หลายคนคงคิดเหมือนผม สำหรับปัญหาหมอกควันเกินค่ามาตรฐานในกรุงเทพมหานคร หรือเมืองใหญ่ๆ ในขณะนี้ที่ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการก่อสร้าง รวมทั้ง ปริมาณรถยนต์ประเภทใช้น้ำมันมากเกินไป ปล่อยอากาศเสียออกมามากตามจำนวนรถ หน้ากากอนามัยขายดี พอๆ กับเครื่องดูดฝุ่น
ก็ต้องให้กำลังใจ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ เราๆ ท่านๆ ในฐานะภาคประชาชนต้องให้ความร่วมมือภาครัฐ โดยเฉพาะการงดใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และหันมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชนไฟฟ้ามากขึ้น ฯลฯ เพราะอะไรก็ตามที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงาน ไม่ค่อยจะมีปัญหามลพิษตามมา
ซึ่งขณะนี้หลายฝ่าย ก็กำลังผลักดันไปสู่จุดดังกล่าว โดยเฉพาะการใช้รถยนต์ไฟฟ้า การห้ามรถเก่าเข้ากทม.บางคนเสนอถึงขั้นให้ปิดโรงงานอุตสาหกรรมลงบ้าง
เมื่อเร็วๆ นี้มีการจัดตั้ง “เครือข่ายพัฒนากำลังคนและความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านยานยนต์สมัยใหม่ และระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าของประเทศ” เพื่อร่วมกันสร้างระบบการผลิตและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ ทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติอย่างยั่งยืน รองรับแผนการลงทุน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยแลนด์ 4.0 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จ.ฉะเชิงเทรา
หลายองค์กรที่ไปร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.), กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์, สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฏิ์ ฉะเชิงเทรา, โรงเรียนดัดดรุณี ฉะเชิงเทรา, บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด, บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด
งานนี้แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลดปริมาณฝุ่นโดยตรง แต่มีผลพลอยได้ทางอ้อม ในการรักษาคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่ง ผมขอช่วยประชาสัมพันธ์และให้กำลังใจ ขอบคุณภาพประกอบและข้อมูลจาก สวทน. www.sti.or.th
โดยเฉพาะนายกิติพงค์ พร้อมวงค์ เลขาธิการ สวทน. ระบุว่าประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนากำลังคน ให้มีความเชี่ยวชาญมีความรู้ความสามารถ ในด้านเทคโนโลยีด้านยานยนต์สมัยใหม่ และระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าของประเทศ เพื่อวางรากฐานการพัฒนาอุตสาหกรรม เทคโนโลยีขั้นสูงแบบบูรณาการ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เลขาฯ สวทน.ยังระบุว่า ปัจจุบัน ภาคอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างจัดตั้ง เมืองอุตสาหกรรมใหม่ ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ภายใต้ชื่อ โครงการ “บลูเทค ซิตี้” (BlueTech City) ซึ่งเป็นจังหวัดภายใต้โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC นับเป็นทำเลที่เหมาะสมอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ การท่าเรือ และทางด่วน จึงมีศักยภาพด้านโลจิสติกส์สูงมากและเป็นพื้นที่เป้าหมายของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมกักเก็บพลังงานไฟฟ้า ตลอดจนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เมื่อมีแผนการลงทุนด้านทรัพย์สินและเทคโนโลยีแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ต้องเร่งพัฒนามากที่สุด คือ คน เพราะต้องเชื่อมโยงแผนพัฒนาการศึกษาอย่างเป็นระบบ ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
ส่วน นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ระบุว่า เรากำลังบุกเบิกและลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้า โดยจะนำเทคโนโลยีที่บริษัทคิดค้นขึ้นมาเอง ร่วมกับเทคโนโลยีของบริษัทย่อยที่ไต้หวัน นำมาขยายผลสร้างโรงงานในประเทศไทยและทยอยลงทุนในพื้นที่แล้ว
อีกทั้งจะนำเทคโนโลยี ที่มีอยู่มาถ่ายทอดสู่ระบบการศึกษา ให้มีความชำนาญเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีด้านยานยนต์สมัยใหม่ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้
ก่อนหน้านี้ ที่ได้ดำเนินการล่วงหน้าไปบ้างแล้ว อาทิ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ที่เปิดสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วในหลายจังหวัด เพื่อบริการประชาชน เพราะค่าไฟฟ้ามีราคาถูกกว่าน้ำมันหลายเท่าตัว ไม่มีมลพิษ
ครับก็ช่วยๆ กันทุกฝ่าย เพื่อผลักดัน เร่งรัดให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้มากกว่าเดิม อันเป็นการประหยัดพลังงาน ประหยัดเงินในกระเป๋า รวมทั้ง เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษไม่ต้องให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. หรือในชุมชนเมืองใหญ่ ต้องตามไล่ฉีดน้ำลดปริมาณฝุ่นเหมือนปัจจุบัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี