หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมีการจัดตั้งสันนิบาตชาติขึ้นโดยมุ่งหวังว่าจะสามารถคุ้มครองป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งใหม่ขึ้นมาอีก แต่ในที่สุดสันนิบาตชาติก็ได้กลายเป็นองค์กรสากกะเบือ คือไม่มีใครเชื่อถือรับฟัง ประเทศต่างๆ พากันบิดเบี้ยวไม่ปฏิบัติตามพันธะแห่งสมาชิก
ในที่สุดก็เกิดเป็นสงครามโลกครั้งที่สองขึ้น ผู้คนบาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ คนทั้งหลายจึงหวังว่าจะไม่เกิดสงครามโลกครั้งที่สามขึ้นอีก
สหประชาชาติเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นหลังจากความล้มเหลวของสันนิบาตชาติแล้ว แต่วัตถุประสงค์ก็ไม่ต่างกัน คือเพื่อเป็นองค์กรที่จะวางระบบระเบียบสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างศานติของบรรดาประเทศทั้งหลาย รวมทั้งการระงับยับยั้งปัญหาที่อาจจะนำไปสู่สงครามในระดับต่างๆ
แต่พอนานวันเข้าฐานะและการดำรงอยู่ของสหประชาชาติก็เดินหนทางซ้ำรอยเดิมของสันนิบาตชาติ เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรในโลกนี้ได้ ต่างคนต่างทำตามอำเภอใจของตนเอง โดยเฉพาะชาติมหาอำนาจที่มีแสนยานุภาพหรือเครือข่ายต่างๆ ที่จะทำให้ประเทศต่างๆ ตกอยู่ภายใต้อาณัติของตน ซึ่งขั้วแห่งอำนาจก็ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
นั่นคือหลังจากการล่มสลายของโซเวียตแล้ว สหรัฐก็ได้กลายเป็นมหาอำนาจขั้วเดียวขั้วหลักของโลกมาเป็นเวลายาวนาน และในที่สุดโลกก็บังเกิดขั้วอำนาจขึ้นหลายขั้ว และต่างก็ไม่ยอมให้ขั้วอื่นบงการโลกอีกต่อไป
โดยเฉพาะคือการเกิดขึ้นขององค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ ที่บรรดาประเทศต่างๆ ที่เคยหลาบจำกับการกดดันหรือข่มเหงบังคับของสหรัฐได้ก่อตัวและรวมตัวกันขึ้นโดยลำดับ จนกลายเป็นองค์กรใหญ่ที่มีอานุภาพและศักยภาพไม่ต่างกับขั้วของนาโต ซึ่งมีสหรัฐเป็นแกนหลักในด้านแสนยานุภาพโดยมีอังกฤษและอิสราเอลเป็นศูนย์กลางแห่งนโยบาย
ประเทศต่างๆ ที่เคยถูกข่มเหง ถูกกดัน ถูกแทรกแซง หรือถูกแซงก์ชั่นด้วยประการต่างๆ ได้ค่อยๆ เรียนรู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการล่าอาณานิคมแผนใหม่ ดังนั้นจึงต่างหาทางรวมตัวกันและก่อเกิดเป็นองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีจีน รัสเซีย อิหร่าน อินเดีย เกาหลีเหนือ และอีกหลายประเทศร่วมกันเป็นสมาชิก
การเผชิญหน้ากันระหว่างค่ายนาโตกับค่ายองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ที่ชัดเจนที่สุดก็คือกรณีของอิรัก ซีเรีย ที่เดิมทีนั้นฝ่ายนาโต้ได้สร้างขบวนการก่อการร้ายไอซิสขึ้น แล้วส่งเข้าไปก่อความไม่สงบและยึดครองพื้นที่ในสองประเทศนั้น และใช้เป็นข้ออ้างของกลุ่มนาโตในการยึดครองทั้งสองประเทศนี้ โดยอ้างว่าเพื่อเข้าไปช่วยปราบไอซิส
ในที่สุดความจริงก็ถูกแฉกลางเวทีประชุมใหญ่ของสหประชาชาติ ว่า ขบวนการก่อการร้ายไอซิสนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แต่เป็นการจัดตั้งขึ้นของเครือข่ายนาโต เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการส่งกำลังเข้าไปยึดครองประเทศต่างๆ อ้างว่าเพื่อช่วยปราบไอซิส โดยความจริงไม่ได้ปราบไอซิส แต่เพื่อยึดครองและแสวงหาประโยชน์จากประเทศที่เข้าไปยึดครองนั้น
กลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ได้ผนึกกำลังกันไม่ยอมรับแผนการจัดตั้งรัฐอิสลามของไอซิสในอิรักและซีเรีย และได้เข้าช่วยเหลือรัฐบาลซีเรียและอิรักในการปราบปรามกวาดล้างไอซิสและประสบความสำเร็จ สามารถขับไล่ไอซิสออกจากพื้นที่ได้เกือบหมดสิ้น และสามารถใช้อำนาจปกครองทั้งในอิรักและซีเรียได้ตามปกติเกือบทั่วทั้งประเทศแล้ว
ในระหว่างเกิดกรณีพิพาทดังกล่าวนั้น สหรัฐก็ได้แซงก์ชั่นโดยลำพังต่อประเทศต่างๆ หลายประเทศ และชักชวนให้ประเทศที่เป็นพันธมิตรช่วยแซงก์ชั่นหรือร่วมมือกดดันประเทศที่ถูกสหรัฐแซงก์ชั่นด้วย
ล่าสุดก็มาถึงประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นประเทศที่มีทรัพยากรน้ำมันมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลกและตกเป็นเป้าหมายของการยึดครอง เพื่อยึดเอาทรัพยากรนี้รวมทั้งเงินสำรองหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ได้ฝากไว้ที่อังกฤษด้วย
ประเทศเวเนซุเอลาเมื่อครั้งที่เดินตามก้นประเทศตะวันตกได้ดำเนินนโยบายประชานิยม จนชาติล่มจมประชาชนล้มละลายทั้งประเทศ จึงเกิดวีรชนขึ้นนำการต่อสู้ของประชาชนและได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง และสืบทอดต่อมาจนกระทั่งถึงประธานาธิบดีมาดูโรในปัจจุบันนี้
ประธานาธิบดีมาดูโรได้การเลือกตั้งและได้รับชัยชนะท่วมท้นถล่มทลายแต่ไม่เป็นที่ถูกใจของสหรัฐ ได้กล่าวหาว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งถ้ากล่าวหาอย่างเดียวก็ไม่เป็นไร
แต่ในที่สุดสหรัฐก็สนับสนุนให้เกิดการรัฐประหารขึ้นในเวเนซุเอลา เพื่อจะนำเอาหัวหน้าฝ่ายค้านคนหนึ่งเป็นประธานาธิบดีแทนแต่โชคไม่เข้าข้าง รัฐบาลเวเนซุเอลาได้รับการช่วยเหลือทางข่าวกรองจากรัสเซีย เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตุรกีและฟิลิปปินส์
ดังนั้นรัฐบาลเวเนซุเอลาจึงปราบปรามการรัฐประหารได้อย่างรวดเร็วแค่พริบตาเดียว ซึ่งเรื่องควรจะจบไปแล้ว เพราะคนที่ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีจากการรัฐประหารนั้นได้หลบหนีเข้าไปอยู่ในสถานทูตบางประเทศ แต่กลับได้รับการรับรองจากสหรัฐว่าเป็นประธานาธิบดีตัวจริง
สหรัฐได้ประกาศแซงก์ชั่นเวเนซุเอลาอย่างรุนแรง ในขณะที่อังกฤษก็ได้ประกาศยึดทองคำจำนวนมากที่เวเนซุเอลาฝากไว้ และมีการชักชวนให้ประเทศอียูหลายประเทศร่วมรับรองหัวหน้าฝ่ายค้านที่สหรัฐรับรองด้วย แต่ประเทศอิตาลีและอีกหลายประเทศในโลกนี้ไม่เอาด้วย
ที่สำคัญคือประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ได้ประกาศให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลเวเนซุเอลาอย่างเต็มที่
สหประชาชาติก็ได้ประกาศรับรองรัฐบาลของนายมาดูโรเช่นเดียวกัน แต่ในอีกด้านหนึ่งสหรัฐและพันธมิตรไม่ปฏิบัติตามมติสหประชาชาติ หันไปรับรองหัวหน้าฝ่ายค้านอยู่เหมือนเดิม
เมื่อเป็นเช่นนี้สหประชาชาติจึงกำลังเดินหนทางเดียวกันกับสันนิบาตชาติ และนี่ก็คือสัญญาณหมายของการเริ่มต้นวิกฤติสงครามโลกครั้งที่สามนั่นเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี