ผลการสำรวจความนิยมผู้นำต่างประเทศในระดับโลกในประเทศไทยหลายครั้ง ปรากฏว่าบางครั้งประธานาธิบดีปูตินได้รับความนิยมสูงสุด บางครั้งประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ได้รับความนิยมสูงสุด
แต่ทุกครั้งประธานาธิบดีทรัมป์ตกโหล่ติดบ๊วยเสมอ ซึ่งหมายความว่าประธานาธิบดีทรัมป์และการทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เป็นที่ต้องหูต้องตาต้องใจของผู้คน เหมือนกับที่มีความพยายามมากหลายที่จะระดมชาวอเมริกันออกมาต่อต้านขับไล่ประธานาธิบดีทรัมป์ให้ได้
และตลอดระยะเวลาร่วมสองปีที่ผ่านมา หากดูผิวเผินแล้วก็ประหนึ่งว่าประธานาธิบดีทรัมป์เป็นคนลักปิดลักเปิด ไม่อยู่กับร่องกับรอย และเที่ยวหาเรื่องอาละวาดกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไม่เว้น
แม้กระทั่งประเทศที่เป็นพันธมิตรของตัวเอง คนบางพวกถึงกับติเตียน
ว่าประธานาธิบดีทรัมป์เป็นคนบ้าๆ บอๆ
คิดผิด มองผิด และประเมินผิดทั้งนั้น เพราะประธานาธิบดีทรัมป์คนนี้นี่แหละที่ต้องนับว่าเป็นประธานาธิบดีที่ฉลาดล้ำลึก และพลิกแพลงที่สุดเท่าที่ประเทศสหรัฐเคยมีมา และประธานาธิบดีทรัมป์นี่แหละที่มาดำรงตำแหน่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สหรัฐอยู่ในวิกฤติมากที่สุดนับแต่ตั้งประเทศมา
และประธานาธิบดีทรัมป์นี่แหละที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำด้วยความเหนื่อยยาก ท่ามกลางอุปสรรคหนักหนาสาหัสไม่หยุดไม่หย่อน เพื่อนำพาประเทศสหรัฐอเมริกาให้ยืนยงคงอยู่ในฐานะที่เป็นมหาอำนาจลำดับหนึ่งของโลกต่อไปให้ได้
สหรัฐอเมริกานั้นก่อตั้งมาร่วม 300 ปี เคยเป็นมหาอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกในทุกด้านมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ประเทศสหรัฐและชาวอเมริกันเป็นดินแดนและชนชาติในฝันของคนเกือบทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทย
คนไทยถือสหรัฐและชาวอเมริกันเป็นมิตรที่ไว้วางใจมากที่สุดชาติหนึ่งในโลกและได้พึ่งพาอาศัยกันตลอดมา ถึงขนาดที่รัฐบาลอเมริกันชวนคนไทยไปรบราฆ่าฟันที่ไหนกี่ศึกกี่สงคราม ชาวไทยก็เต็มใจไปร่วมสู้ร่วมรบกับมิตรรายนี้โดยไม่เคยปฏิเสธหรือมีเงื่อนไขใดๆ
ผิดวิสัยจากชาติอื่นๆ หรือพฤติกรรมอื่นๆ ของคนเรา เพราะโดยทั่วไปนั้นหากจะชักชวนใครไปกินเลี้ยงก็ย่อมง่ายดาย แต่ถ้าจะชวนใครไปรบราฆ่าฟันกัน จะมีใครสักกี่คนที่จริงใจไปร่วมสู้ร่วมรบด้วย
ในโลกนี้ก็เห็นมีแต่ประเทศไทยและคนไทยเท่านั้นที่รักผูกพันจริงใจและทุ่มเทให้สหรัฐและชาวอเมริกันมาทุกยุคทุกสมัย และคงจะต้องดำรงไมตรีนี้ต่อไป ดังนั้นในสถานการณ์ที่ปั่นป่วนวุ่นวายอยู่ในอเมริกา จึงเป็นเรื่องที่ชาวไทยทั้งหลายควรจะได้ทำความเข้าใจสถานการณ์ให้ถูกต้อง
เพราะหากเข้าใจสถานการณ์ให้ดีแล้ว แทนที่จะติเตียนประธานาธิบดีทรัมป์ก็อาจจะต้องยกย่องสรรเสริญและสดุดี รวมทั้งอาจต้องเอาใจช่วยเพื่อให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่กำลังทำอยู่
ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจว่า ศูนย์กลางอำนาจของโลกที่แท้จริงนั้นคืออังกฤษ ซึ่งได้ใช้แสนยานุภาพของสหรัฐเป็นเครื่องมือในการจัดการเรื่องราวต่างๆ ในโลก ได้ใช้ฮอลลีวู้ดและสื่อต่างๆ เป็นเครื่องมือในการสร้างความนิยมชมชอบหรือความต่อต้านใดๆ ในเรื่องราวทั้งหลายของโลก และใช้สถาบันทางการเงินระดับโลกในการควบคุม กำกับ บังคับ กิจการการเงินการคลังของโลก รวมทั้งการสร้างมาตรฐานเลอะๆ เทอะๆ อีกมากมายเพื่อควบคุมโลกไว้ในอุ้งมือ
และแท้จริงนั้นในศูนย์กลางอำนาจของอังกฤษก็มีชาวไซออนิสต์ หรือชาวยิว ที่ชาญฉลาดที่สุดของโลกเกี่ยวข้องใกล้ชิดเป็นเนื้อเดียวกันอยู่ และคนเหล่านี้นอกจากเป็นเนื้อในศูนย์กลางอำนาจรัฐของอังกฤษแล้ว ก็ยังมีเครือข่ายควบคุมและกำหนด
ทุกสิ่งทุกอย่างของสหรัฐด้วย
ซึ่งไม่ได้เป็นความลับอะไรอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากสื่อมวลชนได้เปิดเผยเรื่องราวของ Deep State หรือผู้มีอำนาจหลังม่านการเมือง ซึ่งเป็นผู้ถืออำนาจตัวจริงในศูนย์กลางอำนาจรัฐของสหรัฐมาทุกยุคทุกสมัย
Deep State นี้ควบคุมกำกับดูแลกิจการสำคัญทั้งหมด ไม่ว่าด้านนิติบัญญัติ ด้านบริหารและด้านตุลาการ รวมทั้งการสร้างค่านิยมต่างๆ ในใจคน ดังนั้นใครจะได้รับการคัดเลือกเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีก็เป็นเรื่องที่ Deep State กำหนด
บัญชีรายชื่อคณะผู้บริหารอำนาจก็ถูกกำหนดโดย Deep State
สรรพนโยบาย แนวทาง ท่าที และจุดยืนต่างๆ ก็กำหนดโดย Deep State ทั้งสิ้น
ดังนั้นนอกจากการขี้เยี่ยวของกลไกอำนาจอันเป็นเรื่องธรรมชาติส่วนบุคคลแล้ว ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การกำกับสั่งการของ Deep State ทั้งสิ้น
และเพราะผลประโยชน์แท้จริงของ Deep State นั้นไม่ใช่ผลประโยชน์ของชาวอเมริกันหรือของสหรัฐ หากเป็นผลประโยชน์ของอิสราเอล และขบวนการอำนาจของอิสราเอล ดังนั้นสหรัฐและชาวอเมริกันจึงต้องแบกรับภาระเพื่อรับใช้ผลประโยชน์นี้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูและอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ประธานาธิบดีเคนเนดี้เริ่มต้นการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยให้พ้นจากอำนาจของ Deep State แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้และเสียชีวิต
หลังจากยุคสมัยของประธานาธิบดีเคนเนดี้แล้ว ก็เห็นมีแต่ประธานาธิบดีทรัมป์นี่แหละที่กล้าหาญชาญชัยคิดอ่านที่จะทำการบริหารบ้านเมืองให้เป็นประโยชน์สุขแก่ชาวอเมริกันและประเทศอเมริกา ดังนั้นจึงไปขัดกับผลประโยชน์สำคัญของ Deep State จึงเกิดสภาพยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายดังที่เห็นๆ กันอยู่
ประธานาธิบดีทรัมป์ย่อมรู้ดีว่าอำนาจของ Deep State นั้นกว้างขวางลึกซึ้งเด็ดขาดขนาดไหน ดังนั้นสิ่งใดสามารถคล้อยตามเออออห่อหมกด้วยกันได้ก็ยอมทำตามแต่โดยดี การอันใดที่จะเกิดความเสียหายใหญ่หลวงก็ดิ้นรนดื้อรั้นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาวอเมริกันและอเมริกา
คำขวัญของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ว่าอเมริกาต้องมาก่อนนั้น หลายคนตีความว่าต้องมาก่อนชาติใดๆ ในโลก แต่กลับไม่เฉลียวใจว่านี่คือการประกาศการปลดแอกจาก Deep State เพราะสามารถตีความได้ว่าต้องถือเอาผลประโยชน์แห่งชาติและชาวอเมริกันเป็นตัวตั้งและต้องมาก่อนผลประโยชน์ของชาติอื่น คือต้องมาก่อนผลประโยชน์ของ Deep State ด้วย
ดังนั้นในขณะที่จำต้องทำตามความต้องการของ Deep State แต่กรณีเรื่องใหญ่และสำคัญเพื่อความอยู่รอดของสหรัฐและชาวอเมริกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ก็จำเป็นต้องต่อสู้และงัดข้อด้วย ดังนั้นจึงเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งภายในที่เกิดขึ้นและขยายตัวไปอย่างกว้างขวางในสหรัฐ
ดูลีลาท่าทางที่เครือข่าย Deep State ต้องพ้นจากตำแหน่งกว่าสิบคนแล้ว ย่อมเป็นสัญญาณว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังได้รับชัยชนะ เว้นแต่จะตายเสียก่อน!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี