คงเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในขณะนี้ว่า บ้านเมืองของเรายังคงตกอยู่ในภาวะวิกฤติทุกด้านในขณะนี้ ต่อเนื่องกันมาในการบริหารทั้งจากนักการเมืองที่มีจากการเลือกตั้ง และจากการทำรัฐประหารของพวกทหาร ทุกอย่างวนอยู่ในวงจรเดิมๆที่เรียกกันว่า “วงจรอุบาทว์” คือ รัฐประหารแล้วเลือกตั้ง มีรัฐบาลบริหารประเทศ แล้วมีรัฐประหารยึดอำนาจกันอีก ตั้งรัฐบาลบริหารประเทศกันอีก เป็นวงจรอย่างนี้มากว่าแปดสิบปีของการเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศตั้งแต่ปี พ.ศ.2475
จะหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นี้ได้อย่างไร
ต้องรู้จักทางรอดที่ต้องเลือกตั้งแต่บัดนี้ ก่อนชาติล่มสลาย
ขบวนการสำคัญใหญ่ในบ้านเมืองเกี่ยวกับการบริหารปกครองนั้น มีอยู่ 2 ขบวนการ คือ ขบวนการทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และขบวนการเผด็จการ
ขบวนการในระบอบประชาธิปไตยนั้น เป็นขบวนการที่ประกอบด้วยพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง นักการเมือง ตลอดมวลชนที่เป็นสมาชิกหรือเดินตาม
ขบวนการในระบอบเผด็จการ คือขบวนการที่ประพฤติปฏิบัติตนในกรอบของอำนาจที่ไม่ได้มาตามระบอบประชาธิปไตย เป็นได้ทั้งที่ผ่านการเลือกตั้งหรือการรัฐประหาร ประพฤติปฏิบัติตนในการบริหารเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้องเป็นสำคัญ
ประเทศไทยของเราในขณะนี้ถูกครอบงำด้วยขบวนการเผด็จการเป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่มาจากระบอบเผด็จการทางรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง (ที่ไม่โปร่งใส) และที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ได้อำนาจไปใช้จากกระบอกปืน ในแต่ละยุคสมัยที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้
ความจริงแล้ว กองทัพก็สามารถสร้างประชาธิปไตยได้ ถ้าคนในกองทัพที่มีอำนาจจะคิดว่า กองทัพเป็นของชาติ ของประชาชนผู้เสียภาษี กองทัพไม่ใช่เป็นของตนและพรรคพวกในกองทัพ แต่เป็นกองทัพที่ยืนอยู่ข้างขบวนการประชาธิปไตย มีภารกิจในการสร้างประชาธิปไตยด้วย
การทำให้อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เป็นการปฏิบัติการที่สำคัญในการสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ไม่ใช่ให้อำนาจอธิปไตยไว้ในตัวหนังสือ โดยเฉพาะตัวหนังสือที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้เห็นอย่างจริงจัง
การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นว่าไปแล้วเป็นเพียงรูปแบบเท่านั้น แต่ไม่ใช่การสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงตามที่ต้องการ
ถ้าจะสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในบ้านเมืองและเพื่อให้พ้น “วงจรอุบาทว์” ดังกล่าวได้ มีผู้รู้ผู้ชำนาญการทางการเมืองให้ข้อคิดไว้ว่า ควรจะได้มีการทำงานตามขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้
“1 เป้าหมาย”
“2 ทำลาย”
“3 ไม่”
“4 ส่งเสริม”
“5 สร้าง”
“6 รักษา”
มีเนื้อหาที่สำคัญในแต่ละอย่างข้างต้นดังนี้
“1 เป้าหมาย” คือ การสถาปนาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้เกิดขึ้นได้จริงและสถาพรตลอดไป
“2 ทำลาย” คือ ทำลายการปกครองแบบเผด็จการ ทั้งเผด็จการรัฐสภา และเผด็จการทหาร
“3 ไม่” คือ “ไม่ฆ่า ไม่ด่า ไม่รับ” เป็นการปฏิบัติการที่เปลี่ยนมุมมองให้เกิดทัศนะที่ดี ระหว่างผู้ขัดแย้งและกลุ่มต่างๆ เพื่อสร้างความสามัคคีทางการเมือง
“4 ส่งเสริม” คือ ส่งเสริมการกระจายความคิด หรือติดอาวุธทางปัญญาทางประชาธิปไตยแก่ประชาชน ส่งเสริมการกระจายธรรม สร้างธัมมะในจิตใจผู้คน
“5 สร้าง” คือ สร้างอำนาจอธิปไตยของปวงชนให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในทางปฏิบัติ ไม่ใช่เฉพาะแค่เขียนไว้เป็นตัวหนังสือ สร้างเสรีภาพของบุคคล สร้างความเสมอภาค สร้างกฎหมายภายใต้หลักนิติธรรม สร้างการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง
“6 รักษา” คือ การรักษาประชาธิปไตยด้วยรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในหัวข้อนี้ชี้ให้เห็นว่า การสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นก่อนให้ได้เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่สร้างรัฐธรรมนูญกันขึ้นมาก่อนการสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นได้ก่อนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้แล้ว การสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นนั้น ต้อง “รู้ประชาธิปไตย รู้ผู้สร้างประชาธิปไตย รู้เครื่องมือสร้างประชาธิปไตย และรู้เครื่องมือรักษาประชาธิปไตย” ซึ่งทั้งห้าอย่างดังกล่าวเป็นองค์ประกอบสำคัญของการสร้างประชาธิปไตย
รู้ประชาธิปไตย คือ รู้วิธีการของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
รู้ผู้สร้างประชาธิปไตย โดยเฉพาะสถาบันพรรคการเมือง สถาบันในระบบราชการ และสถาบันพระมหากษัตริย์
รู้เครื่องมือสร้างประชาธิปไตย คือการจัดทำนโยบาย
รู้เครื่องมือรักษาประชาธิปไตย คือรัฐธรรมนูญ
ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือทางรอดที่ต้องเลือก ก่อนชาติจะล่มสลาย จาก “วงจรอุบาทว์” ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดมาในบ้านเมืองของเรา ลองนำไปคิดกันดูบ้าง โดยเฉพาะพวกถืออำนาจด้วยกระบอกปืนในขณะนี้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี