คดีไร่ส้ม หรือกรณีทุจริตเงินค่าโฆษณา อสมท ของบริษัท
ไร่ส้ม จำกัด
ที่มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง ต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิด
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกนายสรยุทธ เป็นเวลา 13 ปี 4 เดือน
ขณะนี้ คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกา
แต่ปรากฏว่า มีการตรวจสอบพบข้อเท็จจริงใหม่ อันอาจจะนำมาสู่การขยายผล ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในส่วนที่เป็นเจ้าหน้าที่หรืออดีตผู้บริหาร อสมท ต่อไป หรือไม่?
1. สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวว่า คณะทำงาน ในคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมวลชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตรวจสอบพบหลักฐานใหม่ กรณีพิพาทในการโฆษณาเกินเวลาระหว่างบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ อสมท และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด
ระบุว่า ไม่ได้มีแค่ฝ่ายบริษัท ไร่ส้ม จำกัด เท่านั้นที่โฆษณาเกินเวลา
แต่ฝ่าย อสมท เอง ก็โฆษณาเกินเวลาด้วย
คิดเป็นมูลค่ากว่า 237 ล้านบาท
2. ได้ทราบเพิ่มเติมว่า คณะทำงานใน กมธ.สื่อฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ปี 2547-2549 ทั้ง อสมท และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ออกอากาศโฆษณาเกินส่วนแบ่งเวลาตามสัญญาร่วมดำเนินรายการโทรทัศน์ ในรายการ “คุยคุ้ยข่าว”
โดยโฆษณาเกินเวลาในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เกิน 5 นาที/ชั่วโมง
และช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เกิน 10 นาที/ชั่วโมง
ฝ่าฝืนระเบียบว่าด้วยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2535
คณะทำงานฯ เห็นว่า การที่ผู้บริหารของ อสมท ประกอบด้วย ผู้บริหารฝ่ายขาย ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์การตลาด และผู้บริหารฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติขาย และได้รับเงินรางวัลนำเข้าโฆษณาส่วนเกิน จงใจออกอากาศรายการโฆษณาเกินส่วนแบ่งตามสัญญา นอกจากจะเป็นการแสวงหาประโยชน์อันมิชอบแล้ว ยังเป็นการปล่อยปละละเลยให้มีการจ่ายรางวัลเงินนำเข้าโฆษณาส่วนเกินให้แก่ผู้บริหารและพนักงานโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและระเบียบ
3. จากการค้นพบข้อเท็จจริงใหม่ข้างต้น น่าคิดว่า จะมีการนำไปกล่าวอ้างในทางที่เป็นคุณต่อนายสรยุทธและบริษัทไร่ส้ม ได้หรือไม่?
เพราะกติกา คือ แบ่งเวลาโฆษณากัน
ข้อเท็จจริงในคดีไร่ส้ม ก็ถูกชี้ไปแล้วว่าไร่ส้มมีการโฆษณาเกินเวลาที่ตนได้รับ แล้วไม่ได้รายงานจริง
แต่ข้อเท็จจริงอันใหม่ จุดสำคัญ คือ พบว่า อสมท ก็โฆษณาเกินเวลา ซึ่งเท่ากับว่า ไปกินเวลาที่ควรจะเป็นเนื้อหารายการ มิใช่ไปกินเวลาโฆษณาของไร่ส้ม (เพราะไร่ส้มก็เกินเวลาโฆษณาของตัวเองอยู่แล้ว)
ถ้าเช่นนี้ จะไปอ้างเป็นประโยชน์แก่ไร่ส้ม ได้อย่างไร?
การกระทำของไร่ส้ม สำเร็จไปในตัวเองแล้ว
ตรงกันข้าม ฝ่าย อสมท เอง ควรจะต้องถูกตรวจสอบดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ในฐานออกโฆษณาเกินเวลาที่ระเบียบว่าด้วยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2535 กำหนด โดยมีแรงจูงใจสำคัญ คือ เงินรางวัลนำเข้าโฆษณาส่วนเกิน
4. เช่นนี้แล้ว หากจะมีคดีไร่ส้มลอต 2 หรือไร่ส้ม ภาค 2
ก็น่าจะเป็นคดีในส่วนของเจ้าหน้าที่และผู้บริหาร อสมท โดยเฉพาะ
มิใช่ไปลบล้างคดีไร่ส้มอันเดิม
5. คดีไร่ส้มเดิมนั้น
มี น.ส.พิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรข่าวชื่อดัง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานบริษัทไร่ส้ม จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-4
ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น
จำคุก น.ส.พิชชาภา จำคุก 20 ปี
จำคุกนายสรยุทธ และน.ส.มณฑา คนละ 13 ปี4 เดือน (ฐานสนับสนุนการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ อสมท คือน.ส.พิชชาภา) และปรับบริษัทไร่ส้ม
โดยศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า นางพิชชาภา(จำเลยที่ 1) เป็นผู้ดำเนินการจัดทำคิว และทราบความเป็นไปของรายละเอียดการโฆษณามาตั้งแต่แรกเริ่ม เป็นสามัญสำนึกในหน้าที่จะต้องทำงานเพื่อประโยชน์ของรัฐ จะอ้างว่ามีช่องว่างทางการตรวจสอบไม่ได้ เมื่อการโฆษณากินส่วนต้องเสียค่าโฆษณา แต่กลับใช้น้ำยาลบคำผิดในใบคิวโฆษณาของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด (จำเลยที่ 2)แม้ข้ออ้างว่าทำไปเพราะตกใจกลัวจะต้องรับผิดก็เป็นข้ออ้างที่ไม่มีน้ำหนัก อุทธรณ์ของนางพิชชาภาฟังไม่ขึ้น
ส่วนนายสรยุทธ (จำเลยที่ 3) เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ซึ่งร่วมกระทำผิดกับนางพิชชาภา จึงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้ แม้บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และนายสรยุทธ จะอ้างว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลบรายการในใบคิวโฆษณาของนางพิชชาภา เห็นว่า นางพิชชาภา ให้การยอมรับเกี่ยวกับเหตุผลในการลบรายการในใบคิว และอ้างว่า ได้รับการร้องขอจากนายสรยุทธ ในขณะที่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และนายสรยุทธ กล่าวอ้างลอยๆ จึงไม่น่าเชื่อถือ
ส่วนคุณงามความดีของนายสรยุทธที่กล่าวอ้างนั้น เป็นเรื่องประวัติและความดีของนายสรยุทธ เป็นคนละส่วนกับพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิด ซึ่งศาลต้องพิเคราะห์ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏจากการไต่สวน
ข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังได้ว่า จำเลยทั้งสี่ กระทำความผิดหลายกรรมด้วยการมอบเช็ค 6 ฉบับตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสี่ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
ขณะนี้ คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกา
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี