นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด ที่ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับคู่ปรปักษ์เก่าคือนายอันวาร์ อิบราฮิม ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างพลิกล็อกแบบถล่มทลาย แม้ว่าต้องเผชิญกับการใช้อำนาจขัดขวางในทุกรูปแบบจากอำนาจรัฐเก่าของนายนาจิบ และได้จัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นปกครองมาเลเซียอยู่ในทุกวันนี้
นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด และนายอันวาร์ อิบราฮิม แม้เป็นคู่ปรปักษ์เก่าที่ต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายจนกระทั่งติดคุกติดตะรางกันไปข้างหนึ่ง กลับมาเป็นพันธมิตรกันได้ไม่ใช่เพราะการย้ายพรรคแบบเมืองสาระขัน และไม่ใช่เพราะการซูเอี๋ยกันในเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองเหมือนกับนักการเมืองเส็งเคร็งของเมืองสารขัณฑ์
การที่คู่ปรปักษ์นี้กลับมาเป็นพันธมิตรกันได้เพราะเรื่องศาสนาโดยแท้ เนื่องจากประเทศมาเลเซียเป็นพื้นที่ที่ชาวมุสลิมนับถือนิกายซุนหนี่ นิกายย่อยชาฟาอี และกำลังถูกรัฐบาลนายนาจิบพยายามจะเปลี่ยนแปลงขยายบทบาทของนิกายวาฮาบี โดยการสนับสนุนของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถ้าหากเป็นไปเช่นนั้น อีกไม่นานประเทศมาเลเซียก็จะกลายเป็นมุสลิมวาฮาบี
ดังนั้นคู่ปรปักษ์คู่นี้ซึ่งมุ่งหมายที่จะพิทักษ์นิกายซุนหนี่ นิกายย่อยชาฟาอีไว้ในมาเลเซีย จึงได้มาร่วมแรงร่วมใจจับมือกันเป็นพันธมิตร เพื่อโค่นอำนาจนายนาจิบเสียก่อนจึงจะพิทักษ์รักษานิกายซุนหนี่ นิกายย่อยวาฮาบีไว้ได้
และเนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ของมาเลเซียยังเป็นมุสลิมนิกายซุนหนี่ นิกายย่อยชาฟาอี ประกอบทั้งได้เห็นการคอร์รัปชั่นครั้งมโหฬารในรัฐบาลของนายนาจิบ จึงพร้อมใจกันสนับสนุนให้นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด ได้กลับคืนสู่อำนาจ โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม เป็นหุ้นส่วนแห่งอำนาจนี้
และเมื่อรัฐบาลนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด ได้จัดตั้งขึ้นแล้วก็ได้แต่งตั้งบุคคลสำคัญเข้าดำรงตำแหน่งสำคัญสองรายการ คือ
ตั้งนักการเมืองมุสลิมนิกายชีอะห์ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สถาปนามาเลเซีย และตั้งให้นักการเมืองเชื้อสายจีนซึ่งเคยมีสายสัมพันธ์อันดีกับพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ต้องถือว่านี่คือแบบอย่างสำคัญของการปรองดองสมานฉันท์ของนักการเมืองสองฝ่าย ที่เป็นปรปักษ์ต่อกันมาอย่างรุนแรง โดยถือเอาผลประโยชน์ของประเทศและชาวมุสลิมในประเทศนั้นเป็นที่ตั้ง
หลังจากได้จัดตั้งรัฐบาลแล้ว รัฐบาลนายมหาเธร์โมฮัมหมัด ก็ได้ปราบปรามการคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย โดยการจับกุมอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบพร้อมทั้งภรรยา พร้อมทั้งได้เข้าตรวจสอบยึดทรัพย์สินของนายนาจิบจำนวนมหาศาล และด้วยทรัพย์สินมหาศาลนี้ไม่ต้องเถียงกันอีกแล้วว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการโกงชาติโกงประชาชนหรือไม่
จากนั้นพอเริ่มตั้งหลักรัฐบาลได้ รัฐบาลของมาเลเซียก็ได้ดำเนินการสิ่งที่โลกไม่คาดคิดมาก่อน นั่นคือการยกเลิกเพิกถอนความร่วมมือกับซาอุดีอาระเบีย และการดำเนินนโยบายสนับสนุนวาฮาบีเสียทั้งสิ้น
รัฐบาลมาเลเซียได้สั่งถอนทหารที่เคยส่งไปช่วยซาอุดีอาระเบียรบกับรัฐบาลของประเทศเยเมนกลับคืนประเทศทันที รวมทั้งได้ยกเลิกเพิกถอนข้อตกลงเกือบทั้งหมดที่รัฐบาลนายนาจิบเคยกระทำกับซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งตัดสายสัมพันธ์ที่รัฐบาลมาเลเซียเคยส่งเสริมร่วมมือกับซาอุดีอาระเบีย จึงทำให้กระทบต่อการขยายบทบาทและอิทธิพลของนิกายวาฮาบีในมาเลเซียอย่างรุนแรง
รัฐบาลมาเลเซียได้ทุ่มเทการสนับสนุนและฟื้นฟูให้นิกายซุนหนี่ นิกายย่อยชาฟาอี รุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ไม่เพียงแต่เท่านั้น รัฐบาลมาเลเซียทราบดีว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้หาได้เกี่ยวข้องเฉพาะประเทศซาอุดีอาระเบียประเทศเดียวไม่ แต่ยังมีประเทศอิสราเอลที่เป็นแม่งานสำคัญ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้เขียนบทสำคัญก็ได้
ดังนั้นนับตั้งแต่กลับคืนสู่อำนาจนายกรัฐมนตรีนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด จึงแสดงตนเป็นไม้เบื่อไม้เมาและแสดงความเป็นปรปักษ์กับอิสราเอลอย่างโจ่งแจ้ง ถึงขนาดห้ามนักกีฬาชาวอิสราเอลเข้าประเทศ และได้แสดงท่าทีระหว่างประเทศชนิดไม่ยำเกรงกันเลยแม้แต่น้อย
การขับเคลื่อนฟื้นฟูนิกายซุนหนี่ นิกายย่อยชาฟาอีของมาเลเซีย จึงสร้างความไม่พอใจให้กับเครือข่ายนิกายวาฮาบีอย่างรุนแรง และเป็นเหตุให้มีการหยิบยกเอาประเด็นทางศาสนาขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อย่างสำคัญด้วย
ล่าสุด ก็ได้มีการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาลนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด ให้เปลี่ยนระบอบการปกครองของประเทศให้เป็นรัฐอิสลาม ซึ่งเป็นอุดมการณ์โดยตรงของพวกไอซิส ดังที่เคยปรากฏชัดเจนมาแล้วในอิรักและซีเรีย
การเปิดฉากรุกทางการเมืองและศาสนาของมุสลิมวาฮาบีต่อรัฐบาลมาเลเซียในครั้งนี้ต้องถือว่าเป็นเรื่องเปิดหน้าชกกันอย่างชัดแจ้ง
ดังนั้นจึงต้องจับตาดูท่าทีและการรับมือของรัฐบาลมาเลเซียที่มีนายนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด และนายอันวาร์ อิบราฮิม เป็นศูนย์กลางการนำต่อไป
และควรจับตาดูการสนับสนุนการเจรจาระหว่างขบวนการมาราปาตานีกับผู้แทนหน่วยงานความมั่นคงของประเทศไทย ซึ่งเริ่มขึ้นโดยการสนับสนุนของรัฐบาลนายนาจิบในอดีตว่าจะเป็นไปอย่างไรต่อไป?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี