ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องเผชิญกับปัญหาค่าเงินบาทแข็งขึ้นมาอีกครั้งในเดือนมกราคม 2562 นี้ โดยเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุลต่างๆที่มีการค้าขายติดต่อกับประเทศไทยมีค่าดังนี้
1 เหรียญสหรัฐ เท่ากับ 31.20 บาท 1 ปอนด์สเตอร์ลิง เท่ากับ 40.50 บาท 1 ยูโร เท่ากับ 36.50 บาท 100 เยน เท่ากับ 28 บาท 1 เหรียญฮ่องกง เท่ากับ 4 บาท 1 หยวนจีน เท่ากับ 4.55 บาท 1 เหรียญสิงคโปร์ เท่ากับ 24 บาท 1 เปโซฟิลิปปินส์เท่ากับ 0.6 บาท 1,000 รูเปียอินโดนีเซีย เท่ากับ 2.15 บาท 1 รูปีอินเดีย เท่ากับ 0.45 บาท 1 รูเบิ้ลรัสเซียเท่ากับ 0.47 บาท 1 วอนเกาหลีใต้ เท่ากับ 0.0285 บาท 100 กีบสปป.ลาว เท่ากับ 0.3720 บาท 100 เรียลกัมพูชา เท่ากับ 0.79 บาท 1 เหรียญไต้หวัน เท่ากับ 1.04 บาท 1 จ๊าตพม่า เท่ากับ 0.207 บาท 100 ด่งเวียดนาม เท่ากับ 0.175 บาท
สาเหตุที่ค่าเงินบาทแข็งมากเพราะรายได้เข้าประเทศเป็นเงินตราต่างประเทศมีเป็นจำนวนมากจากการส่งสินค้าออกไปต่างประเทศในรอบปีที่ผ่านมามีจำนวนมากกว่า 240,000 เหรียญสหรัฐ และไทยยังมีเงินตราต่างประเทศไหลเข้ามากโดยตลอด ประกอบไทยมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศในปีที่แล้วมากกว่า 39 ล้านคน และยังมีเงินสำรองระหว่างประเทศอีก 240,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มากเป็นอันดับที่ 12 ของโลก
การที่ค่าเงินบาทแข็งมีทั้งผลดีและผลเสีย ด้านผลดีทำให้รัฐบาลและเอกชนที่มีหนี้สินต่างประเทศสามารถเพิ่มวงเงินชำระหนี้ไปให้เจ้าหนี้ได้มากขึ้นทำให้หนี้สินของประเทศลดลงทั้งยังสามารถซื้อสินค้าทุนได้ถูกลงโดยเฉพาะเครื่องจักรรวมไปถึงราคาน้ำมันดิบก็จะถูกลงตามค่าเงินบาทที่แข็ง นอกจากนี้เมื่อค่าเงินบาทแข็งก็จะทำให้คนไทยที่มีฐานะการเงินดีจะเดินทางออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ผลเสียคือทำให้ราคาสินค้าไทยแพงทำให้การส่งออกชะลอตัว
วิธีแก้ไขมีหลายวิธี ได้แก่ การให้ธนาคารแห่งประเทศไทยยังเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันมิให้เงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปแทรกแซงโดยการขายเงินบาทเข้าไปในตลาดเพื่อซื้อเงินดอลลาร์มากักตุนเอาไว้ ทั้งนี้ การขายบาทย่อมจะทำให้ปริมาณเงินบาทในระบบเพิ่มขึ้นจะช่วยทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงการที่ค่าเงินบาทอ่อนจะเป็นตัวกระตุ้นการส่งออกที่ซบเซาให้กระเตื้องทางทฤษฎีค่าเงินบาทอ่อนลงจะทำให้สินค้าไทยราคาถูกลงขายได้มากขึ้นทำให้มีรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น
อีกวิธีคือการลดดอกเบี้ยนโยบายลงทำให้เงินทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาซื้อตราสารหนี้จะไหลกลับออกไปทำให้ปริมาณเงินต่างประเทศของไทยมีลดลงค่าเงินบาทก็จะอ่อนตัวลงไปด้วยและธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะใช้วิธีการออกพันธบัตรเพื่อให้มีเงินบาทมากขึ้นเงินต่างประเทศก็จะน้อยลงค่าเงินบาทก็จะอ่อนตัวตามไปเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี การที่ค่าเงินบาทแข็งเป็นการแสดงว่าเศรษฐกิจของไทยในสมัยรัฐบาลคสช.มีความมั่นคงกว่ายุครัฐบาลระบอบทักษิณแน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี