กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ปลื้มสินค้าท้องถิ่นผลิตภัณฑ์จากผ้าใยสับปะรดคำสั่งซื้อต่างประเทศทะลัก เร่งพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการรักษามาตรฐานสินค้าส่งออก ดันขึ้นแท่นสินค้าสร้างชื่อหวังโกยรายได้เข้าประเทศต่อเนื่อง น.ส.บรรจงจิตต์อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ขณะนี้ DITP อยู่ระหว่างการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในระดับชุมชนพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและมีมาตรฐาน
โดยกลุ่มผู้ผลิตเสื้อผ้าจากใยสับปะรดถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของสินค้าท้องถิ่นที่มีการดัดแปลงจนสามารถผลักดันให้กลายเป็นสินค้าส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศได้ ทั้งยังสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ผลิตและสร้างรายได้แก่ชาวสวนผู้ปลูกสับปะรด ตามนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ได้กำหนดนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชนและการสร้างงานสร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศ
ทั้งนี้คุณสมบัติที่โดดเด่นของใยสับปะรดคือความเหนียว ทนทาน สามารถนำมาผลิตเป็นสินค้าคุณภาพดีอีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้พาผู้ประกอบการออกงานแสดงสินค้าของทางกรม จึงได้รับความสนใจจากลูกค้าต่างประเทศเป็นอย่างมากพร้อมทั้งมีการสั่งจองล่วงหน้าเพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศทันที
สินค้าที่ผลิตจากเส้นใยสับปะรดถือเป็นสินค้าที่ช่วยลดมลพิษของเสียจากวัตถุดิบเหลือทิ้งทางการเกษตรซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกตื่นตัวและให้การสนับสนุนอย่างมากและปัจจุบันหลายๆ หน่วยงานได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในการนำใยสับปะรดมาพัฒนาปั่นเป็นเส้นใยธรรมชาติสู่การผลิตสิ่งทอเพื่อลดระยะเวลา และรักษาคุณภาพมาตรฐานของเส้นใย ถือเป็นเรื่องที่ดีและน่าภูมิใจที่ท้องถิ่นได้มีการยกระดับขีดความสามารถเพื่อพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพสูงขึ้น
การที่มีชุมชนที่ผลิตเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มหลายแห่งมาหารือกับกรมเพื่อให้กรมเข้าไปช่วยเหลือ เช่น กลุ่มรักษ์บ้านเรา จังหวัดสงขลา ที่เคยเข้าร่วมโครงการต้นกล้าทูโกล ของสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่หรือ NEA ที่อยู่ในความดูแลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศนั้น เพื่อต้องการสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการ การพัฒนาสินค้า และการทำการส่งออก ซึ่งพบว่าในปัจจุบันมีคำสั่งซื้อจำนวนมากจากผู้ประกอบการกลุ่มโรงแรมและร้านอาหารจากประเทศญี่ปุ่นจนไม่สามารถผลิตได้ทันเพราะเป็นสินค้าที่ทำด้วยมือเป็นส่วนใหญ่
ผลของการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้ใยสับปะรดนอกจากจะทำให้สินค้ามีมูลค่าสูงขึ้นแล้ว ยังได้สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านเพิ่มขึ้นเนื่องจากนำเอาวัตถุดิบที่ไม่มีมูลค่ามาทำให้เกิดมูลค่า เพราะทางกลุ่มได้รับซื้อใยสับปะรดจากชุมชนในราคากก.ละ 300-600 บาท ขณะที่กลุ่มทอผ้าจากเดิมที่มีรายได้เมตรละ 50 บาท หลังจากได้มีการพัฒนาสินค้าด้วยใยสับปะรด ก็มีรายได้เพิ่มเป็นเมตรละ 150-250 บาท นับเป็นการสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือโทรสายตรง การค้าระหว่างประเทศ 1169 ได้ทุกวันในเวลาราชการ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี