แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...
nn ระเบียบ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2561 หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 17 ระบุว่า “ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง”...
nn “คชสีห์” ไม่ต้องแปล ไม่ต้องขยายความใดๆ มันก็ชัดเจนในตัวอยู่แล้วว่า พรรคไทยรักษาชาติได้กระทำในสิ่งที่ “มิบังควร”!!....
nn ต่อจากนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าผลกรรมจากการกระทำในสิ่งที่มิบังควร จะเกิดแก่พรรคไทยรักษาชาติในลักษณะ หรือรูปแบบไหนบ้าง...
nn เหตุการณ์ผ่านมาหลายวัน นับตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า จนกระทั่งถึงวันนี้ พรรคไทยรักษาชาติ ก็ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นจากการนำสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการเมือง-การหาเสียงเลือกตั้งโดยทำเพียงแค่ออกแถลงการณ์ พร้อมกับอ้างว่าน้อมรับพระราชโองการ...
nn ถึงนาทีนี้ “คชสีห์” ก็รออยู่ว่า พรรคไทยรักษาชาติ จะเอาไงต่อว่าไงต่อ? แต่คงป่วยการที่จะหาความรับผิดชอบ เพราะบรรดาแกนนำพรรคต่างพร้อมใจกันหุบปาก เงียบสนิท ลำพัง “ปรีชาพล พงษ์พานิช”หัวหน้าพรรคนั้น “คชสีห์” ไม่เคยให้ราคา เพราะเป็นเพียงแค่ละอ่อนการเมือง ถูก “ไอ้โม่ง” เชิดเป็นหุ่นให้ออกหน้าแทนเท่านั้น...
nn ทำไม “คชสีห์” ถึงบอกว่า “ปรีชาพล” เป็นเพียงแค่ “ละอ่อน” ? คำตอบคือ เมื่อเปิดดูแฟ้มประวัติแล้ว ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ที่โตมาได้ก็เพราะบารมีพ่อแม่ล้วนๆ...
nn ตามประวัติ “ร.ท.ปรีชาพล”รับราชการทหารติดยศร้อยตรี ประจำสำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม และได้ย้ายมาช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้งที่พ่อ “เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” เป็นรมช.มหาดไทย...
nn ต่อมาในปี 2550 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสส.ขอนแก่น สังกัดพรรคพลังประชาชน โดยการสนับสนุนของพ่อ และที่สำคัญคือแม่“เจ๊เบียบ-ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช”...
nn ปี พ.ศ. 2553 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ สส. 6 คน พ้นสมาชิกภาพ กรณีถือครองหุ้นในธุรกิจสื่อ และบริษัทที่เป็นคู่สัมปทานของรัฐ ซึ่ง“ปรีชาพล” เป็นหนึ่งใน สส. ที่ถูกตัดสิทธิ์ แต่เมื่อมีเลือกตั้งซ่อมก็สามารถกลับเข้ามาเป็น สส.ได้อีกครั้ง ก่อนที่ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554จะได้รับเลือกตั้งเป็นสส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทยอีกสมัย...
nn แต่จู่ๆ “ปรีชาพล” ก็ก้าวกระโดดแบบพรวดพราดขึ้นมามีชื่อเสียงในเวลาชั่วข้ามคืน หลังจากพรรคเพื่อไทย แตกตัวแยกย่อยออกเป็นหลายพรรค โดยมีการบันทึกไว้ว่า การประชุมใหญ่ของพรรคไทยรักษาชาติ ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันพุธที่ 7 พฤศจิกายน 2561 “ร.ท.ปรีชาพล” ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1, นางสุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2, นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3, นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุลรองหัวหน้าพรรคคนที่ 4 นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรคคนที่ 1, นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรคคนที่ 2, นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรคคนที่ 3, นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค, นางสาวขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรค นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค, นายจุลพงศ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค และรศ.ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ กรรมการบริหารพรรค...
nn “คชสีห์” ว่า ถือเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงซึ่งก็คือกกต.จะต้องรีบเร่งดำเนินการกับพรรคไทยรักษาชาติอย่างรีบด่วน...
nn เลขาฯกกต. คือนายทะเบียนพรรคการเมืองโดยตำแหน่ง จะต้องขยันขันแข็ง ทำงานให้หนัก เพราะโทษานุโทษของกรณีนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ซึ่งถ้ามีการพิจารณาคดีจนถึงที่สุดและชี้มูลก่อนจะส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โทษทัณฑ์ก็คือ ยุบพรรค ทั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคทุกคน จะต้องถูกตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปีเต็ม!!...
nn สังคมทั่วไป“สุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข” ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจอาหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ลงนามความร่วมมือ“โครงการผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค” ณ รพ.รามาธิบดีเวลา 14.00 น. วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์...nn
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562เป็นวันที่คนไทยและคนต่างประเทศ ต้องการรู้ว่าพรรคใหม่เอี่ยมอ่อง“ไทยรักษาชาติ (ทษช.)”จะส่งผู้ใดเป็นนายกรัฐมนตรีทันทีที่ผู้นำรายชื่อเปิดหน้าให้ กกต.ดูพร้อมประวัติและรูปถ่าย ประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลก “ช็อก” ไปชั่วขณะ ทันทีที่ตั้งสติได้ประชาชนส่วนใหญ่ไชโยกันถ้วนหน้า การเมืองของประเทศจะเดินไปข้างหน้าได้เสียทีไม่ต้องหยุดชะงักจากการปฏิวัติซ้ำแล้วซ้ำเล่า การอภิปรายในสภาจะเรียบร้อยขึ้นมาก จะไม่มีการขุดโคตรพ่อโคตรแม่มาด่ากันในสภา การพูดจาจะดูดีขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาต่างๆ การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างจะเบาขึ้น โดยเฉพาะโครงการต่างๆ ที่ขึ้นเป็นดอกเห็ด สามารถนำมาทบทวนใหม่ได้ ประชาชนจะหน้าใสเพราะไร้การ “ปฏิวัติยึดอำนาจ” กันเสียที .....แต่มีพวก “รวจ” ทั้งหลายที่ตั้งกลุ่มตั้งแก๊งในโซเชียลเมื่อพรรค ทษช. เปิดตัวนายกรัฐมนตรี บรรดากลุ่ม “รวจ” ทั้งหลายนิ่งสนิทไม่มีการเชียร์บิ๊ก หรือลุงทั้งหลายเลย เป็นการนิ่งสนิทเพื่อดูทิศทางว่าการเมืองจะลงตัวอย่างไร พวกกลุ่ม “รวจ” จะได้หาทางเข้าไปเลียแข้งเลียขาเพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ ขณะเดียวกันแก๊งนายพลผู้ยิ่งใหญ่พากันตั้งหลัก เพื่อดูว่ารัฐบาลใหม่มีใครที่พวกเขาจะเข้าไปพบเพื่อนำหลวงพ่อเงินนำหน้าไปถวายตัว
แต่คงยากแล้วเนื่องจากแต่ละคนประวัติแสนจะด่างพร้อย สร้างความกดดันให้ตำรวจทั่วประเทศเอาดีใส่ตัวป้ายสีให้คนอื่นที่เขาทำงานและเอาตำแหน่งเขามาขายกิน คงจะเข้าไปพบยาก “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกมากมาย พวกเก่าที่หาผลประโยชน์ด้วยการเหยียบหัวคนอื่น “นั่งหน้าเศร้าเล่าความเท็จ” ต้องหมดยุคเสียที เงินที่ได้มาในทางมิชอบมีคนฟอกให้เรียบร้อยแล้วไม่ต้องกังวลแล้ว ถึงเวลาที่ “เก่าจะต้องไป ใหม่จะได้กลับมา” เมื่อพวกนี้ออกไป พื้นที่ใน “สตช.จะได้สูงขึ้นเสียที” ......สวัสดีครับ......
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี