“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้น เมื่อวันสิ้นปีเก่าต้อนรับปีใหม่ขณะที่ตำรวจกำลังสนุกสนานกับงานที่ท่าน ผบ.ตร.จัดเลี้ยงและจับสลากรางวัลสำคัญๆ โฆษกแจ้งผ่านเครื่องขยายเสียงขอพยาบาลเพื่อเข้าไปดูผู้สื่อข่าวของ POLICE TV ที่หมดสติอยู่นานหลายชั่วโมงเพื่อนผู้สื่อข่าวคาดว่าเมาแล้วหลับ หลายชั่วโมงต่อมาเพื่อนไปปลุกแต่ไม่สนองตอบและการหายใจไม่ตอบสนองจึงขอพยาบาลเข้ามาช่วยแต่ทำอะไรมากไม่ได้เนื่องจากไม่มีอาการตอบสนอง จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจประมาณ 3 วันจึงเสียชีวิต
หลังจากนั้นมาวันที่ 7 มกราคม บริเวณตึก 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้านหลังซึ่งเป็นห้องแถลงข่าวของ สตช. ท่อดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้กับห้องของช่างเกิดแตกออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้น้ำทะลักออกมาท่วมบริเวณหน้าลิฟต์ที่ท่าน ผบ.ตร.ใช้ขึ้น-ลงและทะลักเข้าไปในห้องแถลงข่าว บริเวณหน้าตู้ ATM และไหลลงไปท่วมห้องใต้ดินชั้นล่างตำรวจสันติบาลพยายามช่วยกันสกัดกั้นไม่ให้น้ำลงมาท่วมที่ห้องโถงใหญ่ที่อยู่บริเวณชั้น 1 ส่วนหน้าของ สตช.เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเหมือนเป็นลางบอกเหตุุที่สำคัญมาก.....
ที่ผ่านมาในอดีตถ้าจะมีปัญหาใหญ่่ๆ เกิดขึ้นจะมีลางบอกเหตุุเสมอมา เช่น เมื่อจะมีการเปลี่ยนตัวผู้นำของ “กรมตำรวจ” หรือ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” จะมีเหตุการณ์แปลกๆคือ จู่ๆ เพดานในห้องถล่มลงมาขณะเจ้าของห้องไม่อยู่ เกิดการเปลี่ยนแปลง เบอร์ 1 บางคนไม่พอใจผู้สื่อข่าวทำการไล่ด้วยการเผาห้องสื่อ ตัวเบอร์ 1 ก็ถูกย้ายเบอร์ 1 บางคนเดินไปเห็นศาลตายายที่อยู่ด้านหลังตึกกรมตำรวจ สั่งให้รื้อทิ้งปรากฏว่านั่งเก้าอี้เบอร์ 1 ได้เพียง 5 เดือนก็ย้ายคนที่รับคำสั่งให้ไปย้ายบรรดาแม่ค้านำศาลตายายไปแอบไว้ที่ต้นมะม่วงเอากิ่งมะม่วงอำพรางคนที่รับคำสั่งมาจัดการหน้าบวมโย้ต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาล บางรายมีเส้นใหญ่มากใครจะมาย้ายไม่ได้ วันตำรวจจัดงานเลี้ยงชามจานเป็นตราของตำรวจตกลงจากโต๊ะเสียงดังลั่นมีเหตุุถูกย้ายทันที ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนเบอร์ 1 ของ สตช.จะมีลางบอกเหตุก่อนแล้วผลจะติดตามมา ......
พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ท่านเป็นผู้สร้าง “กรมตำรวจ” ขึ้นมาต้นไม้ในยุคท่านอธิบดีเผ่า คือ ต้นตะแบก ต่อมาอดีตอธิบดีท่านหนึ่งเปลี่ยนเอาต้นตะแบกออกนำต้นประดู่มาปลูกแทนและยังขุดต้นตะโกดัดที่สวยงามมากไปประดับบ้านตนเอง ถูกปลดก่อนเกษียณอายุราชการ .....
ขณะนี้มีโครงการจะรื้อตึกสารนิเทศออกและจะสร้างตึกทับ คนที่คิดจะรื้อตรวจสอบหรือยังว่า ตึกของ สตช. 3 ตึก กรมศิลปากรเขาขึ้นทะเบียนไว้แล้วรื้อไม่ได้คือตึก 1 และเรือนปั้นหยา 2 ข้าง คือ ตึกสันติบาลและตึกสารนิเทศ เขาห้ามทุบทิ้งในอดีต พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ขอทุบด้านหลัง ซึ่งเป็นห้องประชุม 2 ต้องวิ่งเต้นใช้เวลาหลายปีจึงสามารถทุบและสร้างตึกใหม่ขึ้นมาในบริเวณด้านหลังที่เห็นกันอยู่่.....
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมาหยกๆ อย่าประมาทอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ “สังกะสีที่กำลังเหยียบอยู่มันผุแล้วถึงอายุขัย
ของมันแล้ว” !!! จะพึ่งพ่อพึ่งแม่ก็แลหาย จะพึ่งกายโอ้อกก็ตกอับ !!! .....สวัสดีครับ....เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี