คณะกรรมการของแพทยสภาของไทยที่มีอยู่ทั้งหมด 56 คน ซึ่งมีนายกแพทยสภา 2 ท่าน คือ นายกแพทยสภากิตติมศักดิ์ ได้แก่ ศาสตราจารย์นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร และนายกแพทยสภาที่มาจากการเลือกตั้งได้แก่นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา กำลังจะหมดวาระในไม่กี่วันข้างหน้าเนื่องจากอยู่ในช่วงการนับคะแนนเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ในปี 2562 – 2564
ปัญหาใหญ่ที่แพทยสภากำลังหาทางแก้ไขอยู่คือปัญหาแพทย์ที่ทำงานในกระทรวงสาธารณสุขขาดแคลนเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของไทยในปี 2561 ล่าสุดที่มีอยู่ 66,208,740 คน ตัวเลขจำนวนแพทย์ทุกสาขาระบุว่าปี 2561 ไทยมีแพทย์ที่ขึ้นทะเบียนตั้งแต่สมัยร.5 ถึงปัจจุบันรวม 60,583 คน ขณะนี้มีแพทย์ไทยที่มีชีวิตอยู่ 58,490 คน อัตราเฉลี่ยแพทย์ 1 คนต่อประชากรไทย 1,132 คน
จากข้อมูลที่แพทย์หญิงเชิดชู อริยศรีวัฒนาประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับเปลี่ยนเงินเดือนและค่าตอบแทนแพทย์ของแพทยสภาทำเสนอคณะกรรมการล่าสุดได้ระบุว่าปัจจุบันจำนวนคนไข้ที่เข้ามารับการตรวจรักษาในโรงพยาบาลของรัฐบาลทุกประเภทมีอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้แพทย์ต้องทำงานหนักเกินกำลังโดยมีเวลาทำงานต่อสัปดาห์ตั้งแต่ 90 ถึง 120 ชั่วโมงเฉลี่ยวันละประมาณ 12 – 14 ชั่วโมง และมีเวลาวินิจฉัยคนไข้แค่คนละ 4 นาทีเท่านั้น
ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นจาก 1 แพทย์ ถูกบังคับชดใช้ ทุนโดยไม่สามารถขอย้ายจังหวัดได้ใน 3 ปี แพทย์ต้องทำงานหนักเกินกำลังมีผู้ป่วยมากเกินไป ทำให้แพทย์ไม่มีเวลาพอที่จะตรวจรักษาผู้ป่วยอย่างดีมีคุณภาพมาตรฐานทำให้แพทย์เสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา เงินเดือนและค่าตอบแทนน้อยกว่าการทำงานในโรงพยาบาลเอกชนเป็นสิบเท่าทำให้แพทย์ลาออกจากราชการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ขั้นแรกก็คือการเร่งผลิตแพทย์ทุกสาขาเพิ่มขึ้นจากข้อมูลที่ปรากฏใน 20 ปี ที่ผ่านมา ประเทศไทยผลิตแพทย์ได้รวม 36,834 คน เฉลี่ยปีละ 1,842 คน มีโรงเรียนแพทย์ทั้งหมด 24 แห่ง เป็นของรัฐบาล 22 แห่ง เอกชน 2 แห่ง โรงเรียนแพทย์ที่ผลิตแพทย์ต่อปีได้สูงที่สุดคือคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 310 คน ส่วนโรงเรียนแพทย์เอกชนปัจจุบันมีแห่งเดียว คือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ผลิตได้ปีละ 87 คน
รัฐบาลต้องหางบประมาณเพิ่มให้โรงเรียนแพทย์ของรัฐผลิตแพทย์เพิ่มขึ้นจากปีละ 2,000 คน เป็นปีละ 2,500 ถึง 3,000 คน ในขณะเดียวกันก็ต้องเปิดทางให้เอกชนตั้งโรงเรียนผลิตแพทย์ช่วยรัฐบาลจากที่มี 2 มหาวิทยาลัย คือ รังสิตและสยาม เป็น 5 – 6 แห่งซึ่งจะทำให้มีการผลิตแพทย์เพิ่มสูงขึ้นเป็นปีละประมาณละ 3,000 คน
ในขณะเดียวกันการจะไม่ให้แพทย์ภาคราชการลาออกไปทำงานในโรงพยาบาลเอกชน รัฐบาลก็ต้องหาทางเพิ่มค่าตอบแทนให้แพทย์ภาคราชการได้รายได้สูงมากขึ้น จากปกติเป็นร้อยละ 50 ของค่าจ้างภาคเอกชนเป็นอย่างน้อยก็จะทำให้บรรเทาปัญหาการขาดแคลนแพทย์ในภาครัฐได้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น นี่เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องพิจารณาแก้ไขโดยเร็วก่อนที่จะสายเกินแก้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี