ขอแสดงความยินดีกับสถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการจัดสัมมนาเรื่อง จับตานโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ : อยากเห็นอะไรใน 4 ปีข้างหน้า เป็นโอกาสที่ดีได้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน คือ ดร.ไกรยส ภัทรวาท คุณมนัส โกศล คุณชินชัย ชี้เจริญ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.ศุภชัย ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสถาบันฯ มาร่วมกันออกความเห็นโดยหวังว่า พรรคการเมืองจะนำไปพิจารณา
ผมได้รับเชิญไปแสดงความคิดเห็นด้วย โดยฝากประเด็นหลักๆ ในหลายด้าน ขอนำมาแบ่งปันให้กับผู้อ่าน
เรื่องแรก คือต้องมองความเป็นยุทธศาสตร์ของชาติสำคัญให้เท่ากับยุทธศาสตร์อื่นๆ ไม่ใช่เพียงแค่ร่างแผนของรัฐบาลหรือนโยบายการหาเสียง ผมใช้ Hr Architecture
โดยมองคนตั้งแต่เกิดไปถึงตาย แบ่งได้เป็น
✓ 0-8 ปี
✓ 8-25 ปี
✓ 25-40 ปี
✓ 40-60 ปี
✓ 60-ตาย
การมองเรื่องคุณภาพ ต้องเน้นทุกด้าน ไม่ใช่เน้นเรื่องสุขภาพอนามัยอย่างเดียว เรื่อง Macro คือการปรับตัวทางด้านเทคโนโลยีเรื่อง big data, AI
การปรับตัวด้านโครงสร้างประชากร เรื่องผู้สูงอายุ เรื่องสงครามการค้า ต้องมองคนในด้านเศรษฐกิจ, สังคม, ส่วนรวม และสิ่งแวดล้อมของนานาชาติ รวมทั้งเรื่องแรงงานต่างด้าวด้วยในรูป Hr Architecture
นอกจากนี้ยังมีเรื่องศาสนา และด้านสื่อซึ่งมีบทบาทอย่างสูงในเรื่องคน เพราะคนไม่ใช่แค่ปัจจัยการผลิตเพื่อตอบสนองการแข่งขันเท่านั้น
ผมหมายถึงการมีคุณธรรมจริยธรรม มีมาตรฐานที่ไปสู่มาตรฐานโลก และสุดท้าย ต้องเพื่อคนอื่นครับ (Empathy) คือเป็นพลเมืองดี มีจิตอาสา
และดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม ผมเป็นคนเดียวที่เสนอว่าให้มองเรื่องสื่อ เพราะปัจจุบัน คือมีทั้งดีและเสีย ถ้าสื่อทำดีเช่น สร้างค่านิยมเพื่อประเทศ โดยให้คนมีความซื่อสัตย์ไม่คดโกงประเทศก็ไปได้ดี แต่บางสื่อสร้างค่านิยมด้านวัตถุ โดยทำอะไร ที่ให้ได้มาโดยผิดกฎหมายและผิดจริยธรรม
ประเด็นที่ 2 การจะมองเรื่องคนต้องมองทั้ง Macro Micro คือพัฒนาและการบริหารจัดการคน และการชนะอุปสรรค (Execution) ที่เกิดขึ้น เพราะการพัฒนาคนต้องทำต่อเนื่อง พรรคการเมืองต้องมองไปไกลกว่า 4 ปี
คำถามคือเราจะหวังพรรคการเมือง ทำเรื่องคนอย่างต่อเนื่องได้อย่างไรเพราะถ้าพูดเป็นนามธรรมจะไม่ได้คะแนน พูดระยะยาวก็ไม่มีคะแนน ดังนั้นในอดีต จึงมีนโยบายเรื่องคน แต่สร้างปัญหาให้แก่ประเทศอย่างมาก เช่น ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ หรือจบปริญญาตรีค่าจ้าง 15,000 บาทต่อเดือน
ผมอยากเห็นนโยบายคนที่ยั่งยืนภายใต้วินัยการเงินที่จะทำให้นโยบายพรรคการเมืองสำเร็จได้
ประชาชนต้องมีส่วนร่วมโดยเฉพาะในระดับชุมชน ซึ่งผมเรียกว่า พลิกพีระมิด คือพัฒนาคนระดับล่างให้ช่วยตัวเอง ให้คนในชุมชนมีปัญญา มีการพัฒนาไปสู่มาตรฐานที่สูงขึ้นมีแบบอย่างที่ดีๆ กลายเป็นสโลแกนของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็เป็นความหวังของประเทศเรา ไม่แน่ใจว่าจะเป็นพรรคที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลหรือไม่ เพราะพรรคอื่นๆ จะเน้นเศรษฐกิจตัวเงินและรายได้ของคนในชนบท ให้มีการประกันรายได้ส่วนหนึ่ง แต่คนถ้าคนมีความสามารถ มีรายได้ที่แท้จริง
ผมยังเสนอให้ออกกฎหมายเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะงบประมาณ 90% คือ ให้คนอายุวัย 6-24 ปี การเรียนตลอดชีวิต ต้องเน้นที่อายุ 25-60 ขึ้นไป ควรมีกฎหมายที่จะงบประมาณสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต การประชุมครั้งนี้มีข้อดีคือ ยุคนายกฯประยุทธ์มีกองทุนการศึกษาเพื่อเด็กยากจนซึ่งดีมาก แต่มีทุนให้เด็กยากจนเรียนไม่พอ ต้องให้เด็กมีโอกาสเรียนโรงเรียนที่มีคุณภาพ
พรรคการเมืองมีการประกันรายได้ขั้นต่ำ ผมว่าน่าจะประกันความรู้ ที่สำคัญให้ปัญญา หรือเบ็ดตกปลา นำไปสร้างมูลค่าเพิ่มแบบ 3V เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
Value Added
Value Creation
Value Diversity
ผมเห็นพรรคประชาธิปัตย์เป็นความหวังเรื่องการพัฒนาคน กับชุมชน ขอให้ขยายไปให้เขาคิดไปด้วยกันในระหว่างพรรคการเมือง ข้าราชการ นักวิชาการและนักธุรกิจ โดยทำอย่างต่อเนื่อง เคยพูดไว้แล้วว่า Project MICE (Meetings, IncentiveTravel, Conventions, Exhibitions) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ การจัดนิทรรศการ กับชุมชนต้องไปด้วยกัน
อยากเห็นคนไทยเรียนรู้ตลอดชีวิต ปัจจุบันการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นคำพูดที่สวยหรู แต่ทำไม่ต่อเนื่อง ขาดงบประมาณจึงควรมีกฎหมายเรื่องนี้มากขึ้น
ผมจึงอยากเน้นการสร้างคนในชุมชนมีการคิดวิเคราะห์มีจิตวิญญาณผู้ประกอบการและเลือกอาชีพที่เคยทำโครงการดีๆ ค่อยใส่เงินเข้าไป น่าจะดีกว่าให้เงินก่อนให้ความรู้
ขอฝากนักการเมือง “ปัญญาก่อน และเงินจะตามมา”
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
ภาพบรรยากาศสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง จับตานโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ : อยากเห็นอะไรใน 4 ปี ข้างหน้า มีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมกันออกความเห็น คือ ดร.ไกรยส ภัทรวาท คุณมนัส โกศล คุณชินชัย ชี้เจริญ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.ศุภชัย ศรีสุชาติ จัดโดยสถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันพุธที่ 23 มกราคม 2562 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี