มีคำถามในหมู่คนผู้สนใจการเมืองไทยเสมอๆ ว่าการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 พรรคการเมืองใดจะได้คะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง
คำตอบของคำถามนี้มีความสำคัญมาก เพราะพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งย่อมจะมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลได้ก่อนพรรคที่ได้คะแนนตามมาในลำดับต่อๆ ไป แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าพรรคที่ได้อันดับสอง หรืออันดับสาม จะไม่มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล เพราะถ้าหากพรรคอื่นๆ สามารถจับมือทางการเมืองร่วมกับพรรคที่ได้คะแนนอันดับสองหรือสาม ก็หมายความว่าพรรคเหล่านั้นย่อมมีสิทธิรวมตัวเป็นพรรคผสมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้
คำถามต่อมาคือ แล้วพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ถูกมอง และถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่าเป็นพรรคของรัฐบาลคสช. หรือเป็นพรรคที่มีคสช. ให้การสนับสนุน จะได้คะแนนจากการเลือกตั้งครั้งหน้าในอันดับที่เท่าไร ตั้งแต่อันดับหนึ่ง อันดับสอง หรืออันดับสาม
แต่ถ้าหากพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนเลือกตั้งครั้งหน้าต่ำกว่าอันดับสามแล้วละก็ ต้องบอกตรงๆ ว่าอนาคตทางการเมืองของหัวหน้าคสช. ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีดูจะเป็นเรื่องที่เลือนลางมากที่สุด แต่ก็มิได้หมายความว่าหัวหน้าคสช. จะไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อีก เพราะถ้าหากพรรคอันดับสอง อันดับสาม และพรรค ขนาดกลาง รวมถึงพรรคเล็กๆ สามารถจับมือร่วมกันลงฉันทามติให้หัวหน้าคสช. เป็นนายกรัฐมนตรี ก็หมายความว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปก็น่าจะยังคงเป็นหัวหน้าคสช.
ปัญหาสำคัญของเรื่องนี้น่าจะอยู่ตรงที่ว่าหัวหน้าคสช. ต้องการและเต็มใจจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปหรือไม่ เพราะการเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มีสถานภาพเป็นหัวหน้าคสช. ย่อมทำงานการเมืองได้ยากลำบากกว่าการมีตำแหน่งหัวหน้าคสช. เป็นเครื่องค้ำจุนหลายสิบหลายร้อยเท่า เพราะ สส. ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านจะไม่มีวันไว้หน้านายกรัฐมนตรีเป็นอันขาด ส่วน สส. ในสังกัดพรรคร่วมรัฐบาลที่มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งไม่ได้รับจ้างยกมือในสภาเพื่อแลกกับเศษเงินก็คงจะไม่ยอมก้มหน้าก้มตายกมือเชียร์ เชลียร์หัวหน้าฝ่ายบริหารโดยไม่ลืมหูลืมตา เหมือนกับ สส. จำพวกขี้ข้านายทุนพรรค
ขอย้ำคำถามเดิมคือ พรรคพลังประชารัฐจะได้คะแนนจากการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นอันดับที่เท่าไร คำตอบสุดท้ายในเรื่องนี้อยู่ที่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายในวันลงคะแนนเสียงของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส่วนคำตอบที่ยังไม่สามารถฟันธงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ซึ่งมาจากบรรดาสำนักโพลล์ต่างๆ ก็คงจะเป็นแค่เพียงข้อมูลประกอบการพิจารณา แต่ข้อมูลดังกล่าวนั้นก็ไม่สามารถเชื่อถือได้ในทุกกรณี เพราะบางสำนักก็ทำโพลล์ด้วยความอคติ ส่วนจะเป็นอคติด้วยความรักหรือความชัง ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการทำโพลล์
คำถามดูจะวกวนยอกย้อนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคำถามที่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้คะแนนจากการเลือกตั้งในอันดับที่เท่าไร ระหว่างหนึ่ง สอง หรือสาม ถ้าพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนอันดับหนึ่ง ก็มั่นใจได้ล้านเปอร์เซ็นต์ว่านายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นหัวหน้าคสช. แต่ถ้าคะแนนน้อยกว่าอันดับสองแล้วละก็ คสช. ทั้งคณะคงเกิดอาการกระอักกระอ่วน และอาจจะถึงขั้นทุรนทุราย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี