชื่อของโรงเรียน
ที่ยังไม่ได้บันทึกข้อมูลใดๆ เลยทั้ง 6,655 แห่ง ข้อมูลดังกล่าวจะชี้เป้าให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประสานติดตามไม่ให้มีเด็กนักเรียนคนไหนเสียโอกาสในการได้รับเงินอุดหนุนครั้งนี้” ผู้จัดการกสศ. กล่าว
ก็ขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ที่มีโอกาสได้รับการดูแลจากรัฐบาลเป็นพิเศษครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี