ภาพนี้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้พังงา สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 425 ฝ่ายปกครอง เมื่อต้นสัปดาห์ เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความสมบูรณ์ในพื้นที่ อ.กะปง จ.พังงา หลังจากถูกนายทุนบุกรุกใช้รถแบ๊กโฮทำถนนเข้าพื้นที่ป่า และยังมีการตัดโค่นไม้ขนาดใหญ่ล้มตายจำนวนมาก รวมเนื้อที่กว่า 100 ไร่
ก่อนหน้านี้ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี นำกำลังตำรวจ ทหารเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ม.9 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี หลังพบว่ามีการลักลอบตัดโค่นต้นไม้หวงห้ามไปจำนวนมาก ผลจากการตรวจสอบพื้นที่ในเบื้องต้น พบพื้นที่ถูกบุกรุกแผ้วถางตัดโค่นต้นไม้เป็นบริเวณกว้างจำนวนหลายไร่
ความเสียหายยากที่จะคำนวณเป็นเงินตราได้
โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานที่มีมากกว่าภาคใต้
ว่ากันว่า สถานการณ์ป่าไม้ในขณะนี้ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ป่า 102 ล้านไร่ หรือประมาณ 32% ของพื้นที่ประเทศไทยซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 323 ล้านไร่ แม้ตามหลักวิชาการของนานาประเทศจะต้องมีพื้นที่ป่า 40% ของพื้นที่ประเทศ ซึ่งถือว่าพื้นที่ป่าของประเทศไทยยังห่างจากตัวเลขนี้อยู่พอสมควร
รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคสช.ได้ใช้ยาแรงแล้ว ก็ยังมีคนรุกป่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ผมว่าต้องใช้ยาแรงมากกว่าเดิม เป็นห่วงแต่ว่าไม่รู้พรรคไหนจะเป็นรัฐบาล เพราะแต่ละพรรคมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาป่าเป็นไปในเชิงวิชาการมากเกินไป ก็เลยทำให้นึกถึง ดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ออกปฏิบัติการเมื่อปี 2555 ทวงคืนผืนป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ระดมเจ้าหน้าที่กว่า 4 พันนาย ลงพื้นที่รื้อถอนรีสอร์ท จำนวน 9 แห่ง รวมพื้นที่ 1,857 ไร่ โดยไม่ได้สนใจที่ถูกกดดันจากอิทธิพลรอบด้าน
เรียกว่าทั้งบู๊ทั้งบุ๋น!! ต้องแบบนี้ป่าเมืองไทยถึงจะอยู่รอดต่อไปให้ลูกหลาน
วันนี้ ดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงเล่นการเมืองเต็มตัว เป็นหัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย
ให้สัมภาษณ์วันก่อนว่า วันนี้การบุกรุกทำลายป่า การล่าสัตว์ การใช้สารเคมีเพื่อทำการเกษตร ยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่อง เช่น การใช้สารเคมีบนพื้นที่สูงป่า ดิน น้ำ ลำธาร โดยเฉพาะในภาคเหนือ เป็นจำนวนมาก โดยสารเคมีเหล่านั้นเมื่อใช้อย่างไม่ถูกวิธี เมื่อถึงฤดูฝน ฝนก็จะชะล้างสารพิษเหล่านี้ ลงสู่ต้นน้ำปิง วัง ยม น่าน ซึ่งไหลสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า สายน้ำเหล่านั้นปนเปื้อนขนาดไหน ซึ่งประชาชนที่อยู่ที่นั้นทุกคนใช้ประโยชน์จากน้ำเหล่านี้ และเป็นพิษต่อร่างกายของมนุษย์ ทำให้เกิดโรคต่างๆ เป็นจำนวนมาก พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย จะพยายามหาวิธีลดการใช้สารเคมีเหล่านี้บนพื้นที่สูง ต้นน้ำลำธารให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
ทั้งยังประกาศว่า ต้องยึดคืนผืนป่าที่อยู่ในมือนายทุน พร้อมทั้งดำเนินคดีกับนายทุนที่รุกป่าทุกกรณี, ป้องกันไม่ให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ป่าบุกรุกป่าเพิ่มขึ้น โดยจัดสรรที่อยู่และที่ทำกินให้เป็นหลักแหล่ง พร้อมทั้งส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำกิน, ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนร่วมในการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ
ข่าวว่าจะไปปักหมุดที่น่านเป็นจังหวัดแรกเพื่อทวงคืนผืนป่า
ลุยเลยครับ ข่าวคราวรุกป่าที่น่านและจังหวัดใกล้เคียง มีทุกสัปดาห์
พรรคการเมืองอื่น จะนำนโยบาย “ยาแรงสุดๆ” ไปแก้ไขปัญหารุกป่า ตามนโยบายพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ทาง ดำรงค์ พิเดช คงไม่สงวนลิขสิทธิ์ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสาธารณะโดยแท้ รวมทั้งการห้ามใช้ถุงพลาสติกที่ย่อยสลายไม่ได้นำมาเป็นเครื่องภาชนะใส่สินค้าทุกประเภทที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค
คิวต่อไปว่าจะเขียนเรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่นในกทม.ยังไม่รู้ว่า แต่ละพรรคมีนโยบายอย่างไร ผมเชื่อว่าคนกรุงเทพฯอยากรู้ครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี