เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2562 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ ได้เปิดวิวาทะซ้ำเติม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม โดยเสียดสีเย้ยหยัน ทำนองว่าอย่าได้ทำตัวเนรคุณนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้ต้องโทษคดีทุจริตประพฤติมิชอบ
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า อยากให้ พล.อ.ประวิตร ใจเย็นๆ อย่าตอบโต้กันไปมาเลย จะทำให้บรรยากาศบ้านเมืองตึงเครียดเปล่าๆ อยากให้ พล.อ.ประวิตร เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกหลาน โดยเฉพาะการรู้คุณคน รู้คุณงามความดีของคนที่ให้โอกาส รวมถึงผู้บังคับบัญชา โดยอยากให้พล.อ.ประวิตร ดูตัวอย่างพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. รวมทั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่แสดงความรู้คุณคน ซื่อสัตย์ชัดเจน เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาชนอยู่ตอนนี้
1. หากให้วิธีคิดแบบเดียวกับที่นายณัฐวุฒิอ้างใช้ ลองนึกถึงกรณีของนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำเสื้อแดง ผู้เคยได้รับเมตตาจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สมัยที่นายวีระมีคดีความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่แล้ว นายวีระกลับมาเคลื่อนไหวจาบจ้วง เหยียบย่ำพลเอกเปรมอย่างที่สุด
แบบนี้ จะเรียกว่า รู้คุณคน หรือเนรคุณ ?
นายณัฐวุฒิก็ร่วมกันกับนายวีระ ในการเคลื่อนไหวจาบจ้วงพลเอกเปรมมาครั้งต่อหลายครั้ง
ทำไมไม่ตักเตือนนายวีระเสียบ้าง?
2. จำได้ว่า นายวีระกับพวก เคยบุกไปปราศรัยหน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ โจมตีป๋าเปรมรุนแรง
อ้างว่า รู้จัก พล.อ.เปรม ตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ รู้จักสมัยยังเป็น สส.เมื่ออายุ 26 ปี จากนั้น พูดจาให้ร้ายอย่างรุนแรง หยาบคาย และเป็นเท็จ
นายวีระถึงขนาดเรียกพลเอกเปรม โดยเรียกเฉพาะชื่อสั้นๆ
“...ท่านไม่มีแผ่นดินจะเดินแล้ว หากบอกว่าท่านจงรักภักดีสถาบันกษัตริย์ ถ้ายังพูดเช่นนั้นขอให้พิจารณาตัวเองลาออกจากประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษเสีย มีเพียงหนทางนี้ที่ให้ท่านยืนอย่างมีเกียรติและคนยอมรับได้ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ท่านจะเป็นยิ่งกว่ารากหญ้า ต่ำต้อยกว่าคนเสื้อแดงหลายเท่านักพล.อ.เปรม” นายวีระกล่าว
ช่างไม่นึกถึงบุญคุณของพลเอกเปรม
ช่างไม่มีสัมมาคารวะอะไรเอาเลย
ที่สำคัญ ข้อมูลที่ใช้ ยังเป็นเท็จหลายเรื่อง
3. ยิ่งกว่านั้น นายวีระกับพวก ยังเคยนำม็อบไปบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์
กรณีนี้ ศาลอาญามีคำพิพากษาชั้นต้นและอุทธรณ์แล้ว ว่านายวีระและพวก (รวมถึงนายณัฐวุฒิด้วย) มีความผิด ต้องโทษจำคุก รอแค่คำพิพากษาในชั้นศาลฎีกา
เมื่อวันที่ 20-22 ก.ค.2550 นายวีระและพวก ปราศรัยชักชวนให้กลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกันเพื่อเคลื่อนขบวนการชุมนุม โดยปกปิดสถานที่ และเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกันที่สนามหลวง ก็ได้ปราศรัยไปในทิศทางเดียวกันให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินจากสนามหลวง ไปบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งการชุมนุมในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยสงบตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยในการชุมนุมมีเพียงแก๊สน้ำตา กระบองและโล่
เมื่อกลุ่มนายวีระและพวกเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเจรจา ไม่ให้เคลื่อนขบวนเข้าไปที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ เนื่องจากเป็นพื้นที่หวงห้าม
แต่ปรากฏว่า ฝ่ายนายวีระและพวกได้มีการพูดชักชวนให้มวลชนฝ่าแนวกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป และให้เอารั้วเหล็กออก โดยมีการแย่งรั้วเหล็กกั้น และผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ถอยออก
กระทั่งเกิดความรุนแรงชุลมุนวุ่นวาย
กรณีนี้ ถูกดำเนินคดีต่อศาลอาญา โดยนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นพ.เหวง โตจิราการ และพวก ตกเป็นจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และนพ.เหวง คนละ 4 ปี 4 เดือน
ต่อมา ช่วงต้นปี 2560 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และนพ.เหวง ฐานเป็นผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 138 ให้จำคุกคนละ 1 ปี ฐานเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ตามมาตรา 215 วรรค 3 ซึ่งเป็นบทหนักสุดอีกคนละ 3 ปี
แต่คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3
คงจำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน
ขณะนี้ รอคำพิพากษาศาลฎีกา
4. การทำตามหน้าที่ โดยยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติส่วนรวม แม้จะกระทบต่อผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้ที่เคยมีบุญคุณต่อตนเอง ย่อมเป็นสิ่งที่วิญญูชนพึงกระทำ และมิใช่การเนรคุณคน
แต่การใช้ความเท็จ เคลื่อนไหว ปลุกระดม ปลุกปั่นใส่ร้ายจาบจ้วงแม้กระทั่งผู้เคยมีบุญคุณต่อตนเอง เพียงเพื่อรับใช้ผลประโยชน์ส่วนตนของคนโกงชาติโกงแผ่นดิน นั่นมิใช่แค่เนรคุณคน แต่เป็นการเนรคุณชาติอีกด้วย
หาใช่ไทยรักษาชาติ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี