ช่วงสัปดาห์ก่อน บช.น. ได้แถลงข่าว ชุดสืบสวน สน.สามเสน จับกุม 2 คนร้ายก่อเหตุลักพาตัวอดีตครู รร.หอวัง มีศักดิ์เป็นป้าของ 1 ในจำนวนคนร้ายแล้วรีดไถเงิน จำนวน 3 ล้านบาท โดยใช้อุบายอาสารับไปทำธุรกรรมที่ศูนย์ราชการ ก่อนที่เรื่องจะถึงหูตำรวจถูกปล่อยไว้ย่านสามโคก จ.ปทุมธานี สาเหตุโกรธเคืองที่ผู้เสียหายไม่ให้ยืมเงิน จนสืบสวนจับกุมได้บริเวณถนนสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี
ไม่ยากและไม่ง่ายเกินไปสำหรับปิดคดี โดยมีแกนหลักอย่าง พ.ต.ท.ธนพรหม ธนอาภากร สว.สส.สน.สามเสน ที่ใช้ความอดทน ขยัน ประสบการณ์และสำคัญคือทีมงานนักสืบ เขาถือปฏิบัติตามกรอบ กฎหมาย ควบคู่ คุณธรรม คอยพร่ำสอนลูกน้องเพื่อให้เกิด สติ เนื่องจากการทำงานปัจจุบันถูกจับตาโดย Social ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อาจจะกลายเป็น ผู้ต้องหา เสียเอง ซึ่งควรรอบคอบและระวัง
พ.ต.ท.ธนพรหม เริ่มทำงานปี 2529 เป็นชั้นประทวน จราจร สน.บุคคโล ระหว่างนั้นจบนิติศาสตร์ จุฬาฯ ต่อด้วย ป.โท รัฐประศาสนศาสตร์ ม.สยาม แล้วสอบขึ้น ร.ต.ต. เป็น รอง สวป.สน.บุปผาราม ช่วยราชการ รอง สว.สส.สน.บุคคโล ช่วยราชการ รอง สว.สส.สน.ตลาดพลู รอง สว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ รอง สว.สส.สน.บางรัก สวป.สน.ปากคลองสาน ช่วยราชการ กก.สส.บก.น.8 และ สว.สส.สน.สามเสน
“งานสืบสวนผมว่าเป็นงานที่ท้าทาย และใช้องค์ความรู้ของวิชาชีพตำรวจเยอะมาก เราอยู่กลางความขัดแย้งของผู้เสียหายและผู้ต้องหา บางทีลำบากเพราะเป็นงานเฉพาะหน้า” สว.สืบสามเสน กล่าว
สว.ก้อง เปิดเผยว่า ถ้าเราผ่านงานตรงนี้ได้ต่อไปจะอยู่ สน.ไหนก็ได้ ที่นี้ยอมรับงานเยอะและมีภารกิจหลักคือ การถวายความปลอดภัย แล้วหน้าที่ของตำรวจที่รับผิดชอบประชาชน ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เราทำควบคู่กันไปอาจจะหนักกว่า สน.อื่น เช่นเดียวกับ สน.ดุสิต สน.นางเลิ้ง และ สน.ชนะสงคราม รู้สึกภูมิใจส่วนจับกุมคุมขังเป็น Basic ของตำรวจอยู่แล้ว
หลักการของตนคือ win-win เวลาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้เสียหายและผู้ต้องหา พยายามทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกพอใจตน เป็นโจทย์ที่ยากมากเพราะทุกคนเดือดร้อน โดยอธิบายผู้เสียหายว่าผู้ต้องหาทำเพราะอะไร เป็นอย่างไรบ้างจากการถูกกระทำ ส่วนผู้ต้องหาจะบอกว่ารู้ไหมทำให้คนอื่นเดือดร้อน เมื่อต่างฝ่ายต่างเข้าใจความขัดแย้งจะน้อยลง ผู้เสียหายเองพอใจที่ผู้ต้องหายอมรับผิด
“ผมใช้จิตวิทยาและสอดแทรกธรรมะ เข้ามาประกอบกับการทำงานตลอดเวลา ถ้าเราทำอะไรแล้วมีคุณธรรมและศีลธรรม ผมว่าควรทำต่อไปและผมไม่กลัวถ้าใครไม่พอใจ แต่ส่วนน้อยที่จะไม่พอใจการทำงานของผม กับลูกน้องผมจะอธิบายให้เขาฟังว่า ทำต่อไปเพราะมันคือหน้าที่ของเรา”
นักสืบธรรมะ กล่าวต่อว่า งานสืบสวนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก เริ่มแรกงานเอกสารจะน้อยสมัยก่อนนักสืบ พอคดีเกิดตามจับเสร็จแล้วส่งพนักงานสอบสวน พยานหลักฐานส่วนใหญ่จะมาหากันทีหลัง ปัจจุบันก่อนจะจับใครต้องไปหาพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อมัดผู้กระทำความผิดแล้วกลับมาหาเพิ่มเติม ฉะนั้นตำรวจต้องทำงานรอบคอบมากกว่าเดิม ทั้งเรื่องกฎหมายและอะไรหลายๆ อย่าง
โดยเฉพาะสื่อ Social มีผลกับการทำงานของตำรวจเสมือน ดาบสองคม ถ้าเกิดคนมองดีจะก่อให้เกิดประโยชน์ได้ หรือถ้าแต่งนิดเดียวแล้วข้อเท็จจริงบิดเบือน มีผลกระทบต่อตำรวจเราแน่นอน จริงแล้วเชื่อว่าตำรวจทุกคนตั้งใจทำงาน แต่การทำงานจะเดินตามเส้นทางเลยไม่ได้ มิเช่นนั้นเราตามจับคนร้ายไม่ทัน อาจจะ Zigzag บ้างแต่ควรอยู่ในกรอบของกฎหมาย ถ้าดูแล้วออกนอกกรอบ
ให้ถอยหลังมา
“เมื่อยุค Social เข้ามาบางคนถ้าไม่มีสติ หรือไม่มีสมาธิก็จะหลุดได้ สำหรับตนก่อนออกไปทำงานจะคิดก่อน เส้นทางของเรา เรารู้อยู่แล้ว วันนี้จับคนร้ายไม่ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จับได้เพราะยึดหลักกฎหมายหลายคนจะนึกถึงผมในฐานะสายธรรมะ ผมส่งธรรมะให้ลูกน้องในไลน์ทุกวัน อย่างน้อยๆ เขาไม่ตอบแต่ก็เห็นพระ ด้วยจิตวิญญาณชาวพุทธเมื่อเห็นพระจะมีสติ เพื่อให้เขาออกไปทำงานโดยปลอดภัย”
สามเสน 4-1 ชาว จ.ลพบุรี กล่าวด้วยว่า การเป็นนักสืบต้องตื่นตัวและตื่นรู้ตลอดเวลา ถ้าเรามัวเป็นนักสืบและยึดแบบเดิมๆ หรือ นั่งเทียน มันไม่ได้ ต้องเข้าไปดูที่เกิดเหตุแล้วสัมผัสของจริง จึงจะสามารถคลี่คลายคดีต่างๆ ได้ นักสืบสมัยก่อนที่เห็นมักจะสันนิษฐานไปก่อนคำว่านักสืบในความหมายของตนคือ 1.รวดเร็ว 2.ใช้สมองคิดและวิเคราะห์ 3.ตามคนร้ายให้ทัน และ 4.รอบรู้เรื่องข้อกฎหมาย
เวลาตนเรียกประชุมจะบอกให้ รอง สว.อีกคน อธิบายข้อกฎหมายทั้งแบบใหม่ และที่ใช้กันอยู่ประจำให้ทีมงานฟังว่า ตำรวจสามารถจับได้กี่กรณี มีอำนาจจับได้แค่ไหน สิทธิ์และหน้าที่ตำรวจมีอะไรบ้าง เพราะถ้าเราไปจับแล้วไม่รู้กฎหมาย เราอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง ถามว่าจุดแข็งของสืบสามเสนคืออะไร ตนมั่นใจว่าสืบสามเสนเก่ง ขยัน คดีใหญ่ๆ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เราจะปิดได้ทุกคดี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี