เต็มไปด้วยสาระและข้อเท็จจริงคือหนังสือพิมพ์แนวหน้า ทุกบรรทัดตรงไปตรงมา...nn ขณะนี้สถานการณ์การเมืองกำลังอยู่ในช่วงฝุ่นตลบ เพราะเพิ่งผ่านพ้นการสมัครผู้ที่มาอาสาเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนทั้งในระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อไปในช่วงวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ...
nn แต่ทั้งนี้ ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) ก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนไทยในการใช้ชีวิต โดยถึงแม้ว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีการแก้ไขปัญหาจนคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ในต่างจังหวัดกลับมีสภาวะที่น่าเป็นห่วง !!!!...
nn โดยเฉพาะที่ จ.ขอนแก่น ดัชนีคุณภาพอากาศฝุ่น PM2.5 ขยับพุ่งทะลุ 100 มคก./ลบ.ม. จนชาวบ้านเริ่มมีอาการแสบตาแสบจมูก ทำให้ สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าฯ ขอนแก่น พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังออกฉีดพ่นน้ำตามสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดฝุ่นละอองให้ครอบคลุมทั้งเมือง เพื่อดูดซับฝุ่นละอองให้ตกลงมา...
nn รวมทั้ง ท่านผู้ว่าฯสมศักดิ์ ได้ทำหนังสือด่วนถึง สุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเพื่อขอรับการสนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ฯ เพื่อลดปัญหา พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและควบคุมดูแลโรงงานรวมทั้งการ เผาอ้อยและตอซังข้าว รวมทั้งการเผาขยะริมถนน...
nn ไปที่ จ.แม่ฮ่องสอน สิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน เผยว่า จ.แม่ฮ่องสอน ประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควันช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต สังคม เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว...
nn ดังนั้น เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาหมอกควันและไฟป่า คณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันของ จ.แม่ฮ่องสอน กำหนดให้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-30 เมษายน 2562 รวมระยะเวลา 61 วัน เป็นช่วงปลอดการเผาเด็ดขาด โดยให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชนดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด...
nn ด้าน จีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าฯกาญจนบุรี เป็นประธานในงานวันรณรงค์ตัดอ้อยสด งดการเผา ซึ่งได้มีการระดม เกษตรกร ทหาร และเครื่องจักร ลงพื้นที่ร่วมกันตัดอ้อยสด นำร่องในพื้นที่อำเภอเลาขวัญ เพื่อรณรงค์ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยหันมาตัดอ้อยสด และนำเสนอเทคโนโลยีการเกษตรทดแทนการเผาอ้อย เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผา ซึ่งส่งผลเสียต่อสภาพพื้นดินและสภาพอากาศ...
nn โดย ผู้ว่าฯ จีระเกียรติ ระบุว่า ทาง จ.กาญจนบุรี ได้มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยรณรงค์ขอความร่วมมือเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้ใช้วิธีการตัดอ้อยสด ส่งเข้าโรงงานแทนการเผา ซึ่งวิธีการดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบ ทั้งเศษใบอ้อย ฝุ่น ควัน ต่อประชาชน และจังหวัดกาญจนบุรี เป็น 1 ในจังหวัดที่มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจและโรคปอดต่างๆ ด้วย...
nn สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดย นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัด กทม. ก็ได้เตรียมแผนสำหรับดูแลเด็กนักเรียนว่า ตอนนี้ได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว หากสถานการณ์ค่าฝุ่นพุ่งกลับไปเป็นสีส้มก็พร้อมสั่งปิดเรียนได้ทันที...
nn นอกจากนี้ จะมีเเผนการเตรียมไว้สำหรับเด็กนักเรียนช่วงที่ค่าฝุ่นละอองพุ่งสูงและพ่อแม่ผู้ปกครองต้องออกไปทำงาน อาจต้องทิ้งลูกไว้ที่บ้านจึงจะทำ ห้องฟอกอากาศภายในโรงเรียนสังกัด กทม. โดยนำร่องในบางโรงเรียนที่มีความพร้อมก่อน...
nn “มือปราบ” เห็นว่า ถึงแม้ว่าพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ปัญหาฝุ่นมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็อย่าลืมว่า มาตรการหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นเพื่อควบคุมไม่ให้เกิดมลพิษนั้น ก็จะต้องมีต่อไป...
nn ซึ่งทาง นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ก็ได้ระบุว่า “ต้องเข้าใจธรรมชาติว่า ฝุ่น PM2.5 อยู่กับประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว และมีโอกาสจะเกิดขึ้นอีก ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศปิดประมาณเดือนธันวาคม-มีนาคม ฉะนั้นต้องเตรียมรับมือ โดยใช้วิชาการและองค์ความรู้มาช่วยหาวิธีการป้องกันระยะยาว เพราะปีหน้าก็เจออีก”...
nn และ “นพ.ประสิทธิ์” ยังกล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาด้วยว่า “ภาครัฐควรวางแผนป้องกันคือ ลดการเกิดฝุ่น เช่น เปลี่ยนน้ำมันเชื้อเพลิง ลดการเผาไหม้ ไม่สัมผัสฝุ่น มีการลดการใช้รถยนต์ จัดตารางวันคู่วันคี่ ช่วงที่เกิดฝุ่นหรือสภาพอากาศเลวร้าย เป็นต้น”...
nn อีกทั้ง “มือปราบ” ก็อยากจะให้ทางรัฐบาล เน้นย้ำถึงเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ที่มียุทธศาสตร์การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะว่า การพัฒนาประเทศในปัจจุบันนอกจากจะต้องมุ่งเน้นการในพัฒนาขีดความสามารถอย่างไม่หยุดยั้งแล้ว ก็จะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในลักษณะเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่ได้กำหนดไว้...
nn ดังนั้น เรื่องปัญหาฝุ่นสำหรับประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป จึงจำเป็นที่ต้องเปลี่ยน วิกฤติเป็นโอกาส ที่จะหันมาศึกษาผลกระทบของการพัฒนาที่มีปัญหากับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการก่อสร้างในเขตเมือง หรือการเผาไหม้เศษวัชพืชในพื้นที่ชนบทเพราะไม่ว่าจะมีการเผาหรือปล่อยอากาศเสียในชั้นบรรยากาศแล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย และจะกลายเป็นปัญหา “ดินพอกหางหมู” จนทำให้แก้ไขลำบากด้วย...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี